svasdssvasds

“ธนาธร” ลั่น ประเทศถึงเวลาเปลี่ยน ชู พิธา เหมาะสมสุดนั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

“ธนาธร” ลั่น ประเทศถึงเวลาเปลี่ยน ชู พิธา เหมาะสมสุดนั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ปลุกถึงเวลาประชาชนฝันใหญ่ เวลานี้คือโมงยามที่ดีที่สุดสำหรับการเปลี่ยนประเทศ ลั่น “พิธา” แคดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้นำทางการเมืองของประเทศไทยในวันนี้

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวปราศรัยบนเวทีใหญ่ครั้งสุดท้าย ก่อนการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 ว่า พรรคก้าวไกล เติบโตพร้อมสังคมไทยอย่างไม่มีทางหวนเวลากลับ เวลานี้คือโมงยามที่ดีที่สุดสำหรับการเปลี่ยนประเทศ จากพรรคอนาคตใหม่มาจนถึงพรรคก้าวไกล เราไม่ใช่แค่พรรคการเมือง แต่คือผู้คนและการเดินทาง

“ธนาธร” ลั่น ประเทศถึงเวลาเปลี่ยน ชู พิธา เหมาะสมสุดนั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เราได้เดินทางผ่านสิ่งต่างๆ และลงมือทำสิ่งต่างๆ มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ทั้งในและนอกสภา ไม่ว่าจะเป็นต่อการทุจริตคอร์รัปชัน อิทธิพลมืด ค้ายาเสพติด ตำรวจตั๋วช้าง การผูกขาดในระบบเศรษฐกิจ ที่เป็นต้นเหตุของความเหลื่อมล้ำ ปฏิบัติการไอโอของกองทัพในการยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนเป็นศัตรูกันเอง การใช้งบประมาณและการจัดซื้อจัดจ้างที่เต็มไปด้วยความผิดปกติของกองทัพ การต่อสู้เพื่อสิทธิของแรงงาน เพื่อสิทธิที่ดินของชาวบ้าน คนไทยพลัดถิ่น และกลุ่มคนต่างๆ ที่ไร้ปากเสียงในสังคม และในขณะที่เพื่อนพรรคก้าวไกลของเราทำงานอยู่ในสภาฯ คณะก้าวหน้าก็ทำงานอยู่ในระดับท้องถิ่น เช่น การทำน้ำประปาให้ดื่มได้ที่ ต.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด พัฒนาระบบการแพทย์ทางไกลในตำบลไปพร้อมกัน

“ธนาธร” ลั่น ประเทศถึงเวลาเปลี่ยน ชู พิธา เหมาะสมสุดนั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายธนาธรกล่าวต่อไป ว่าคุณค่าเรื่องคนเสมอภาคเท่าเทียมเป็นคุณค่าที่เรายึดถือมาตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ มาจนเป็นพรรคก้าวไกล ทุกคนเป็นคนเท่าเทียมกัน ควรเข้าถึงบริการของรัฐอย่างเสมอภาคกัน เราปฏิบัติตามคุณค่าที่เรายึดถือ ไม่ใช่แค่สโลแกนสวยๆ ที่แปะไว้หน้าพรรค แต่คือการกระทำ และเหตุผลที่เรากล้าเผชิญหน้ากับผู้มีอิทธิพล กลุ่มทุนผูกขาด ก็เพราะพวกเขาไม่ใช่นายของเรา นายของเรามีคนเดียวนั่นก็คือพี่น้องประชาชนเท่านั้น พรรคการเมืองนี้เป็นพรรคการเมืองที่มาจากประชาชน เป็นของประชาชน และดำรงอยู่เพื่อประชาชน นี่คือพวกเราอนาคตใหม่-ก้าวไกล

“ธนาธร” ลั่น ประเทศถึงเวลาเปลี่ยน ชู พิธา เหมาะสมสุดนั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

