svasdssvasds

ตัวอย่าง! “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ธุรกิจรถเข็นข้างถนน สู่..สตรีทฟู้ดมหาชน

ตัวอย่าง! “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ธุรกิจรถเข็นข้างถนน สู่..สตรีทฟู้ดมหาชน

พามาดูตัวอย่างโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจ “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” จากธุรกิจรถเข็นข้างถนน สู่..สตรีทฟู้ดมหาชน หลายคนอย่างรู้ว่าเขาทำได้ยังไง จนมาถึงเตรียมตัวเข้าตลาดหุ้น แถมยังลุยโกอินเตอร์อีกด้วย

SHORT CUT

  • พามาดูตัวอย่างโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจ “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ธุรกิจรถเข็นข้างถนน สู่..สตรีทฟู้ดมหาชน
  • หลายคนอย่างรู้ว่าเขาทำได้ยังไง จนมาถึงเตรียมตัวเข้าตลาดหุ้น แถมยังลุยโกอินเตอร์

  •  

    ชูแผนขยายแฟรนไชส์ในปี2567 ตั้งเป้าขยายแฟรนไชส์ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ให้ครบ 6,000 สาขา จากเดิม 4,500 สาขาทั่วประเทศ และแบรนด์อื่น ๆ ในเครืออีกกว่า 100 สาขา

พามาดูตัวอย่างโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจ “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” จากธุรกิจรถเข็นข้างถนน สู่..สตรีทฟู้ดมหาชน หลายคนอย่างรู้ว่าเขาทำได้ยังไง จนมาถึงเตรียมตัวเข้าตลาดหุ้น แถมยังลุยโกอินเตอร์อีกด้วย

ใครที่เป็นสายสตรีทฟู้ดเชื่อว่าครั้งหนึ่งคงเคยรับประทานชายบะหมี่เกี๊ยว รถเข็นข้างถนน ที่มีโลโก้สีเหลืองๆ ได้ซดน้ำซุปร้อนๆ บวกกับเส้นบะหมี่ที่นุ่มมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก็คงจะคล่องคอไม่น้อย ใครจะไปคิดว่าบะหมี่เกี๊ยวรถเข็นข้างถนนที่มีโลโก้สีเหลืองๆ จะอยู่คู่กับคนไทยมากว่า 30 ปี แล้ว จากวันนั้น…จนถึงวันนี้ “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” มีกลยุทธ์อย่างไรถึงได้อยู่นานขนาดนี้ แถมยังมีวิสัยทัศน์พาธุรกิจเข้าตลาดหุ้น และลุยขยายธุรกิจไปต่างประเทศหลายประเทศอีกด้วย

วันนี้ #สปริงนิวส์ จะพามาส่องอาณาจักร “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” จากธุรกิจรถเข็นข้างถนน สู่..สตรีทฟู้ดมหาชน ว่าโมเดลธุรกิจของเขาจะไปในทิศทางไหน?  โดยแม่ทัพใหญ่อย่าง “พันธ์รบ กำลา” ประธานกรรมการบริหาร บอกว่า กว่า 30 ปี แห่งการเติบโตของ ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยวจากร้านรถเข็นริมทางเพียงร้านเดียว กลายมาเป็นแบรนด์ร้านบะหมี่ริมทางที่มีสาขาทั่วประเทศและเป็นที่หนึ่งในใจของคนไทย ความสำเร็จนี้เกิดจากหัวใจของเราที่รักในการบริการ มุ่งมั่นในการส่งมอบอาหารอร่อย คุณภาพสูงให้กับลูกค้า

ตัวอย่าง! “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ธุรกิจรถเข็นข้างถนน สู่..สตรีทฟู้ดมหาชน

โดยในวันนี้เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างมาก ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถึงเวลาที่เราจะต้องยกระดับธุรกิจและองค์กรให้สอดรับและเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลง จึงเปิดโอกาสให้ผู้บริหารมืออาชีพรุ่นใหม่ เข้ามาเติมไฟให้กับธุรกิจ เดินหน้าสู่การทรานส์ฟอร์มภายใต้ชื่อ “ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น” ส่งมอบอาหารและบริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และพร้อมขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตต่ออย่างมั่นคงและยั่งยืน 

ลุยสร้างแบรนด์ใหม่ๆมาเสริมทัพธุรกิจ

ปัจจุบัน ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น มีแบรนด์สตรีทฟู้ดในเครือ รวม 7 แบรนด์ ได้แก่ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ชายสี่พลัส ชายใหญ่ข้าวมันไก่ พันปีบะหมี่เป็ดย่าง อาลีหมี่ฮาลาล ไก่หมุนคุณพัน ลูกชิ้นทอดโอ้มายก๊อด รวมทุกแบรนด์กว่า 4,500 สาขา และยังมีอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทานภายใต้แบรนด์ชายสี่โกลด์ พร้อมด้วยเครื่องปรุงเพื่อจำหน่ายอีกกว่า 200 รายการ

ตัวอย่าง! “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ธุรกิจรถเข็นข้างถนน สู่..สตรีทฟู้ดมหาชน

ทั้งนี้ทุกแบรนด์สินค้าในเครือต่างได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพที่สดใหม่ วัตถุดิบส่งตรงจากศูนย์การผลิตและกระจายสินค้าทั้งหมด 7 แห่งทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ รวมถึงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และราคาที่เข้าถึงได้จากทั้งผู้ขายและผู้บริโภค ทำให้ชายสี่เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รักของคนไทย

ด้าน “อนุชิต สรรพอาษา” กรรมการผู้จัดการบริษัท ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง มีศักยภาพสร้างการเติบโต โดยหลังจากผ่านวิกฤต COVID19 ที่ผ่านมา เรากลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 เป็นปีที่เราสร้างยอดขายได้สูงสุดในประวัติกาล โดยมีรายได้รวม 1,085 ล้านบาท และยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2566 เช่นกัน

