svasdssvasds

23 กรกฎาคม “Hot Dog Day” วันอร่อยแห่งชาติสหรัฐอเมริกา

23 กรกฎาคม “Hot Dog Day” วันอร่อยแห่งชาติสหรัฐอเมริกา

Hot Dog Day วันอิ่มพุงกาง ที่จัดโดยสภาฮอทดอกและไส้กรอกของสหรัฐอเมริกา เมนูเรียบง่ายที่กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติ กลับมีต้นกำเนิดยาวนานอย่างคาดไม่ถึง รวมถึงที่มาของชื่อเมนูสุดจี๊ดอย่าง “หมาร้อนๆ”

เชื่อกันว่าไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าเมนูที่เรียบง่าย แต่แสนอร่อยอย่าง ฮอทดอก (Hot Dog) เมนูที่มีไส้กรอกหนังกรอบร้อนๆ คั่นกลางขนมปังนุ่มๆ ก่อนจะราดด้วยซอสมะเขือเทศและซอสมัสตาร์ดปิดท้าย

ซึ่งนับว่าเป็นเมนูโปรดของใครหลายๆคน แต่น้อยคนจะรู้ว่าเจ้าอาหารชนิดนี้ก็มีความสำคัญถึงขั้นมี วันของตัวเองด้วยก็คือทุกๆ วันที่ 23 กรกฎาคม ของทุกปีนั่นเอง

โดยวัน ฮอทดอก ได้ถูกกำหนดตั้งขึ้นมาจากสภาฮอทดอกและไส้กรอกของประเทศสหรัฐอเมริกา และในวันฮอทดอก จะมีการจัดประกวดการแข่งขันมากมาย เช่น การจัดประกวด “สุนัขพันธุ์ดัชชุน” หรือ ที่คนไทยมักเรียกสุนัขพันธุ์นี้ว่า “สุนัขไส้กรอก”

นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันดื่มรูทเบียร์ น้ำอัดลมแสนอร่อย และการตกแต่งเพ้นท์ใบหน้าด้วยสีสันหรือลวดลายต่างๆ ที่สร้างความสนุกสนานให้กับประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้

หลายคน คงสงสัยกันว่า ทำไม? เจ้าเมนูชนิดนี้ถึงได้มีชื่อประหลาด หากแปลตรงตัวก็แปลได้ว่า หมาร้อน ซึ่งไม่มีส่วนไหนที่น่าจะเกี่ยวข้องกับไส้กรอกและขนมปังในเมนูนี้เลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำว่า ฮอทดอก มาจากนักวาดการ์ตูนในปี 1906 นามว่า “โทมัส ดอร์แกน”

ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปร่างที่โค้งงอของสุนัขพันธุ์ดัชชุนที่เขาเลี้ยงไว้ และเสียงตะโกนเรียกให้คนซื้อสินค้าของพ่อค้า ที่คล้ายกับเสียงสุนัขเห่ารัวๆ กอร์ดอนจึงลงมือวาดรูปสุนัขดัชชุนที่ราดด้วยซอสมัสตาร์ดแล้วเอาขนมปังมาประกบคู่

ก่อนจะเขียนบรรยายใต้ภาพว่า “ซื้อหมาร้อนๆ” (Get your hot dog!) และได้เล่าต่อกันมาว่าเพราะดอร์แกนไม่สามารถสะกดชื่อพันธุ์สุนัขดัชชุนได้ จึงใช้คำว่า หมา แทน

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังจากนั้นคำว่า ฮอทดอก ก็ติดปากคนอเมริกา เลิกเรียกไส้กรอกด้วยคำอื่นๆ และทำให้คนทั้งโลกคิดว่าเมนู ฮอทดอก เป็นเมนูประจำชาติที่คนอเมริกันคิดค้นขึ้นมาอีกด้วย

ฮอทดอก เมนูข้างถนนที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดชนิดหนึ่ง จนขึ้นชื่อว่าเป็น อาหารแห่งอเมริกัน กันเลยทีเดียว เนื่องจากฮอทดอกหาซื้อรับประทานได้ง่ายตามท้องถนน และยังตั้งขายอยู่บริเวณสนามเบสบอล

ฮฮทดอก จึงกลายเป็นอาหารที่ได้รับความนิยม และถูกนึกถึงเป็นเมนูแรกๆ เมื่อคนอเมริกันเดินทางไปรับชมการแข่งกีฬาเบสบอล

ต้นกำเนิดที่แท้จริง

แม้เชื่อกันว่า ฮอทดอก มีต้นกำเนิดจากคนเยอรมันที่อพยพไปอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา แต่ต่อมาได้มีข้อมูลว่า ฮอทดอก มีต้นกำเนิดมานานถึง 3,500 ปี ตั้งแต่สมัยยุคบาบิโลเนีย

โดยแรกเริ่มเมนูนี้มีลักษณะเป็นเนื้อหมักมีส่วนผสมจากเครื่องเทศ ชาวโรมันได้เรียกอาหารชนิดนี้ว่า “Salsus” ก่อนกลายมาเป็นคำว่า “Sausage” ในภาษาอังกฤษยุคกลาง ก่อนที่เมืองต่างๆในยุโรป จะได้รับอิทธิพลนำไปดัดแปลงปรับสูตร รสชาติ และรูปร่าง เป็นของเมืองตนเอง และมีชื่อเรียกเฉพาะเมือง เช่น ไส้กรอกเวียนนา

 

และถึงแม้เมนู ฮอทดอก จะเป็นเมนูเรียบง่าย แต่เจ้าเมนูนี้กลับมีที่มาและแหล่งกำเนิดได้อย่างยาวนานและน่าทึ่ง ที่สำคัญยังเป็นไม่กี่เมนูบนโลกที่ได้มีวันสำคัญเป็นของตัวเอง ทั้งนี้แม้จะเป็นเมนูเรียบง่ายและแสนอร่อย แต่ไม่ควรรับประทานบ่อยๆ เพราะมีปริมาณแคลเลอรี่ 289.7 แคลเลอรี่ เลยทีเดียว

แม้จำนวนตัวเลขจะดูน้อยเมื่อเทียบกับอาหารจานด่วนเมนูอื่นๆ แต่ถ้าหากรับประทานมากเกินไป ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ ดังนั้นเมื่อรับประทานฮอทดอกแล้ว ต้องหมั่นออกกำลังกาย รวมทั้งรับประทานให้ครบห้าหมู่เพื่อสุขภาพที่ดี เพื่อให้สามารถเข้าร่วมฉลองวัน ฮอทดอก ในปีต่อๆ ไปได้อย่างหายห่วง

 

 

related