svasdssvasds

“อัจฉริยะ” ร้องปปป.เอาผิด 3 ตร. คดีแตงโม มั่นใจเดินถูกทางแล้ว

“อัจฉริยะ” ร้องปปป.เอาผิด 3 ตร. คดีแตงโม มั่นใจเดินถูกทางแล้ว

“อัจฉริยะ” ร้องปปป. เอาผิด 3 ตำรวจ สภ.เมืองนนท์ สร้างพยานหลักฐานเท็จ แก้ไขเวลาคลิปกล้องวงจรปิด และแจ้งเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่น เชื่อเวลาภาพถ่ายเปลี่ยนแปลงทำให้เหตุการณ์ขัดแย้งกัน ระบุมีหลักฐานสำคัญยังไม่เปิดเผย แต่จะให้แม่แตงโมดูก่อน มั่นใจเดินถูกทางแล้ว

วันที่ 27 พ.ค. 65 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. เพื่อกล่าวโทษ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 และพวก ฐานร่วมกันสร้างพยานหลักฐานเท็จคดีแตงโม ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา โดยการแก้ไขเวลาคลิปกล้องวงจรปิดนาทีที่ 22.18 และร้องกล่าวโทษ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิตผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ฐานแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา โดยมีพ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. เป็นตัวแทนรับเรื่องดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ในวันนี้มากล่าวโทษให้ดำเนินคดี พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิตผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ข้อหาแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา ในกรณีที่แจ้งความตนข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 และพวกจากการใช้ภาพวิดิโอที่เป็นเท็จในการแถลงเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหา เนื่องจากมีภาพและเวลาไม่ตรงกัน โดยตนนำหลักฐานมาเป็นคลิปวิดิโอที่ใช้ในการแถลงข่าว ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเอาผิดได้ โดยหลักฐานของตนนั้นอิงตามกูเกิ้ลแมพ และพบว่านาทีที่ 22.18 นั้น เรืออยู่ที่วัดจันทร์ ไม่ใช่สะพานซังฮี้ ซึ่งห่างกันประมาณ 1.6 กิโลเมตร ถือว่าไกลมาก และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเวลา ก็จะทำให้ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเปลี่ยนแปลงและขัดแย้งกัน

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ส่วนการเป็นที่ปรึกษาในคดีนั้น เมื่อวานนี้ (26 พฤษภาคม) ตนได้คุยกับนางพนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม แล้ว ให้ตนเป็นที่ปรึกษา มีหน้าที่รับผิดชอบด้านกฎหมาย โดยมีทนายวินัย ชุมสวัสดิ์ และ ทนายสุธีพงศ์ ชีวิตเจริญ เข้าร่วมด้วย ส่วน ส.ส.เต้ มงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ คอยดูแลและอำนวยความสะดวกนางพนิดา

“สาเหตุที่นางพนิดาเชื่อผมนั้น เพราะมีหลักฐานบางอย่างที่ยังสงสัย เนื่องจากหลังเกิดเหตุ กลุ่มคนบนเรือมีการนำโทรศัพท์ของแตงโมไป และมีภาพในโทรศัพท์ถูกลบถึง 500 กว่าภาพ และคลิปวิดิโอ 2 คลิป นางพนิดาจึงไม่รู้ว่าจะปรึกษาใคร ทนายความเองก็ให้เชื่อแต่ตำรวจ จนกระทั่งบังแจ็คติดต่อมาว่าสามารถกู้ภาพได้ ซึ่งขณะนี้ ผมยังไม่รู้ว่าภาพที่กู้มาเป็นภาพอะไร เพราะไม่ได้ติดต่อกับบังแจ็ค ส่วนหลักฐานสำคัญที่ผมมีนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้ แต่จะนำไปให้นางพนิดาดู ซึ่งเท่าที่พูดคุยกัน นางพนิดาก็เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม”

นายอัจฉริยะ ยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่มีการฟ้องร้องผู้สื่อข่าวหรือทนายความคนใด แม้กระทั่งทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด โดยในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ จะพานางพนิดาเข้าพบ ผบช.สอท. โดยจะไม่มีเรื่องข้อหาการเป็นผู้สนับสนุน เพราะนางพนิดาไม่ได้อนุญาตให้บังแจ็คนำภาพไปเผยแพร่ โดยการนัดฟังคำสั่งของอัยการนั้น แม้จะมีความเห็นสั่งฟ้องตนก็ไม่กังวล เพราะเป็นหลักฐานและคดีคนละส่วนกัน 

นายอัจฉริยะ เปิดเผยอีกว่า สำหรับส่วนของตนเป็นคดีฆาตกรรม ส่วนการฟ้องค่าเสียหาย 200 ล้านบาทกับผู้ต้องหา ที่ ส.ส.เต้พูดนั้น คิดว่า ส.ส.เต้ ก็คงพูดสนุกๆ ไป เนื่องจากต้องรอผลคำพิพากษาในคดีอาญาก่อน จึงจะดำเนินการฟ้องแพ่งได้ ซึ่งการกระทำของ ส.ส.เต้ นั้น ต้องเข้าใจว่าเป็นการทำงานสไตล์นักการเมือง ซึ่งตนไม่สามารถก้าวล่วงได้ เพราะหน้าที่ของตนคือการรวบรวมพยานหลักฐานและการทำคดี และอาจมีการปรึกษากับ ส.ส.เต้ เช่นกัน

"ผมมั่นใจว่าขณะนี้เดินมาถูกทางแล้ว ทั้งนี้ คิดว่าการที่นางพนิดาเปลี่ยนทนายความนั้นเป็นเพราะเรื่องการให้คำปรึกษา เนื่องจากทนายความคนแรกก็ไม่มีประสบการณ์ ส่วนคนที่สองก็ให้เชื่อแต่ตำรวจ หากมีที่ปรึกษาดี นางพนิดาก็คงมีทัศนคติอีกแบบหนึ่ง คิดว่าขึ้นอยู่กับที่ปรึกษามากกว่า ที่ผ่านมาคงไม่มีใครให้นางพนิดาดูหลักฐานที่เชื่อมโยงกับฆาตกรรม"

related