หิมะสีเลือด Snow blood คืออะไร ? ทำไมเชื่อมโยงกับโลกร้อน และ Climate change

• หิมะสีเลือด Snow blood คืออะไร ? 

ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หรือ Climate Change ดูจะหนักข้อมากขึ้นเรื่อยๆ และมันส่งผลให้โลก ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่เคยปรากฏการณ์มาก่อนในหลายๆเหตุการณ์ ล่าสุด เวลานี้ ที่ยุโรป บนเขา เทือกเขาแอลป์ มีการศึกษา เกี่ยวกับ หิมะสีเลือด หรือ Snow blood และเรื่องนี้ น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับ Climate change อย่างปฏิเสธไม่ได้

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นบ่อยนัก โดยเรียกว่า หิมะสีเลือด หรือ Snow blood ซึ่งเกิดขึ้นบนเทือกเขาแอลป์ ในเขตประเทศฝรั่งเศส , โดย หากจะอธิบายอย่างง่ายที่สุดว่า หิมะสีเลือด Snow blood คืออะไร ?  ความจริงแล้ว สีที่ออกมาใช่ได้ออกจากหิมะ แต่มันเป็นสีของ "สาหร่าย" ที่อยู่ใต้หิมะ ที่มีอุณหภูมิต่ำมากๆ
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ปารีสเจออากาศร้อนเร็วสุด รอบ 75 ปี ส่วนหนึ่งมาจาก Climate Change

• กัมพูชาพบ ปลากระเบนแม่โขง ทุบสถิติเป็น ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

• ภาวะโลกร้อน ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ในขั้วโลกใต้ ละลายเร็วที่สุดในรอบ 5,500 ปี

โดยปกติแล้ว ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ หิมะสีเลือด หรือ Snow blood , สาหร่ายเหล่านี้ จะมีสีเขียว แต่ทว่า เมื่อสาหร่ายเหล่านี้ ที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2500 เมตร ต้องอยู่ในหิมะที่เย็นจัด มันจะเพิ่มเม็ดสีเหมือนครีมกันแดดเพื่อปกป้องตัวเอง

โดย สำนักข่าวรอยเตอร์ เปิดเผยความเห็นของ เอริค มาเรชาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยที่ศูนย์การวิจัยทางวิทยาศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส ในเมืองเกรอน็อบ ว่าปรากฏการณ์ สาหร่ายกลายเป็นสีแดง นั้นอาจจะมีความเชื่อมโยงกับสภาวะโลกร้อน รวมถึงสภาวะ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ หรือ Climate Change 
 

ทั้งนี้ สิ่งที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนคือ สาหร่ายเป็นตัวเร่งการละลายหิมะ เนื่องด้วยสารสีของสาหร่ายลดความสามารถในการสะท้อนความร้อนจากดวงอาทิตย์ อีกทั้งหากมันแพร่กระจายในวงกว้าง การละลายของหิมะและภูเขาน้ำแข็งทั่วโลกจะเกิดเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน
 

ในเวลาเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์บางคน ซึ่งรวมถึง อัลแบร์โต้ อามาโต นักวิจัยวิศวกรรมพันธุกรรม กล่าวว่า สาหร่ายมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate change  เนื่องจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศที่มีปริมาณสูง ซึ่งประเด็นนี้มันเอื้อต่อการเจริญเติบโตของสาหร่าย

"ยิ่งอากาศร้อนมากเท่าไหร่ สาหร่ายเหล่านี้ ยิ่งมีมากขึ้น และหิมะจะละลายเร็วขึ้น มันเป็นวัฏจักรที่อันตราย และพวกเรากำลังพยายามทำความเข้าใจกลไกทั้งหมด เพื่อที่เราจะสามารถลองทำอะไรสักอย่างกับมันหิมะสีเลือด" อัลแบร์โต้ อามาโต นักวิจัยวิศวกรรมพันธุกรรม ให้ความเห็น