svasdssvasds

"จักรภพ เพ็ญแข" กลับไทย มอบตัวสู้ม. 112 เปิดใจลี้ภัย 15 ปี ขอโอกาสรับใช้ชาติ

"จักรภพ เพ็ญแข" กลับไทย มอบตัวสู้ม. 112 เปิดใจลี้ภัย 15 ปี ขอโอกาสรับใช้ชาติ

"จักรภพ เพ็ญแข" อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ถึงไทยแล้ว เปิดใจหลังลี้ภัยนาน 15 ปี มั่นใจพร้อมสู้ทุกข้อหา วอนขอโอกาสรับใช้ชาติ จับตาเข้ามอบตัวกองปราบฯ วันนี้

SHORT CUT

  • "จักรภพ เพ็ญแข" อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ถึงไทยแล้ว เปิดใจหลังลี้ภัยนาน 15 ปี มั่นใจพร้อมสู้ทุกข้อหา
  • ทุกสายตาจากต่างจับจ้อง เพราะนับเป็นการเดินตามรอย "ทักษิณ" อดีตนายกฯ ที่ได้เดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566
  • เตรียมเดินทางไปกองปราบ เพื่อมมอบตัวตามหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด รวมทั้งยังถูกกล่าวหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

"จักรภพ เพ็ญแข" อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ถึงไทยแล้ว เปิดใจหลังลี้ภัยนาน 15 ปี มั่นใจพร้อมสู้ทุกข้อหา วอนขอโอกาสรับใช้ชาติ จับตาเข้ามอบตัวกองปราบฯ วันนี้

วันที่ 28 มีนาคม 2567 หลังจากที่นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพผ่านเฟซบุ๊กของ "จักรภพ เพ็ญแข" ขณะนั่งดื่มกาแฟ โดยมีระบุว่า..

"พฤ. 28 มี.ค. 67 เวลา 07.35 น. กลับไปรับใช้ เมืองไทยครับ" 

หลังจากทุกสายตาจากต่างจับจ้อง เพราะนับเป็นการเดินตามรอย "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ที่ได้เดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566 หลังต้องไปพำนักยังต่างประเทศมาเป็นเวลาหลายปี

"จักรภพ เพ็ญแข" กลับไทย มอบตัวสู้คดีม. 112

ต่อมาเมื่อเวลา 00.58 น. วันนี้ (28 มี.ค.) ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้ง ขณะเดินทางไปยังสนามบินเพื่อเดินทางกลับมายังประเทศไทย ระบุมีข้อความว่า..

"คุณจักรภพกลับบ้าน🌏ในรอบ​ 15​ ปี​ #ลี้ภัยทางการเมือง​ #สงกรานต์ปี2552 #นปก.​ #เสื้อแดง​ #มวลชน​ #ผู้รักประชาธิปไตย​ #คนเสื้อแดง​ #พรรคเพื่อไทย​ #รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ"

ขณะที่เนื้อหาภายในคลิปวิดีโอความยาว 4.26 นาทีนั้น  นายจักรภพ กล่าวว่า สวัสดีครับ พี่น้องชาวไทยที่รักทุกคน ผมจักรภพ เพ็ญแข ออกจากเมืองไทยมาเมื่อ 15 ปีที่แล้ว และวันนี้กำลังจะเดินทางกลับเมืองไทย ไปพบกลับพี่น้องชาวไทยที่รักและคิดถึงมานาน

ผมออกมาอยู่ต่างประเทศ เพราะมีเหตุผลทางด้านการเมือง ผมเชื่อว่าพี่น้องหลายท่านคงทราบดี ตอนนี้ผมกำลังนั่งรถที่เพื่อนขับพาไปสนามบิน ไปขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน จะไปถึงเมืองไทยวันพฤหัสบดี ที่ 28 มีนาคม เวลา 07.35 น. เดินทางตรงไปเลย

ผมนึกขึ้นได้ว่า ผมหายไปนานเหลือเกิน จู่ๆโผล่หน้ามา พี่น้องหลายท่านก็มีสิทธิ์จะถามว่า เกิดอะไรขึ้น ตอนหายก็หายไป ตอนมาก็มา เล่าสู่กันฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นผมก็ขอเรียนสั้นๆ ว่า เรามีความขัดแย้งทางการเมืองกันอยู่ตอนนั้น ผมก็ถืออยู่ข้างหนึ่ง พี่น้องอีกจำนวนมากก็ถืออยู่อีกข้างหนึ่ง แล้วเราก็เกิดความขัดแย้ง จนผมออกมาอยู่นอกประเทศ เพราะมีความ.. คงเป็นเรื่องอันตราย สวัสดิภาพส่วนตัว 

