svasdssvasds

"ลาสเวกัส" เมืองทะเลทราย สู่มหานครบันเทิง Entertainment Complex

"ลาสเวกัส" เมืองทะเลทราย สู่มหานครบันเทิง Entertainment Complex

เปิดรายงานวุฒิสภาไทย "ถอดบทเรียน" ลาสเวกัส จากเมืองเหมืองในทะเลทราย สู่มหานครแห่งความบันเทิงที่สร้างรายได้ทะลุ 1 ล้านล้านบาท ด้วยระบบควบคุมเข้มงวดและการบริหารรายได้เพื่อพัฒนาเมือง

สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้เผยแพร่รายงานประกอบการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) โดยหยิบยกกรณีศึกษาจาก “ลาสเวกัส” เมืองในรัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นตัวอย่างสำคัญของการพัฒนาเมืองผ่านโมเดลธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่ประสบความสำเร็จระดับโลก

จากเหมืองหินสู่ศูนย์กลางความบันเทิงโลก

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2448 ลาสเวกัสเริ่มต้นจากเมืองเล็ก ๆ ในทะเลทราย ผู้คนส่วนใหญ่มีอาชีพทำเหมืองหินและค้าขายทั่วไป แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1990 เมื่อเมืองได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งรวมคาสิโนและสถานบันเทิงขนาดใหญ่ ก่อนจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นมหานครความบันเทิงระดับโลกในปัจจุบัน

3 สถานบันเทิงครบวงจรในลาสเวกัส

รายงานของวุฒิสภา ระบุถึง ลาสเวกัสมีสถานบันเทิงครบวงจรชั้นนำหลายแห่งที่มีชื่อเสียงระดับโลก พร้อมยกตัวอย่างสถานบันเทิงชั้นนำ 3 แห่ง ได้แก่

1. เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ ลาสเวกัส (MGM Grand Las Vegas)

ดำเนินการโดย MGM Resorts International เป็นโรงแรมและคาสิโนขนาดใหญ่ มีห้องพักกว่า 5,000 ห้อง พร้อมพื้นที่คาสิโน 171,000 ตารางฟุต ร้านอาหารระดับมิชลิน ไนต์คลับ และ MGM Grand Garden Arena สำหรับการจัดคอนเสิร์ตและอีเวนต์ขนาดใหญ่

2. เดอะ เวเนเชียน รีสอร์ท ลาสเวกัส (The Venetian Resort Las Vegas)

โรงแรมที่จำลองบรรยากาศเมืองเวนิสแห่งอิตาลีมาไว้กลางทะเลทราย ภายในประกอบด้วยโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ ไนต์คลับ พื้นที่จัดแสดงคอนเสิร์ตและกิจกรรม สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สปาสุดหรู พื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ คลองเวนิสจำลองทั้งในร่มและกลางแจ้ง รวมทั้งกาสิโนระดับโลก

3. โรงแรมเวอร์จิ้น ลาสเวกัส (Virgin Hotel Las Vegas)

สถานบันเทิงครบวงจรในเครือเวอร์จิ้น ซึ่งบริหารโดยเครือโรงแรมฮิลตัน ประกอบด้วยโรงแรมและรีสอร์ตหรู สระว่ายน้ำและสปา ร้านค้าต่างๆ โรงละครขนาดใหญ่ความจุ 4,600 คน ลานกิจกรรมกลางแจ้งบนพื้นที่กว่า 13,000 ตารางฟุต ผับ บาร์ ร้านอาหารนานาชาติ ศูนย์จัดประชุม และกาสิโนขนาดใหญ่ที่มีเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบรองรับนักเสี่ยงโชคจากทั่วโลก

กุญแจความสำเร็จ ระบบกำกับดูแลที่เข้มข้น

ข้อมูลจาก สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ระบุด้วยว่า การบริหารจัดการเรื่องกาสิโนของเมืองลาสเวกัสมีความโดดเด่นในเรื่องการกำกับดูแลที่เข้มงวด โดยมีการจัดตั้ง "คณะกรรมการตรวจสอบความโปร่งใสของเกมพนัน" หรือ Nevada Gaming Commission (NGC) ซึ่งมีหน้าที่สำคัญ ได้แก่ 

  1. ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเกมพนันในแต่ละกาสิโนเพื่อควบคุมความยุติธรรมและป้องกันการโกงลูกค้า
  2. ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจกาสิโนและคัดกรองผู้มีประวัติอาชญากรรม
  3. ควบคุมอย่างเข้มงวดไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าสู่บริเวณกาสิโน
  4. บังคับให้ลูกค้าศึกษากฎกติกาในการเล่นอย่างละเอียดและชี้แจงถึงโทษของการพนันอย่างชัดเจน
  5. ปราบปรามอาชญากรรม เช่น การฟอกเงิน

รายได้มหาศาล คืนกลับสู่การพัฒนาเมือง

จากการศึกษาข้อมูลของ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พบว่า เมืองลาสเวกัสสามารถสร้างรายได้จากสถานบันเทิงครบวงจรสูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 1,050,000 ล้านบาท 

นอกจากนี้ Nevada Gaming Commission ยังมีบทบาทสำคัญในการจัดสรรรายได้จากการเปิดกาสิโนให้เกิดประโยชน์ต่อโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ทั้งถนน สวนสาธารณะ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการศึกษา

ปัจจุบัน ลาสเวกัสได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งความบันเทิงของโลก" เนื่องจากเป็นศูนย์กลางความบันเทิง สวนสนุกขนาดใหญ่ และการจัดประชุมนานาชาติทั้งภาครัฐและภาคเอกชน แสดงให้เห็นว่ารายได้หลักของเมืองมาจาก 3 แหล่งสำคัญ ได้แก่ กาสิโน การท่องเที่ยว และการจัดประชุมระดับโลก

ที่มา: เอกสารประกอบการพิจารณาญัตติ “ขอเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex)” โดยสำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

related