svasdssvasds

รัฐบาลย้ำ "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2566" รายที่เคยได้ ยังได้รับเหมือนเดิม

รัฐบาลย้ำ "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2566" รายที่เคยได้ ยังได้รับเหมือนเดิม

รัฐบาลแจง "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" รายที่เคยได้ ยังได้เหมือนเดิม ขอคนรวยเข้าใจ การปรับเกณฑ์เพื่อช่วยคนที่ลำบาก สร้างความยั่งยืนการคลังระยะยาว

 จากกรณีที่ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย เปิดหลักเกณฑ์ การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ฉบับล่าสุด ที่ปรับปรุงว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2566

 ล่าสุด นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 ส.ค 2566 ซึ่งมีสาระหลักเพิ่มเติม คือ เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ

 ดังนั้น จะต้องมีการออกระเบียบกำหนดรายละเอียดจากนี้อีกโดยคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพอยู่ก่อนวันที่ระเบียบใช้บังคับ จะยังมีสิทธิ์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อไป

 ส่วนที่มีการกล่าวว่า การปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว เป็นเพราะรัฐบาลไม่มีความสามารถ นางสาวรัชดา ชี้แจงว่า ทึ่ผ่านมาเศรษฐกิจดีขึ้น รัฐบาลจัดเก็บรายได้เพิ่มมากขึ้น มีการจดทะเบียนการค้าบริษัทต่างชาติการขอการสนับสนุนการลงทุนต่างชาติเพิ่มต่อเนื่อง มีตัวชี้วัดความสามารถจัดหารายได้ ดูจากตัวเลขการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร 7 เดือนของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.65-เม.ย.66)เก็บรายได้สูงกว่าปีก่อน 6.5% สูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 107,101 ล้านบาท หรือ 11.10%

 

 ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เปรียบเทียบ "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 2566" เงื่อนไขต่างจากเดิมอย่างไร

• อัปเดตสุขภาพวันผู้สูงอายุ พบคนไทยอายุ 60 ขึ้นไป เสี่ยงมวลกล้ามเนื้อน้อย

• 7 วิธีดูแลสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ ต้อนรับฤดูหนาว

ขณะที่ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในช่วง 7 เดือนของปีงบประมาณ 2566 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.4% และสูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณ 8.9% นี่คือความสามารถของรัฐบาลในการหารายได้

 ส่วนประเด็นที่มีการดราม่าว่า เป็นการลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์นั้น นางสาวรัชดา กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่ม มุ่งแก้ปัญหาประชาชนอย่างมุ่งเป้า ใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายใต้ข้อจำกัดของงบประมาณ

 

วันนี้เราเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะเพิ่มต่อเนื่อง งบประมาณจากเคยตั้งไว้ ห้าหมื่นล้านต่อปี เพิ่มเป็นแปดหมื่นล้าน และแตะเก้าหมื่นล้านแล้ว ในปีงบประมาณ 2567

ดังนั้น หากลดการจ่ายเบี้ยฯ แก่ผู้สูงอายุเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้สูงหรือผู้สูงอายุที่ร่ำรวย เพราะงบประมาณที่จ่ายให้ไปอาจจะไม่มีความจำเป็น ที่พุ่งเป้าเพื่อช่วยเหลือไปยังกลุ่มคนที่มีความจำเป็นและเดือดร้อนกว่า อีกทั้ง คือการสร้างความยั่งยืนทางการคลังระยะยาว

related