3 ดาราดัง กับนิยามคำว่า "แม่" ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ของลูก

แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล…เชื่อว่าหากร้องเพลงนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่ หลายคนคงน้ำตาซึมและตื้นตันใจทุกครั้งที่ได้ฟัง ซึ่งเพลงดังกล่าวนั้น เรามักจะได้ยินเป็นประจำในช่วงเทศกาล "วันแม่" ของทุกปีนั่นเอง

และในโอกาส "วันแม่แห่งชาติ" ปีนี้ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2565 ทาง "สปริงบันเทิง" จึงขอหยิบยกนิยามคำว่า "แม่" ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูก ผ่าน 3 คุณแม่ดาราในวงการบันเทิงที่รักลูกดั่งแก้วตาดวงใจ คอยเลี้ยงดูและเอาใจใส่ จนลูกเติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพ

น้อย โพธิ์งาม

เริ่มจากอดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ "น้อย โพธิ์งาม" หรือที่เราเรียกว่า "แม่น้อย" มารดาของดาราสาว "หญิง รฐา" ที่ถูกหลายคนยกให้เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหัวใจแกร่งที่รักลูกมาก ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูก ซึ่งก่อนหน้านี้ แม่น้อย ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวความเป็นแม่ ผ่านรายการ "DNA TALK บุกคนต้นแบบ"

โดยแม่น้อยบอกว่าแม้ในอดีตตนไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งเรื่องค้าขาย ธุรกิจ หรือกระทั่งสามี แต่สิ่งเดียวที่ตนรู้สึกภูมิใจมากที่สุด นั่นคือการเลี้ยงลูกสาวได้อย่างดี จนเป็น หญิง รฐา ซุปตาร์แถวหน้าของเมืองไทยอย่างในทุกวันนี้

"สิ่งที่แม่คิดว่ามันสำเร็จจริงๆ คือ เราเลี้ยงลูกได้อย่างประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว ค้าขาย ทำธุรกิจ หรือแม้กระทั่งเรื่องสามี เราก็ไม่ประสบความสำเร็จ มีเรื่องลูกเรื่องเดียวที่เราไม่เคยยอม เราไม่ได้เกิดมาเป็นผู้ดิบผู้ดี แต่เราส่งลูก หัดให้ลูกทุกอย่าง จนลูกชมเราว่าเราไม่เหมือนตลกคนอื่น

จำได้เคยยืมเงินคนแปลกหน้า ไปซื้อตุ๊กตาตัวละหนึ่งพันบาท เป็นของขวัญที่หญิงสอบเข้าโรงเรียนเซนโยเซฟได้ เราส่งให้ลูกเราได้ในสิ่งที่เราไม่เคยได้ ทั้งฝึกพูด ฝึกภาษา เรียนร้อง เต้น รำไทย บัลเล่ต์ เปียโน ไวโอลิน ถ้าส่งประกวดนางงามได้ส่งไปแล้ว (หัวเราะ)"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• เปิด 6 คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรองของวงการบันเทิง ที่ชีวิตนี้ขอทำเพื่อลูก

• 5 ลูกดารา ผันตัวเข้าสู่เส้นทางบันเทิง เดินตามรอยพ่อแม่

• หัวใจติดดิน! "5 คนดัง" ทิ้งชีวิตหรูในเมือง ผันตัวเป็นเกษตรกร ทำไร่ทำสวน

"ทุกวันนี้มีแต่คนถามภูมิใจแค่ไหน แม่ตอบได้เลยว่าภูมิใจมากที่สุดในชีวิต แม่ทุกคนตายแทนลูกได้ ลูกทุกคนคือชีวิตของคนเป็นแม่ทั้งนั้น สมัยนั้นแม่ไม่ให้เขารู้ด้วยแม่มีหนี้สิน วันหนึ่งเราล้มละลาย ลูกเขียนไดอารี่ เราแอบลองอ่านดู เขาเขียนว่าจะทุกข์จะสุข ยังไงก็ยังจะมีแม่กับหญิงอยู่ด้วยกันสองคน เชื่อมั้ยมีอยู่คืนหนึ่ง เขามาเห็นเราแอบร้องไห้ในครัว เขาเดินมาบอกเราใกล้ๆ ว่า พรุ่งนี้ก็สว่างแล้วแม่ ขึ้นไปนอนเถอะ เลยยิ่งพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ได้แค่กตัญญู แต่เขาสามารถทายใจเราได้ คิดแทนเราว่าแม่จะต้องการเขามากแค่ไหน" 

หมู พิมพ์ผกา

ขณะทางด้านนักแสดงรุ่นใหญ่ "หมู พิมพ์ผกา" คุณแม่คนสวยของ "นาย ณภัทร" ก็เป็นอีกหนึ่ง Super woman ที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อลูก ให้ความรักและเลี้ยงดูลูกชายเป็นอย่างดี จนปัจจุบันนี้น้องนาย กลายเป็นพระเอกแถวหน้าของเมืองไทย มีแฟนคลับทั่วประเทศ และที่สำคัญเลยน้องนายยังกลายเป็นหนุ่มในฝันของสาวๆอีกด้วย

