svasdssvasds

สิทธิลางาน ระหว่างมีประจำเดือน - หลายประเทศเปิดทางผู้หญิงหยุดได้

สิทธิลางาน ระหว่างมีประจำเดือน - หลายประเทศเปิดทางผู้หญิงหยุดได้

รู้หรือไม่ ? หลายๆประเทศ ให้สิทธิลางาน ระหว่างมีประจำเดือน หรือสตรีที่ปวดท้องประจำเดือน โดยการมีสิทธิแรงงานลางานเนื่องจากความเจ็บปวดจากการมีประจำเดือน ถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของความเท่าเทียมทางเพศในสถานที่ทำงานให้มีมากขึ้น ในโลก ณ ปัจจุบัน

กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจในฉับพลัน เมื่อ ม.ธรรมศาสตร์อนุมัติ นักศึกษาที่มีประจำเดือน ลาหยุดเรียนได้ โดย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2566 เพจ Facebook องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความว่า “มธ. คำนึงสิทธิของทุกคน อนุมัติให้มีการลาหยุดสำหรับนักศึกษาที่เป็นประจำเดือนโดยไม่กระทบกับการจัดการเรียนการสอน” 

นี่เป็นการ ส่งสัญญาณในการเห็นอกเห็นใจ จากองค์กรการศึกษา ที่มี ต่อเพศหญิงทุกคน ที่จะต้องเจอกับ อาการ "ปวดประจำเดือน" และ นี่คือการแสดงออกถึงความเห็นใจ ในความทุกข์ทรมานของสตรีที่เกือบทุกคน จะต้องเคยมีประสบการณ์ การปวดท้องเมนส์ซึ่งยากจะบรรยายให้ออกมาเป็นตัวอักษรได้ (คนไม่เคยเจ็บ ไม่มีทางรับรู้ว่าเจ็บนี้มันเป็นอย่างไร...)
 

สิทธิลางาน ระหว่างมีประจำเดือน - หลายประเทศเปิดทางผู้หญิงหยุดได้

แต่รู้หรือไม่ว่า ในความเป็นจริงแล้ว ในภาพกว้างของบริบทสังคม หลายๆ ประเทศมีกฎหมาย รองรับให้ ผู้หญิงสามารถ "ลางาน" ได้ ถ้าหากเกิดอาการปวดท้องระหว่างมีรอบเดือนขึ้นมา หลายๆประเทศ ไม่อยากให้ผู้หญิงต้องทนทุกข์ แบกร่างอันเจ็บปวด มาทำงาน เพราะ ความเจ็บ ความทรมานของเจ็บรวดร้าวของแต่ละคน มันไม่เท่ากัน และวัดเป็นมาตราใดๆ ไม่ได้ 

แม้ตอนนี้ ทั่วโลก ยังไม่ได้มองว่า การลางาน เพราะปวดประจำเดือน นั้นสำคัญแบบเท่ากันหมดในทุกๆประเทศ  จนถึงขั้นออกกฎหมายให้ลางานได้, แต่ ณ เข็มนาฬิกาเดินอยู่ตอนนี้ ก็มีประเทศอยู่จำนวนหนึ่ง ที่ออกกฎอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถลาหยุดระหว่างมีประจำเดือนได้ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ รวมไปถึงแซมเบีย ในแอฟริกา  ซึ่งแต่ละประเทศ จำนวนวันลา ก็จะแตกต่างกันไป  ,  โดยกฎหมายฉบับแรกที่อนุญาตให้ผู้หญิงสามารถลาหยุดระหว่างมีประจำเดือนได้เกิดขึ้นในสมัยสหภาพโซเวียต ในปี 1922

ทั้งนี้ หากจะขอลองยกตัวอย่าง ประเทศ ญี่ปุ่น ประเทศที่เจริญแล้ว ทางฝั่งโลกตะวันออก ให้เห็นภาพชัดๆ, ญี่ปุ่น มี กฎหมายลางานเพราะปวดประจำเดือน ตั้งแต่ปี 1947 ในฐานะสิทธิแรงงาน หลังพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 และประสบปัญหาการสูญเสียประชากรจำนวนมาก ญี่ปุ่นมีกฎหมายที่อนุญาตให้แรงงานหญิงลางานเพราะความเจ็บปวดจากการมีประจำเดือนได้ เรียกว่า ‘Seirikyuuka-Physiological Leave’ 

