svasdssvasds

"พรมมิ" ผักชื่อเทพ ความจำเป็นเริ่ด!!

"พรมมิ" ผักชื่อเทพ ความจำเป็นเริ่ด!!

ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th

พรมมิ มองผ่านๆอาจดูเหมือนไร้ค่า แต่เป็นสมุนไพร ชื่อมหามงค ลสื่อถึงพระพรหม ช่วยบำบัดเจ็บ บำรุงความจำ

โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) เป็นโรคเรื้อรังและเป็นสาเหตุให้คุณภาพชีวิตของประชากรสูอายุน้อยลง ยาหรือสมุนไพรที่จะสามารถนำมารักษาหรือบรรเทาอาการโรคที่เกิดจากการเสื่อมนี้ จึงมีความสำคัญทั้งทางด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะคนวัยหนุ่มสาวที่เกิดความเสื่อมของระบบประสาทและความทรงจำ มากขึ้นทุกที ขณะที่ พรมมิเป็นสมุนไพรดั่งเดิม เป็นผักพื้นบ้าน ขึ้นตามริมตลิ่ง เพาะง่าย ที่ชาวบ้านใช้ลวกจิ้มน้ำพริก แต่ที่อินเดียใช้ในการแพทย์อายุรเวทเพื่อบำรุงความจำ สมอง รักษาอาการไข้ สามารถใช้ทดแทนสมุนไพรนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น แปะก๊วย และโสม ได้

เทรนใหม่ของสมุนไพร "พรมมิ" Brahmi ซึ่งมีความหมายถึงพระพรหม ผู้ให้กำเนิดโลก และสรรพสิ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bacopa monnieri Wettst เป็นพืชล้มลุก ลำต้นทอดนอนแผ่ไปตามพื้น มีความยาว 10-40 เซนติเมตร แตกกิ่งก้านมาก มีรากออกตามข้อใบเดี่ยว ดอกเดี่ยว ออกจากซอกใบ

สำหรับในประเทศไทย มีหลักฐานการใช้พรมมิเป็นยา ตั้งแต่สมัยอยุธยา ในตำราโอสถพระนารายณ์ จนมาถึงในสมัยรัตนโกสินทร์ ได้ปรากฏหลักฐานการใช้พรมมิในตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ระบุว่า พรมมิ มีรสหวาน แก้ไขสวิงสวาย หรืออาการที่เป็นลม ทำให้หน้ามืด ตาลาย ใจหวิว กระสับกระส่าย แก้หืด ไอ กินแก้ริดสีดวง กินเจริญปัญญา และมีการใช้เป็นตัวยาในตำรับต่าง ๆ เช่น เข้ายาเขียวมหาพรหม สำหรับแก้โลหิตพิการ ซึ่งทำให้พิษร้อนทั่วสรรพางค์กาย เข้ายาแก้ซางแห้งในเด็ก เข้ายาแก้ลมที่ทำให้ท้องขึ้น เข้ายาเขียวประทานพิษ แก้โรคลม

มาโฟกัสกันต่อที่ผลของพรมมิ ต่อการเรียนรู้และความจำ

ในการศึกษาผลต่อการเรียนรู้และการป้องกันเซลล์ประสาทของหนู พบว่าเมื่อให้สารสกัดพรมมิขนาด 20, 40 และ 80 มก./ น้ำหนักหนู 1 กิโลกรัม เป็นเวลา 14 วัน หนูมีการเรียนรู้ และความจำดีขึ้น

เมื่อศึกษาเปรียบเทียบผลของสารสกัดพรมมิกับสารสกัดจากใบแปะก๊วย และยา donepezil ซึ่งเป็นยาต้านอัลไซเมอร์

พบว่า หนูแก่ที่ได้รับสารสกัดพรมมิ (40 มก./กก.) มีการเรียนรู้และความจำเกี่ยวกับสถานที่ และความสามารถในการจดจำสิ่งของได้ดีพอ ๆ กับหนูแก่ที่ได้รับสารสกัดจากใบแปะก๊วย (60 มก./กก.) หรือที่ได้รับยา donepezil (1 มก./กก.) และดีกว่าหนูแก่กลุ่มควบคุมที่ได้รับเฉพาะน้ำกลั่นอย่างมีนัยสำคัญ

มาดูผลของพรมมิต่อระบบหัวใจหลอดเลือด

เมื่อให้สารสกัดพรมมิ (40 มก./กก.) หรือสารสกัดแปะก๊วย (60 มก./กก.) ทางปากในหนูแรทเป็นเวลานานติดต่อกัน 2 เดือน พบว่าทั้งสารสกัดพรมมิ และสารสกัดแปะก๊วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตบริเวณหลอดเลือดแดงบนเยื่อหุ้มสมอง โดยมีประสิทธิภาพเท่า ๆ กัน และสารสกัดพรมมิ ไม่มีผลทำให้ความดันโลหิตและอัตราการเต้นหัวใจของหนูแรทเปลี่ยนแปลงไป และไม่พบความเป็นพิษของพรมมิ ในการศึกษาพิษวิทยา ทั้งพิษเฉียบพลัน กึ่งเรื้อรัง และเรื้อรัง ซึ่งศึกษาการให้พรมมิในขนาดสูงในหนูขาวเป็นระยะเวลา 9 เดือน

ต่อมา กลุ่มคณะนักวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ศึกษาผลของพรมมิในอาสาสมัครวัยกลางคนและสูงอายุ (อายุมากกว่า 55 ปี) พบว่า เมื่ออาสาสมัครได้รับสารสกัดพรมมิเป็นเวลา 2 เดือนขึ้นไป ประสิทธิภาพการทรงตัวจะเพิ่มขึ้นมีการตื่นตัวต่อสิ่งเร้าและมีสมาธิมากขึ้น มีความสามารถในการเรียนรู้และความจำเพิ่มขึ้น โดยมีแนวโน้มว่าสารสกัดพรมมิจะออกฤทธิ์โดยการเพิ่มระดับสารสื่อประสาทอะเซติลโคลีนและลดระดับ oxidative stress นอกจากนี้จากการศึกษายังไม่พบอาการพิษ และภาวะข้างเคียงใด ๆ ในอาสาสมัคร

ถามว่า แล้วควรกินผักพรมมิเท่าไร อย่างไร ตอบว่า ควรกินประมาณ 30 กรัมต่อวัน ซึ่งเท่ากับพรมมิประมาณ 50 ยอด หรือ 1 จาน ซึ่งสำหรับการเพาะปลูกนั้น พรมมิเป็นพืชที่ปลูกง่าย แค่ตัดมาปักบนดินก็ขึ้นแล้ว เหมาะกับดินทุกประเภท โดยเฉพาะดินที่ค่อนข้างเหนียว พรมมิต้องการแสงแดด และต้องการน้ำ ควรปล่อยให้น้ำท่วมดินที่ปลูกอยู่ตลอดเวลา ปลูกง่ายจนอยากหามาปลูกเสียเดียวนี้เลย เพราะอรรธเอง ความจงความจำ ก็ไปเยอะล่ะ ขอให้มีความสุขกับความทรงจำใหม่นะคะ

related