svasdssvasds

'ณรงค์ชัย' แนะEntertainment Complex ควรใกล้สุวรรณภูมิ

'ณรงค์ชัย' แนะEntertainment Complex ควรใกล้สุวรรณภูมิ

ณรงค์ชัย นักเศรษฐศาสตร์ชี้ ไทยต้องเร่งเปิดใจต่อโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่แค่กาสิโน แต่คือเครื่องจักรดึงรายได้ ดึงนักลงทุน แนะทำเลควรใกล้ สนามบินสุวรรณภูมิ

ถึงเวลาตัดสินใจ! โครงการ Entertainment Complex กับอนาคตเศรษฐกิจไทย

นายณรงค์ชัย ใหญ่สว่าง นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพอินเตอร์ กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ไทยต้องตัดสินใจเดินหน้าโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) หลังเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ จากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจ หลังมาตราการกำแพงภาษีทรัมป์ ที่คาดว่า จีดีพีของประเทศโตอยู่ที่ 1.6-2.3% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นความเชื่อมั่นจากนักลงทุน

เขาเน้นย้ำว่า ประเด็นสำคัญอันดับแรก คือการ สื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาหลายคนเข้าใจผิดว่า Entertainment Complex คือ “กาสิโน” ทั้งหมด ทั้งที่ในความเป็นจริง กาสิโนเป็นเพียงองค์ประกอบเล็ก ๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายทุนหนา จากประสบการณ์เมืองดังอย่างลาสเวกัส พบว่าเพียง 30% ของรายได้มาจากคาสิโน ส่วนอีก 70% มาจากการแสดง คอนเสิร์ต การท่องเที่ยว และการจับจ่ายใช้สอย

ต้องโปร่งใส และทำให้ประชาชนมั่นใจ

การเดินหน้าโครงการไม่สามารถทำได้ด้วยแค่การวางแผนเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลต้องเร่งกำหนด มาตรการควบคุมอย่างโปร่งใสและเข้มงวด เช่น การตรวจสอบตัวตนด้วยระบบ KYC, การคัดกรองกลุ่มนักการเมือง (PEPs), มาตรการป้องกันการฟอกเงินด้วย Digital Footprint และการเสริมบทบาทสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายอย่างแท้จริง

ในด้านทำเล นายณรงค์ชัยแนะว่า พื้นที่เหมาะสมควรอยู่ ใกล้สนามบิน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สุวรรณภูมิ หรือแม้แต่พื้นที่ริมแม่น้ำอย่างคลองเตย ที่หากพัฒนาให้ดี จะช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินจากเฉลี่ย 4 ล้านบาทต่อไร่ เป็นสูงถึง 40 ล้านบาท และกลายเป็นแหล่งรายได้มหาศาลจากค่าเช่า การค้าขาย และการท่องเที่ยว

ไม่ใช่แค่กาสิโน แต่คือเครื่องจักรเศรษฐกิจยุคใหม่

นายณรงค์ชัยย้ำว่า Entertainment Complex ไม่ได้มีแค่กาสิโน แต่รวมถึงแหล่งกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่น เช่น พื้นที่ค้าขายสินค้า OTOP ที่รัฐบาลสามารถส่งเสริมด้วยนโยบายปลอดภาษี สร้างแรงจูงใจให้ตลาดสินค้าไทยขยายไปยังนักท่องเที่ยวคุณภาพ

นอกจากนี้ การดึงดูดให้นักท่องเที่ยว เพิ่มวันพักเฉลี่ยจาก 3–4 วัน เป็น 7–10 วัน และเพิ่มการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปจาก 4,000 บาทเป็น 12,000 บาท จะทำให้รายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้นมหาศาล ไม่เพียงกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ยังส่งผลเชิงบวกระยะยาว

สำหรับเสียงคัดค้านที่ออกมา นายณรงค์ชัยมองว่า เป็นกลุ่มเดิมที่คัดค้านทุกโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ รัฐบาลจึงควร สร้างความเข้าใจอย่างจริงจังต่อประชาชน และเปิดเวทีเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นให้มากขึ้น พร้อมแสดงมาตรการควบคุมชัดเจน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าโครงการนี้จะโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม

related