สิทธิลางาน ระหว่างมีประจำเดือน - หลายประเทศเปิดทางผู้หญิงหยุดได้

แรงงาน จะต้องขอลางานกับนายจ้างโดยตรง หากแต่การพูดถึงประจำเดือนยังเป็นเรื่องต้องห้าม ละเอียดอ่อน และเป็นเรื่องส่วนตัวของวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอยู่ ในที่นี้ อาจรวมถึงประเทศไทยด้วย ที่ไม่กล้าพูด เรื่องนี้อย่างตรงๆ  อีกทั้งนายจ้างผู้จัดการส่วนใหญ่ก็ดันเป็นผู้ชาย แรงงานหญิงจึงไม่ต้องการที่จะบอกกับหัวหน้าของเธอโดยตรง และมีหลายคนไม่รู้ถึงนโยบายนี้ เพราะไม่มีการให้ข้อมูล และไม่มีข้อกำหนดให้บริษัทหรือนายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในช่วงที่แรงงานหยุด จากการสำรวจในปี 2017 จึงพบว่ามีเพียง 0.9% เท่านั้นที่ขอลาเพราะปวดประจำเดือน

ทั้งนี้ ฝ่ายที่สนับสนุนให้มีการ ลางานได้ ระหว่างที่ต้อง ปวดรอบเดือน  ให้เหตุผลว่า สิทธิเหล่านี้ มีความสำคัญเทียบเท่ากับสิทธิลาคลอดบุตร เพราะถือเป็นการแสดงการตระหนักรู้ต่อระบบทางชีววิทยาเบื้องต้น 

อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน  ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่ากฎหมายลางานเพราะปวดประจำเดือน จะส่งเสริมให้เกิดภาพจำในทางลบ ทั้งยังกระตุ้นให้นายจ้างต่างๆ ไม่เลือกลูกจ้างเพศหญิง , หรือ โอกาสที่จะจ้าง เพศหญิง เข้ามาทำงาน ก็มีน้อยลง 


อาการปวดประจำเดือนเป็นอย่างไร ทำไมถึงสามารถลางานได้ ?

ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มีประจำเดือนเคยมีอาการปวดประจำเดือน แต่บางคนมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด 

อาการปวดประจำเดือนจะมีทั้งการปวดช่องท้อง ซึ่งสามารถลุกลามไปยังหลังและต้นขา ทั้งยังทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องเสีย และปวดหัวไมเกรน ตามมาได้ 

มีหลายสาเหตุที่นำไปสู่การอวดประจำเดือน อาทิ ความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมนโปรสตาแกลนดินส์ ซึ่งฮอร์โมนโปรสตาแกลนดินส์  สร้างขึ้นจากเซลล์ในมดลูก ฮอร์โมนดังกล่าวช่วยให้มดลูกบีบตัว ทั้งนี้ หากร่างกายมีฮอร์โมนโปรสตาแกลนดินส์จำนวนมาก จะส่งให้มดลูกบีบตัวมาก และจะปวดมากขึ้น

มีงานวิจัยพบว่าอาการปวดประจำเดือนพบได้ทั่วไป สำหรับเพศหญิงทุกคน และยังมีความรุนแรงมากพอที่จะส่งผลกระทบกับกิจวัตรประจำวันของผู้หญิงมากถึง 20%

ทุกวันนี้ บริบทสังคมทั่วโลก มีวิวัฒนาการ สถานภาพ สิทธิ และเสรีภาพของผู้หญิงได้รับการยกระดับ และเข้ามาเป็นแรงงานหนึ่งของการผลิตทุนนิยม และอุตสาหกรรม หากแต่โครงสร้างและพื้นที่ทำงานยังไม่ได้รับการพัฒนาตามบริบทสังคมเท่าที่ควร การมีกฎหมายคุ้มครองแรงงานเพศหญิงในเรื่องลาปวดประจำเดือน จึงเป็นการพัฒนาโครงสร้างการผลิตที่สอดคล้องกับเพศสภาพ และเพศสรีระที่หลากหลายของแรงงาน 

ยิ่งไปกว่านั้น สวัสดิการจำเป็นต้องมีความหลากหลาย และคำนึงทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม การมีสิทธิแรงงานลางานเนื่องจากความเจ็บปวดจากการมีประจำเดือน ถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของความเท่าเทียมทางเพศในสถานที่ทำงานให้มีมากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related