อัปเดตความคืบหน้า Entertainment Complex เตรียมเดินหน้าเปิดเวทีรับฟังความเห็นรอบด้าน สรวงศ์แนะให้ "คนกลาง" เป็นเจ้าภาพ ปัดข้อครหา "รัฐบาลมีธง"
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดของโครงการสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex ซึ่งเป็นเมกะโปรเจกต์ที่หลายฝ่ายจับตามอง
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้ส่ง สส. ลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่เกี่ยวข้อง จากผลการลงพื้นที่พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ไม่ได้แสดงความกังวลหรือมีปัญหาในการทำความเข้าใจประเด็นนี้แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่รอบด้านและเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็น รัฐบาลมีแผนที่จะจัดเวทีรับฟังความเห็นเพิ่มเติม
ประเด็นที่น่าสนใจคือ นายสรวงศ์ยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ขอเป็นเจ้าภาพในการจัดเวทีนี้เอง แต่จะมอบหมายให้ "คนกลาง" หรือภาควิชาการเป็นผู้ดำเนินการแทน พร้อมอธิบายถึงเหตุผลที่ต้องการให้คนกลางเป็นเจ้าภาพว่า หากรัฐบาลเป็นผู้จัดเอง อาจถูกมองว่ามี "ธง" หรือมีจุดยืนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว
ซึ่งอาจไม่เป็นประโยชน์ต่อการพูดคุยแลกเปลี่ยนอย่างแท้จริง โดยต้องการให้ผู้ที่มีความเห็นต่างจากรัฐบาลได้มีโอกาสเข้ามาพูดคุยและทำความเข้าใจร่วมกันถึงเหตุผลความจำเป็นในการมีกฎหมายฉบับนี้ เพื่อเปิดประตูรับการลงทุนจากต่างชาติ
วัตถุประสงค์หลักไม่ใช่การเปิด "บ่อนกาสิโน" เพียงอย่างเดียว แต่พื้นที่ส่วนของกาสิโนเป็นเพียงส่วนประกอบเล็กน้อยประมาณ 10% เพื่อทำหน้าที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่
ซึ่งจะประกอบไปด้วย อีเวนต์ฮอลล์ ศูนย์ประชุม ห้างสรรพสินค้า และโรงแรมต่างๆ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่และพื้นที่โดยรอบโครงการจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนนี้
นายสรวงศ์ยังได้กล่าวถึงมาตรการป้องกันผลกระทบทางสังคม โดยระบุว่าจะมีมาตรการป้องกันที่ชัดเจน เช่น หากครอบครัวใดไม่ต้องการให้บุคคลในครอบครัวเข้าใช้บริการพื้นที่กาสิโน ก็สามารถยื่นเรื่องขอห้ามได้ รวมถึงจะมีมาตรการป้องกันการฟอกเงินที่เป็นมาตรฐานสากลรองรับ
เวทีที่เราอยากเห็นคือการพูดถึงข้อดีข้อเสีย พูดคุยกันด้วยเหตุและผล ไม่ใช่ว่าฝั่งหนึ่งมีธง อีกฝั่งมีธง มาชนกัน มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดคุย ถ้าคิดดูดีๆ สำหรับประเทศไทยเสียโอกาสไปกับเรื่องแบบนี้เยอะมาก
อย่าปิดกั้นโอกาสของประเทศไทยอีกเลย เพราะว่าเราสู้เขาไม่ได้แล้ว ประเทศเพื่อนบ้าน แม้กระทั่งประเทศที่เป็นศาสนาอิสลาม เขาก็มีกัน แต่เขาก็ห้ามคนของเขาเข้า เราก็ห้ามคนของเราเข้าได้ ไม่มีปัญหา
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ย้ำถึงความพร้อมของรัฐบาลที่จะส่งตัวแทนเข้าร่วมเวทีที่จัดโดยคนกลาง เพื่อชี้แจงข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา แต่เจ้าภาพหรือนักวิชาการที่จัดเวทีนั้น ต้องเป็นกลางและไม่มีอคติ เพื่อให้การแลกเปลี่ยนความเห็นเป็นไปอย่างสร้างสรรค์
"รัฐบาลเองก็อยากที่จะฟังเหมือนกันว่า ความคิดของพวกท่านคืออะไร ทำไมถึงไม่อยากให้มี ทำไมถึงมีไม่ได้ แล้วได้ฟังหรือยังว่าข้อกำหนด หรือว่ารายละเอียดของกฎหมายมันคืออะไร"
นายสรวงศ์กล่าวทิ้งท้าย พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า ผู้ที่ออกมาต่อต้านร่างกฎหมายนี้ ส่วนใหญ่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดของตัวร่างกฎหมายฉบับเต็ม โดยเชื่อว่ามีไม่ถึง 10% ที่ได้อ่านจริง ซึ่งอาจรวมถึงนักวิชาการและแกนนำบางส่วนด้วย
ที่มา : posttoday