หลังจากนั้นผมก็ติดตามเหตุการณ์ในบ้านเมืองไม่เคยทิ้งเลย เหมือนอยูในประเทศไทย ทุกวันๆ ตลอด 15 ปีนี้ แต่ไม่สามารถกลับเมืองไทยได้ เนื่องจากว่าเหตุการณ์ยังไม่เอื้ออำนวยให้

ผมไปอยู่ต่างประเทศ 15 ปี ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกเรื่อง ทำให้สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นมาคือ ห่วงประเทศไทย ผมก็เป็นคนไทย รักประเทศไทย ความรักของเราแสดงออกในรูปแบบที่ต่างกัน ผมเองไปทางการเมือง ท่านอื่นก็ไปทางอื่นๆ ที่สุจริต ทำงานหนักเพื่อประเทศชาติโดยหน้าที่

ผมคิดว่าผมสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์เหล่านี้กลับบ้านได้ เอาไปใช้ในการเตรียมประเทศไทยในยามที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงแบบจำหน้าไม่ได้ ไม่ว่าจะเรื่องภูมิอากาศ เรื่องการเมือง AI แม้แต่เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ
 

แล้วถามว่าความคิดต่างๆ ที่เคยมีในอดีต ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งเนี่ย จะว่ายังไง ผมก็ต้องตอบอย่างนี้ครับว่า คนเราทุกคน มันได้คิดหลังจากเวลาผ่านไปช่วงระยะหนึ่ง 10 กว่าปีนี้ทำให้ผมได้คิดว่า เราคนไทยจะขัดแย้งกันทำไม ในเมื่อโลกกำลังเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยควรรวมเป็นหนึ่งเดียว ความหลากหลายทางความคิดเป็นเรื่องดี ไม่น่าจะเป็นเหตุให้ทะเลาะ ผมจึงเอาตัวเองนี่แหละครับเป็นจุดเริ่มต้น ไม่ไปบอกให้ใครทำแล้ว เมื่อเราคิดเราต้องทำก่อน

ผมถึงเดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ ไม่ใช่ว่าจะไปเดินปร๋อที่ไหนสบายนะครับ กลับไปเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม มีคดีเกิดขึ้นหลายคดี ผมต้องกลับไปมอบตัว และก็ไปขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามที่เป็นตามกฎหมาย และผมก็หวังว่าผมจะสามารถสู้คดีได้ อธิบายตัวเองได้ และออกมาสู่อิสรภาพมารับใช้บ้านเมืองได้

ส่วนเรื่องสิ่งที่เคยพูดไว้ เคยเขียนไว้ เคยแสดงออกไว้ ผมไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ผมอยากเรียนท่านว่า ผมได้คิดอะไรใหม่ขึ้นเยอะ และขอให้โอกาสผมสักนิดเถอะครับว่าความคิดใหม่ๆ จะช่วยประเทศได้ไงบ้าง

อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ได้พบกันแล้วครับ ขออนุญาตกลับบ้าน ผมอยู่ข้างนอกพอแล้วครับ

เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. นายจักรภพ ได้เดินทางถึงในไทย โดยจะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม เพื่อมมอบตัวตามหมายจับในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นอั้งยี่ รวมทั้งยังถูกกล่าวหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อีกด้วย

จักรภพ เพ็ญแข ลี้ภัยการเมืองจากสาเหตุอะไร?

ทั้งนี้เจ้าตัวเคยถูกฟ้องร้องคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการปาฐกถาเป็นภาษาอังกฤษเรื่อง "ระบบอุปถัมภ์ในไทย" กับนักข่าวต่างชาติ ก่อนจะตัดสินใจลี้ภัยการเมืองเดินทางออกนอกประเทศในปี 2552

คดีของจักรภพยังมีการแข้งข้อหาต่อในยุคคสช. หลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติออกคำสั่งที่ 49/2557 เรียกให้จักรภพไปรายงานตัว แต่เขามิได้ไปตามคำสั่งดังกล่าว ศาลทหารจึงออกหมายข้อหาฝ่าฝืนการไปรายงานตัว ในวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558 1 หมายจับ และวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558 1 หมายจับ ข้อหามีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง รวมแล้วเขาถูกศาลทหารออกหมายจับ 2 หมายจับ และในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2560 ศาลอาญาได้ออกหมายจับ เลขที่ 2692/60 ใน ข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นอั้งยี่

"จักรภพ" ถึงกองปราบฯ ปฏิเสธข้อหาอาวุธปืน-อั้งยี่  พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ที่กองบังคับการปราบปราม ตำรวจคุมตัวนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยจากกรณีลี้ภัยทางการเมือ มาดำเนินคดีตามหมายจับของศาลอาญา ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเป็นอั้งยี่ หลังพบความเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามจำนวนมากซุกในบ่อน้ำพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจากการตรวจสอบอาวุธที่ยึดได้พบมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์คดีทางการเมืองเมื่อปี 2557 เช่น ชิ้นส่วน หรือซีเรียลนับเบอร์ของอาวุธ

โดยเมื่อคุมตัวมาถึง ตำรวจได้พานายจักรภพ เข้าที่บริเวณชั้นใต้ดิน และขึ้นไปยังห้องสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที โดยไม่ได้พาเข้าทางบริเวณด้านหน้าเพื่อปรากฎตัวให้กับนักข่าวได้เห็นซึ่งสอดคล้องกับที่ ญาติของนายจักรภพ เดินทางมาถึงที่กองบังคับการปราบปราม และยืนยันกับนักข่าวว่า นายจักรภพ ถูกตัวมาถึงที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว

โดยญาติของนายจักรภพ เปิดเผยว่า นายจักรภพได้บอกตามที่ออกข่าวไปว่าจะกลับมารับใช้ชาติ ทำเพื่อประโยชน์ของคนไทย ซึ่งวันนี้จะยื่นประกันในชั้นสอบสวน คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่ลี้ภัยไป 15 ปี จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่นั้น มองว่า นายจักรภพมีเหตุผลคือติดภารกิจที่ต่างประเทศ ทำให้ไม่สะดวกที่จะกลับมาในช่วงนั้น และยังเป็นช่วงที่ไม่ใช่รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยด้วย จึงมั่นใจว่าจะได้รับการประกันตัว 

ทั้งนี้ นายจักรภพได้ฝากมาถึงประชาชนว่า ไม่ลืมพี่น้องประชาชน ยังมีจิตใจที่จะตอบแทนสังคมเหมือนเดิม และอยากทำประโยชน์ให้ประเทศชาติมากขึ้นกว่าเดิม แต่จะทำอะไรก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่มอบหมายอีกที ส่วนวันนี้ที่เดินทางกลับมานั้น เป็นการเดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐเอมิเรตส์

ซึ่งนายจักรภพมีอาการเหนื่อยนิดหน่อย เพราะนอนน้อย นอกนั้นไม่มีอะไร และมั่นใจว่าจะได้รับการประกันตัว ซึ่งหากได้รับประกันตัวแล้ว จะไปดำเนินการเรื่องไปทำเอกสาร ทำบัตรประชาชน และเดินทางไปไหว้ศาลหลักเมือง และสถานที่เก็บอัฐิของคุณแม่ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหารด้วย ส่วนการเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ยังไม่มีแผนที่จะเข้าพบ ต้องถามนายจักรภพด้วย

ส่วนน้องสาวของนายจักรภพ บอกว่า รู้สึกดีใจที่พี่ชายได้กลับมา หลังไม่เจอกันมา 15 ปี และไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ถ้าเจอกันอยากเข้าไปกอดเลย ที่ผ่านมาพี่ชายบอกว่า ชีวิตความเป็นอยู่ อยู่ตามอัตภาพ

ขณะที่นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความของนายจักรภพ วันนี้ก็ได้เตรียมหลักทรัพย์มาขอประกันตัวด้วย โดยนายโชคชัย ระบุว่า วันนี้มีหมายจับ2หมายที่เป็นคดีเกี่ยวข้องกับอาวุธปืน ซึ่งตามขั้นตอนจะรับทราบข้อกล่าวหา โดยนายจักรภพให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนั้นก็จะยื่นขอประกันตัว ซึ่งได้เตรียมหลักทรัพย์มา คดีละ 300,000บาท

คดีนี้ผู้ต้องหารายอื่นเข้าสู่กระบวนการของศาลไปแล้ว ซึ่งมีผลการตัดสิน และนายจักรภพ ไม่ได้เกี่ยวข้อง และไม่กังวลว่าจะไม่ได้รับการประกันตัว เพราะได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ทั้งนี้หากสามารถประกันตัวในชั้นสอบสวนได้ก็จะประกันตัวในชั้นนี้เลย

ทนายโชคชัย ยังบอกอีกว่า ก่อนที่นายจักรภพจะเดินทางกลับมา เขาก็แจ้งว่าจะกลับประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนเหตุผลที่กลับมาคงต้องถามนายจัรภพ และตนเองไม่ทราบรายละเอียดว่าจะเกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะตนเองทำหน้าที่ทนายความอย่างเดียว และเท่าที่ตนเองทราบเมื่อบ้านเมืองถึงภาวะถึงเวลาก็ต้องกลับมา ส่วนจะมีใบเบิดทางหรือไม่ ตนเองเชื่อว่า นายจักรภพมีวิจารณาญานในการตัดสินใจ

ขณะที่บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า ที่หน้าอาคารกองบังคับการปราบปราม มีมวลชนที่สนับสนุนนายจักรภพ เดินทางมาจากหลายพื้นที่ เพื่อมารอมอบดอกไม้และให้กำลังใจต้อนรับนายจักรภพที่เดินกลับมาประเทศไทย

ที่มา : จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related