ซึ่งต้องบอกเลยว่าแม่ลูกคู่นี้รักกันมาก ตัวติดกันตลอด จนหลายคนชื่นชมการเลี้ยงดูลูกของแม่หมูเป็นอย่างมาก เพราะแม่หมูซัพพอร์ตลูกชายทุกอย่าง โปรโมทผลงานให้ลูกตลอด ทั้งคอยอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้ เรียกว่าเลี้ยงลูกแบบเพื่อนนั่นเอง

และหากย้อนไป น้องนาย เคยให้สัมภาษณ์ถึงความรักของแม่หมูไว้ว่า "จากที่จำความได้คุณแม่กับผม เราก็อยู่กันมา 2 คนตลอด และท่านก็ทำทุกอย่างเพื่อผมจริงๆ แม่มีคำปรึกษาให้ทุกเรื่อง แม่ไม่เห็นว่าผมเป็นเด็กตลอดเวลา เรื่องไหนที่ผมให้คำปรึกษาแม่ได้ ผมก็ให้ถึงมันจะช่วยได้บ้างไม่ได้บ้างก็ตาม แต่เราก็มีความสุขดี คุณแม่เลี้ยงผมเหมือนเป็นเพื่อน

คุณแม่พูดเสมอว่าเราไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคนเก่ง ไม่จำเป็นต้องเป็นคนฉลาด ขอแค่ให้เราเป็นคนดี หากใครต้องการความช่วยเหลือและเราช่วยได้ ก็ขอให้ช่วยเขา รวมถึงเรื่องของพระพุทธศาสนา ซึ่งเรื่องนี้คุณแม่ก็จะคอยสอนอยู่เรื่อยๆ มันเป็นเหมือนกับธรรมชาติของชีวิตที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอ"

ส้มเช้ง สามช่า

ปิดท้ายกันที่นักแสดงตลกชื่อดัง "ส้มเช้ง สามช่า" ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่หัวใจสุดแกร่ง เลี้ยงดูลูกสาว "น้องหยก" กับ "น้องคิม" ด้วยตัวเธอเองได้เป็นอย่างดี แม้จะไม่ประสบความสำเร็จเรื่องชีวิตคู่ แต่ส้มเช้งก็ไม่แคร์ เพราะเธอขยันทำงานเลี้ยงดูลูกสาวได้ด้วยตัวเอง เรียกว่าพยายามทำทุกอย่าง เพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกขาด

โดยสาวส้มเช้ง ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวชีวิตความเป็นแม่ของเธอในรายการ "Club Friday" ไว้ว่า "ถ้านิยามความรักครั้งแรกของ ส้ม ตอนนี้เหมือนความรักครั้งสุดท้ายเลยค่ะ สี่เดือนท้องแต่ที่ไม่ปกติคือ สามีของเราเริ่มเปลี่ยน เราเพิ่งรู้ว่าคบซ้อน นี่ยังคิดอยู่เลยว่าวันนั้นฉันเป็นเมียหลวง หรือฉันเป็นเมียน้อย ก็เลยบอกว่าคุณจะเลือกใคร เรารู้สึกว่าเราถือไพ่เหนือกว่า เพราะเรามีลูกสองคน ยังไงเขาต้องเลือกเรา

แต่เขาบอกว่าเขาเลือกไม่ได้ คือความฝันของเรามันพังทลายลงไปหมดแล้ว จึงหอบลูกหนี จนกระทั่งแบบมันสุดแล้ว ก็คว้าเชือกมาแล้วก็ร้องไห้ คิดอย่างเดียวฉันต้องตาย ลูกจะได้สบายคิดแค่นี้ แต่ในหัวเราก็มีอีกเสียง 'เฮ้ย!!จะตายจริงเหรอ' ในหัวเถียงกันไปเถียงกันมา จนคำที่เราเคยพูด เราลั่นไว้ว่าเราจะเลี้ยงลูกเราให้ได้ดี โดยเงินฉันเอง เราก็ร้องไห้แล้วปลดเชือกลงมาโยนทิ้ง เราก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ให้สิ่งที่เราเคยพูดไว้ อยากเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดจะไม่ให้ลูกรู้สึกว่าขาด"

นอกจากนี้สาวส้มเช้ง ยังเคยเล่าวิธีการเลี้ยงลูกของเธออีกว่า "พี่สอนลูกน้อยมากเลย แต่ว่าที่ลูกเป็นแบบนี้เพราะการกระทำ อย่างพี่ดูแลแม่ ทุกสงกรานต์พี่อาบน้ำให้แม่ ดูแล เอาใจใส่แม่ทุกอย่าง พี่ทำให้เห็น ภูมิใจที่ลูกเป็นเด็กน่ารัก ยิ่งตอนนี้เขาช่วยแม่ทำมาหากินได้ ภูมิใจที่มีลูกสาวน่ารักและไม่ดื้อ พี่เลี้ยงลูกมา พี่ไม่เคยเสียน้ำตาเพราะลูกเลย"