ล่าสุดในปี 2565-2566 บริษัทฯ ได้เริ่มสู่การทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การบริหารต้นทุนอย่างชาญฉลาด รวมถึงการปรับโครงสร้างการบริหารงาน โดยให้โอกาสคนรุ่นใหม่เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ส่องกลยุทธ์เด็ดกุญแจสำคัญทำให้สำเร็จ

จากทั้งหมดที่ได้ลงมือทำ เราสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 1.1 พันล้านบาท และการเติบโตของกำไรได้มากกว่า 100% สะท้อนถึงศักยภาพในการปรับปรุงรากฐานขององค์กรให้แข็งแกร่งทั้งทางด้านการเงิน และการปฏิบัติการเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยเรากำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ผ่านการดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลยุทธ์ ที่มุ่งสนับสนุนให้ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น เติบโตได้อย่างยั่งยืน

  • พัฒนามาตรฐานแฟรนไชส์ ผ่านการปรับปรุงระบบการบริหารแฟรนไชส์และการบริการทั้งหมดให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสร้างความภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ โดยใช้ประโยชน์จากศูนย์การผลิตและจัดส่งที่มีอยู่ทั่วประเทศไทยในการเข้าถึงคู่ค้าและควบคุมคุณภาพแฟรนไชส์
  • พัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมตามความต้องการของตลาด โดยให้ความสำคัญกับการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้โดยง่าย ทั้งร้านอร่อยริมทาง ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และช่องทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันนอกจากแบรนด์สตรีทฟู้ดทั้ง 7 แบรนด์แล้ว เรายังมีสินค้าพร้อมทานที่จำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ
  • พัฒนาพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจร่วมกัน ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความชำนาญเฉพาะทางเพื่อต่อยอดองค์ความรู้ ในการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน รวมถึงการการเข้าซื้อกิจการต่างๆที่มีศักยภาพ โดยล่าสุดได้มีการเข้าซื้อกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังเมืองกรุงเก่า “เสือร้องไห้” และแบรนด์เบเกอรี่ที่เป็นที่นิยมของกลุ่มนักท่องเที่ยว “บริกซ์” โดยในการเข้าซื้อกิจการได้ใช้รูปแบบที่จะยังคงสัดส่วนผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อให้เจ้าของแบรนด์ยังได้ใช้ความเชี่ยวชาญของตนในการบริหารและพัฒนาแบรนด์ต่อได้ อีกทั้งยังสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ Cabalen Group กลุ่มธุรกิจอาหารยักษ์ใหญ่ของประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อส่งมอบตำนานความอร่อยสู่สากล

“บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการรีแบรนด์ ปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้ทันสมัย สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ ขึ้นเป็นผู้นำร่วมขับเคลื่อนองค์กร ผ่านโปรแกรมพัฒนาบุคคลสู่ความสำเร็จ พร้อมจัดสวัสดิการพนักงานให้ทัดเทียมองค์กรชั้นนำ ชายสี่ฯ เชื่อมั่นว่าการทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ผ่านกลยุทธ์หลักนี้ จะส่งเสริมและยกระดับให้บริษัทฯ ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์แถวหน้าในธุรกิจอาหารของไทยและเติบโตได้ไร้ขีดจำกัด” นายอนุชิต กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับปี 2567 นี้ มีแผนจะเตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ฯ และตั้งเป้ารายได้ 1,500 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20-25% ด้วยการขยายธุรกิจผ่านการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความชำนาญเฉพาะทางเพื่อต่อยอดองค์ความรู้ ในการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน รวมถึงการเข้าซื้อกิจการต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ

อย่างไรก็ตามแผนขยายแฟรนไชส์ในปี2567 ตั้งเป้าขยายแฟรนไชส์ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ให้ครบ 6,000 สาขา จากเดิม 4,500 สาขาทั่วประเทศ และแบรนด์อื่น ๆ ในเครืออีกกว่า 100 สาขา รวมถึงมีแผนยกระดับแบรนด์ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว จากเดิมที่ขายชามละ 40-50 บาท ให้เป็นแบรนด์พรีเมี่ยม ภายใต้แบรนด์ ชายสี่พลัส ที่จะเน้นเจาะตลาดพรีเมี่ยมในราคาเริ่มต้น 70 บาท

ตัวอย่าง! “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ธุรกิจรถเข็นข้างถนน สู่..สตรีทฟู้ดมหาชน

ส่วนแผนสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ Cabalen Group กลุ่มธุรกิจอาหารยักษ์ใหญ่ของฟิลิปปินส์ เพื่อสร้างโรงงานผลิตเส้นที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งในเฟสแรกเตรียมจะนำแบรนด์ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว เข้าไปขายในร้านอาหารในเครือของ Cabalen Group จำนวน 60สาขา

และปลายปีนี้ถึงต้นปี 2568 จะขยายแฟรนไชส์ ชายสี่บะหมี่เกี๊ยวที่ฟิลิปปินส์อีกด้วยนอกจากนี้ยังมีแพลนที่จะนำแบรนด์อื่น ๆ ในเครือไปโรดโชว์ที่ต่างประเทศเช่นเดียวกัน เช่น ญี่ปุ่น เบื้องต้นอยู่ระหว่างหารือกับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อนำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วย เข้าไปวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ต

ทั้งหมดคือ โมเดลธุรกิจ “ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อจากธุรกิจรถเข็นข้างถนนธรรมดาๆ สู่..สตรีทฟู้ดมหาชน เร็วๆนี้จะเข้าไปเฉิ่ดฉายในตลาดหุ้น แถมลุยธุรกิจในต่างแดนเต็มสูบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related