อมรัตน์ ขอโทษสังคม หากทำให้ไม่สบายใจ ปมบุกหาสาว "ปีใหม่" คู่กรณี ยันไม่ใช่คุกคาม เผยตกเป็นเหยื่อ ถูกกระทำมายาวนาน มั่นใจไม่ผิดกฎหมาย PDPA ยอมรับคำตัดสิน หากถูกให้ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษารองประธานสภา โยน "หมออ๋อง" ปดิพัทธ์ ตัดสินใจ
จากกรณีประเด็นร้อนบนโลกโซเชียล เมื่อนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล แกนนำพรรคก้าวไกล ได้ใช้สื่อโซเชียลโพสต์ตามล่าแฟนคลับของพรรคเพื่อไทยรายหนึ่งที่ชื่อว่าปีใหม่ หลังไม่พอใจที่ถูกแฟนคลับของพรรคเพื่อไทยรายนี้วิพากษ์วิจารณ์ถึงตนเอง โดยนางอมรรัตน์ไปเยี่ยมปีใหม่ ถึงสถานที่ทำงานและบ้านพักส่วนตัว แต่ไม่พบ เนื่องจากเจ้าตัวออกไปหาลูกค้าข้างนอก
ล่าสุดนางอมรัตน์ โชคปมิตรกุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ในฐานะที่ปรึกษานายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงถึงกรณีที่ตนเองเขียนข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอบโต้ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กหนึ่งที่ไม่ทราบตัวตนที่ชัดเจน เขียนข้อความกล่าหาตนเอง แต่ไม่มีใครสามารถเอาผิดได้ จนมีการบุกไปถึงสถานที่ทำงาน และบ้านพักส่วนตัว และผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบจริยธรรมของนางอมรัตน์ว่า
ตนเองต้อขออภัยที่ทำให้สังคมในโลกออนไลน์เป็นพิษ และพร้อมยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งทางสังคม และกฎหมาย แต่ยืนยันว่า ตนเองจะดำเนินการตามกฎหมายด้วยเช่นกัน เนื่องจากเหลือทนกับการถูกกระทำต่อเนื่องยาวนานในการใช้พื้นที่ในโลกออนไน์สร้างข่าวปลอม โจมตี ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น เป็นระยะเวลามากว่า 2-3 ปี รวมถึงการนำรูปตนเองไปตัดต่อใส่บนใบหน้าของ "กำนันนก" จนทำให้ถูกตีความมีความเกี่ยวพันกับผู้มีอิทธิพล
ตนเองทนไม่ไหว จึงต้องปกป้องตนเอง และทราบเบาะแสว่า บุคคลดังกล่าวเป็นใคร จึงได้ติดต่อไปยังสถานประกอบการที่บุคคลรายนี้ทำงานอยู่ และสอบถามผู้จัดการทรัพยากรฝ่ายบุคคล พร้อมส่งพยานหลักฐานให้ ประกอบ ซึ่งระหว่างเดินทางกลับบ้านของตนเองนั้น ก็เป็นทางผ่านของบริษัทดังกล่าว จึงได้เข้าไปพูดคุยกับผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล และกรรมการบริหารของบริษัท ซึ่งผู้บริหารองค์กร ยอมรับว่า บุคคลดังกล่าว เป็นพนักงานของบริษัทนี้จริง
แต่พนักงานได้อ้างสิทธิการใช้พื้นที่ส่วนตัวในการสื่อสาร ผู้บริหารจึงตักเตือนว่า แม้จะเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่มีการสร้างข่าวปลอมก็ไม่สมควรทำ จึงได้ออกหนังสือตักเตือน พร้อมให้พนักงานลงนามรับทราบ และติดทัณฑ์บน 1 ปี หรือสุดท้ายหากบริษัทจะพิจารณาแล้วว่า การกระทำดังกล่าวไม่ผิด ตนเองก็ไม่ได้ค้างคาใจ
นางอมรัตน์ ยังมั่นใจว่า การติดตามหาบุคคลดังกล่าว ไม่ใช่การคุกคาม เพราะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ถูกต้อง และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะจบลงเท่านั้น พร้อมชี้แจงสาเหตุการโพสต์ข้อความดังกล่าวบนโลกออนไลน์ เพราะเชื่อว่า จะต้องใช้มาตรการทางสังคมกับบุคลที่ไม่มีตัวตน และสร้างสิ่งมีผลกระทบต่อสังคม จนถูกขยายผลสร้างความเสียหายต่อ
ซึ่งหากเป็นคนอื่น คงไม่สามารถฟ้องหมิ่นประมาทได้ แต่หากหลังจากนี้ ตนเองจะถูกดำเนินคดีโดยเฉพาะพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ก็พร้อมต่อสู้ตามกระบวนการตามกฎหมาย
ส่วนกรณีดังกล่าว อาจกระทบต่อนายปดิพัทธ์ ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะเป็นคณะทำงานของนายปดิพัทธ์หรือไม่นั้น นางอมรัตน์ ยอมรับว่า ไม่เป็นไร
ซึ่งหากจะกระทบใดๆ ตนเองก็พร้อมน้อมรับการพิจารณาของนายปดิพัทธ์ กับมาตรการตอบโต้ปกป้องของตนเอง ที่ทำไปอย่างมีสติ และมั่นใจว่าคุ้มค่า แต่ยืนยันพร้อมยอมรับ เพราะไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็สามารถทำงานได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง