svasdssvasds

ดันไทยฮับการบินโลก! ทุ่มแสนล้านบาท ลุยขยาย "สนามสุวรรณภูมิทิศใต้"

ดันไทยฮับการบินโลก! ทุ่มแสนล้านบาท ลุยขยาย "สนามสุวรรณภูมิทิศใต้"

“เศรษฐา” ตั้งเป้าไทยฮับการบินโลก ลั่นลงทุน South Expansion ขยายสนามสุวรรณภูมิทิศใต้ วาดฝัน 4 ปี ปูพรม 46 โครงการหนุน ยกระดับสนามบิน พร้อมชูธงไทยเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าแห่งภูมิภาคใหญ่

SHORT CUT

  • “เศรษฐา” ตั้งเป้าไทยฮับการบินโลก ลั่นลงทุน South Expansion ขยายสนามสุวรรณภูมิทิศใต้  
  • วาดฝัน 4 ปี ปูพรม 46 โครงการหนุน ยกระดับสนามบิน
  • ชูธงไทยเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าแห่งภูมิภาคใหญ่

“เศรษฐา” ตั้งเป้าไทยฮับการบินโลก ลั่นลงทุน South Expansion ขยายสนามสุวรรณภูมิทิศใต้ วาดฝัน 4 ปี ปูพรม 46 โครงการหนุน ยกระดับสนามบิน พร้อมชูธงไทยเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าแห่งภูมิภาคใหญ่

การท่องเที่ยวไทย ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นเมืองเป้าหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวอย่างมาก เว็บไซต์ travelness ได้จัดอันดับ 20 เมืองที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเยือนมากที่สุดในโลก ปี ค.ศ. 2023 หรือ The Most Visited Cities in the World จากการเก็บข้อมูลและเผยแพร่ในช่วงกลางปี 2023 โดยวัดตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวจากต่างประเทศและได้มีการใช้จ่ายข้ามประเทศ พบว่า เมืองที่มีผู้มาเยือนมากสุดในโลกในปี 2023 อันดับ 1  คือกรุงเทพฯ ประเทศไทย จำนวนนักท่องเที่ยว 22.78 ล้านคน

แน่นอนว่าไทย คืออันดับ 1 ของจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวเดินทางมา แต่…สนามบินของเราก็ต้องดีและมีความพร้อมด้วย จึงทำให้รัฐบาลมีความพยายามในการผลักดันไทยให้ประเทศไทย ก้าวสู่การเป็น Aviation Hub ยกระดับให้ไทยก้าวไปเป็นที่ 1 ของภูมิภาค และมุ่งเป้าพัฒนาให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก

ล่าสุดสดๆร้อนๆ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผย แผนพัฒนาการเป็นศูนย์กลางการบิน การขนส่งของภูมิภาคของประเทศไทย ว่า บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. นำโดยกระทรวงคมนาคม มีการขานรับนโยบายตั้งเป้าหมายศูนย์กลางการบินของโลก (Aviation hub) และเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าแห่งภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด 1 ใน 5 ของโลก โดยจะขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นฮับที่ใหญ่ที่สุดในโลกใน 4 ปี การเพิ่มสนามบินใหม่ และยกระดับสนามบินรองให้เป็นสนามบินนานาชาติ

เร่งดันไทยสู่ฮับการบินโลก

ทั้งนี้จุดแข็งคือประชากรที่อยู่รายล้อมไทยมีจำนวนมากกว่า 280 ล้านคน ที่ต้องพึ่งสนามบินสุวรรณภูมิให้เป็นจุดศูนย์กลางในการกระจายผู้โดยสารไปยังประเทศต่างๆ ดังนั้นจึงมีจำเป็นต้องอัพเกรด Aviation Hub ในทุกมิติ โดยสนามบินสุวรรณภูมิจะมีการสร้างอาคารผู้โดยสาร (Terminal) เพิ่ม สร้างรันเวย์เพิ่มการปรับปรุงการตรวจลงตรา (เข้าเมือง), ปรับ Landing Fee/Delay Fee การยกระดับการบริการภาคพื้นดิน การบำรุงรักษา

สำหรับการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อให้เป็นฮับใหญ่ที่สุดในโลก ใน 4 ปี จะประกาศแผนเดินหน้าก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Expansion) ติดกับถนนบางนา-ตราด ที่จะสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ทางด้านทิศใต้ (เซ้าท์ เทอร์มินัล) มูลค่าการลงทุนราว 1.2 แสนล้านบาท โดยจะเริ่มก่อสร้างประมาณปลายปีหน้า

ทั้งนี้เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 150 ล้านคนต่อปี แทนจากเดิมที่ก่อนหน้านี้ทอท.มีแผนจะขยายอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบันด้านทิศเหนือก่อน โดยอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ จะรองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคนต่อปี รวมถึงการก่อสร้างรันเวย์ 4 และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 ( SAT 2)

South Expansion ดันสล็อตบินใหม่เข้าไทย

อย่างไรก็ตามการเดินหน้าสร้าง South Expansion เพราะจะตอบโจทย์ให้สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นศูนย์กลางการบิน เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของการบิน ที่จะมีการเพิ่มสล็อตบินเข้าไทยเข้าไปอีก ถ้าเราจะดันให้ถึง 150 ล้านคนต่อปี โดยไม่แออัดก็จำเป็นต้องสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ เพราะถ้าแค่จะขยายพื้นที่ด้านทิศเหนือของอาคารผู้โดยหลังปัจจุบัน ก็จะรองรับเที่ยวบินภายในประเทศ ซึ่งในช่วงกลางคืนก็ไม่ช่วยเรื่องการแก้ปัญหาความแออัดของสนามบินได้มากนัก

สำหรับารก่อสร้างเซ้าท์ เทอร์มินัล ตามแผนก็จะให้สายการบินที่ทำการบินในแบบจุดต่อจุดหรือ Point To Point ย้ายไปใช้บริการเป็นหลัก ส่วนอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน ก็จะให้สำหรับสายการบินมีที่การเชื่อมต่อเที่ยวบิน เช่น สายการบินในกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ และผลักดันให้สายการบินในกลุ่มวันเวิล์ด ไปใช้บริการที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT 1) ในอนาคต

ขณะเดียวกันทอท.จะมีการเพิ่มการให้บริการในส่วนของรันเวย์ 3 ในเดือนก.ค.นี้ เพิ่มการรองรับเที่ยวบินจาก 67 เที่ยวบิน/ชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบิน/ชั่วโมง การก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก ที่จะเปิดประมูลได้ในกลางปีนี้ เพื่อให้ก่อสร้างแล้วเสร็จในปลายปี 2569 ซึ่งก็จะทำให้อาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบันมีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว รวมถึงการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 (SAT 2)

ทั้งนี้นอกจากขยายการลงทุนของสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว จะมีการอัพเกรดด้านซอฟท์แวร์ เพิ่มระบบ AUTO เช็คอิน และระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ เพิ่มอัตราเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง โดยปัจจุบันได้รับบรรจุใหม่ 200 อัตรา และเพิ่มอีก 400 อัตรา รวมเป็น 600 อัตราในอนาคตเพื่อแก้ปัญหาสนามบินแออัด ซึ่งในปีที่ผ่านมามีผู้โดยสารใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ 50 ล้านคน ทอท.คาดว่าในปีนี้จะมีผู้โดยสารใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ กว่า 65 ล้านคน เทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ในปี 2562

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รัฐบาลไทยตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาค ดังนั้นหน่วยงานด้านอากาศจะต้องมีโครงการเพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายโครงการรองรับการเป็น Aviation Hub จำนวน 46 โครงการ โดยมีโครงการพัฒนาท่าอากาศยานระยะเร่งด่วน จำนวน 8 โครงการ รวมถึงแผนการก่อสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ และปรับปรุงท่าอากาศยานเดิมทั่วประเทศ เช่น ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เป็นต้น

โดยการพัฒนาท่าอากาศยานระยะเร่งเด่วน จะมีทั้งการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ การลงทุนขยายสนามบินดอนเมืองเฟส 3 ขยายการรองรับผู้โดยสารจาก 30 ล้านคน เป็น 60 ล้านคนต่อปี มูลค่าการลงทุนราว 3.6 หมื่นล้านบาท การขยายสนามบินภูเก็ต เฟส 2 ลงทุน 8.3 พันล้านบาท รองรับผู้โดยสารได้ 18 ล้านคนต่อปี การขยายสนามบินเชียงใหม่ เฟส 1 ลงทุน 8 พันล้านบาท เปิดประมูลปลายปี 2567 รองรับผู้โดยสาร 16.5 ล้านคนต่อปี การโอนย้าย 3 สนามบินภูมิภาคของทย.คือ สนามบินอุดรธานี สนามบินบุรีรัมย์ สนามบินกระบี่ เพื่อยกระดับสนามบินรองสู่สนามบินนานาชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related