นายธนาธรยังกล่าวต่อไป ว่าและไม่ใช่แค่ในสถานการณ์ปกติเท่านั้น แต่ในสถานการณ์คับขันเราก็พร้อมเดินไปกับประชาชน หลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ คลื่นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงจากคนหนุ่มสาวที่ไม่เคยมีใครคาดเดามาก่อนว่าจะเกิดขึ้นได้ปรากฏขึ้นมา การเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาวนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ทำให้คนที่เคยถอดเสื้อแดงกล้าหยิบมาใส่ใหม่ด้วยความภาคภูมิใจ เปิดประตูความเป็นไปได้ใหม่ๆ ประเด็นที่เคยอ่อนไหวถูกเรียกร้องออกมาอย่างซึ่งๆ หน้า และเปลี่ยนแปลงสังคมไทยไปตลอดกาล

“ธนาธร” ลั่น ประเทศถึงเวลาเปลี่ยน ชู พิธา เหมาะสมสุดนั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

ในยามที่ไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่คนไหนในบ้านเมืองนี้ออกมายืนยันในสิทธิเสรีภาพในการพูด คิด เขียน และการประกันตัวของประชาชน ไม่มีใครออกมายืนยันเผชิญหน้าความจริงอันน่ากระอักกระอ่วน ในยามที่สังคมโหยหาเสียงแห่งเหตุผล

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนปัจจุบัน ได้แสดงความเป็นผู้นำออกมาให้เห็นอย่างกล้าหาญ ตอบสนองเสียงเรียกร้องแห่งยุคสมัย เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองคนแรกและคนเดียวในรอบ 10 ปี ที่กล้าออกมาพูดความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนใจ ในสภาผู้แทนราษฎร อย่างมีวุฒิภาวะ อย่างเห็นอกเห็นใจและเข้าใจทุกฝ่าย ขณะที่ยังดำรงความหนักแน่นทางการเมืองไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย นี่คือเหตุผลที่พิธาเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นผู้นำทางการเมืองของประเทศไทยในวันนี้

“ธนาธร” ลั่น ประเทศถึงเวลาเปลี่ยน ชู พิธา เหมาะสมสุดนั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 “ราคาที่ต้องจ่ายคือการยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่นี่เป็นการลงทุนที่สุดคุ้ม ไม่มีธนาธรก็มีพิธา ไม่มีปิยบุตรก็มีชัยธวัช ไม่มีพรรณิการ์ก็มีพริษฐ์” ธนาธรกล่าว

นายธนาธรกล่าวต่อไป ว่าทุกเรื่องที่เราทำนั้น เราทำท่ามกลางคำปรามาสว่าเราไม่มีประสบการณ์ และขณะที่เป็นฝ่ายค้านทั้งสิ้น แล้วคิดดูว่าในวันนี้เรามีประสบการณ์แล้ว เราจะทำได้ดีกว่านี้ขนาดไหน จากพรรคอนาคตใหม่มาเป็นพรรคก้าวไกล เราเติบโตขึ้นอย่างองอาจกว่าเดิมพร้อมการตื่นรู้ที่มากขึ้นของสังคม เวลานี้โมงยามแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว ไม่มีทางที่จะหวนคืนทุกอย่างกลับได้แล้ว ประชาชนตื่นรู้ทางการเมืองแล้ว และจะไม่ยอมกลับไปหาอดีตที่มืดมิดอีก นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของประเทศไทยที่จะเปลี่ยนแปลง โอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนตลอด 17 ปีที่ผ่านมา ไม่มีเวลาไหนที่ฉันทามติเพื่อการเปลี่ยนแปลงจะดังสนั่นทั้งแผ่นดินเท่าเวลานี้ เวลานี้เป็นเวลาแห่งการฝันใหญ่ ไม่ใช่เวลาแห่งการเจียมเนื้อเจียมตัว

“ธนาธร” ลั่น ประเทศถึงเวลาเปลี่ยน ชู พิธา เหมาะสมสุดนั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 “หน้าที่ของผมในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกลจบลงที่เวทีนี้ ต่อไปเป็นหน้าที่ของทุกคน ในวันที่ 14 พ.ค. ที่จะส่งพรรคก้าวไกลไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่งพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี” ธนาธรกล่าว

related