svasdssvasds

เงินสด 12 ล้านทิ้งขยะ สะเทือนระบอบราชการ จ่อยื่น 3 หน่วยงานสอบเข้ม

เงินสด 12 ล้านทิ้งขยะ สะเทือนระบอบราชการ จ่อยื่น 3 หน่วยงานสอบเข้ม

ไอซ์ รักชนก เปิดตำแหน่ง ทวีวัฒน์ ผู้ลืมเงินสด 12 ล้าน ที่ปรึกษาคู่ใจบอร์ด กสทช. ผ่านงานสำคัญเพียบ จ่อยื่น 3 หน่วยงานตรวจสอบเข้ม

จากกรณีที่มีพลเมืองดีพบเงินสด 12 ล้านบาท ซุกอยู่ในลังพลาสติก ถูกนำมาทิ้งไว้ที่บริเวณจุดทิ้งขยะหน้าลิฟต์ ชั้น 4 ตึก P 2 คอนโดเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีนายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว แสดงตนว่าเป็นเจ้าของเงิน และพบว่าชายคนดังกล่าว มีสถานะเป็นสามีของข้าราชการ ป.ป.ช. ระดับผู้อำนวยการ ซึ่งตามกฎหมายจะต้องแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน อีกทั้งยังเป็นอนุกรรมการชุดต่างๆ ของกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยนั้น

ต่อมา สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ชี้แจงว่า นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว เป็นสามีของข้าราชการท่านหนึ่ง ระดับผู้อำนวยการของสำนักงาน ป.ป.ช. จริง และเงินสดจำนวน 12 ล้านบาทดังกล่าว อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นส่วนหนึ่งของรายการในบัญชีทรัพย์สินที่จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ด้วยหรือไม่ อย่างไร 

นอกจากนี้ ในประเด็นการแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะแต่งตั้งตามความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และคุณวุฒิของบุคคลนั้นๆ

ด้านนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของนายต่อพงศ์ เสลานนท์ บอร์ด กสทช. ด้านการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อเดือน เม.ย. 2565 ขณะนี้นายต่อพงศ์อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่สหรัฐอเมริกา

"ไอซ์" เผยตำแหน่ง ทวีวัฒน์ ที่ปรึกษาบอร์ด กสทช. ช่วยงานสำคัญเพียบ

ล่าสุด วันที่ 9 มิถุนายน 2568 นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว  ระบุว่า

คุณทวีวัฒน์ ลืมเงิน 12 ล้าน ถ้าคุณคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง คุณคิดดดด

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว

  • นายทวีวัฒน์ เป็นที่ปรึกษาบอร์ด กสทช. คือ นายต่อพงศ์ เสลานนท์
  • นายทวีวัฒน์เป็นคณะอนุกรรมการใน กสทช. หลายคณะสำคัญๆทั้งนั้น เช่น
  1. เคยเป็นคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์กรณีการรวมธุรกิจระหว่าง TRUE และ DTAC ซึ่งอนุตั้งเพื่อศึกษาและให้ความเห็นกรณีการควบรวมระหว่าง TRUE และ DTAC (ซึ่งทุกคนในคณะมีความเห็นว่า กสทช มี "อำนาจเต็ม" ในการพิจารณาเรื่องการควบรวม สามารถห้ามหรืออนุญาตก็ได้ ยกเว้นอยู่คนเดียยคือ นายทวีวัฒน์ ลงมติว่า กสทช. มีอำนาจแค่ "รับทราบ" เท่านั้น ไม่มีอำนาจห้ามควบรวม)
  2. เคยเป็นคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กสทช. สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลโลก กสทช. จ่ายเงิน 600ล้าน สุดท้าย คนไทยไม่ได้ดูบอลโลกฟรี คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือ TRUE!
  3. คณะอนุกรรมการเพื่อติดตามและประเมินผลการรวมธุรกิจ TRUE และ DTAC ตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม (ติดตามกันไปถึงไหนแล้วไม่รู้ แต่เนตห่วยลง ค่ารายเดือนแพงขึ้น แถม กสทช. ไม่มีมาตรการหอกอะไรเลยในการคุ้มครองประชาชน)

เงินสด 12 ล้านทิ้งขยะ สะเทือนระบอบราชการ จ่อยื่น 3 หน่วยงานสอบเข้ม

 

 

   4. คณะอนุกรรมการการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (กองทุน USO ผลประโยชน์เกือบ 30,000ล้าน! กองทุนนี้ฮั้วและเอื้อประโยชน์กันฉ่ำ กินกันแบบไม่สนการตรวจสอบใดใด)

   5. คณะอนุกรรมการกรองงานของ กสทช. เกี่ยวกับการจัดสรรเงินกองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส. ผลประโยชน์หลายหมื่นล้านเช่นกัน! เป็นกองทุนที่ใครมีอำนาจก็มักจะอนุมัติโครงการไปเอื้อประโยชน์ให้พวกตัวเอง)

ก็ต้องยอมรับว่านายทวีวัฒน์เป็นคน "มีความสามารถมาก" จริงๆ ถึงได้รับความไว้วางใจให้ไปอยู่ในคณะที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของประเทศชาติมหาศาล

ดิฉันไม่อยากยืนยันข้อเท็จจริงใดใด แต่ขอให้ประชาชนได้ลองใช้จินตนาถึงความเก่งกาจของนายทวีวัฒน์เอาเอง ไม่งั้นคงไม่มีเงินสดๆเก็บมากถึง 12ล้านบาทหรอก

เงินสด 12 ล้านทิ้งขยะ สะเทือนระบอบราชการ จ่อยื่น 3 หน่วยงานสอบเข้ม

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ ต่อพงศ์ เสลานนท์ คนที่แต่งตั้ง นายทวีวัฒน์ ให้เป็นที่ปรึกษา

  • ปี 2020 CP เคยแต่งตั้งนายต่อพงษ์ เสลานนท์ เป็น 1 ใน 7 คณะที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3สนามบิน
  • นายต่อพงษ์ เสลานนท์ ลาออกจากการเป็นคณะที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3สนามบินเพื่อมาเป็นบอร์ด กสทช. ถูกรับรองตำแหน่ง กสทช. โดย สว. ที่มาจากการรัฐประหาร
  • ทางสำนักงาน กสทช. โดยรักษาการเลขาธิการ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล นำเสนอในวันที่ลงมติควบรวมทรู-ดีแทค ว่า กสทช. มีอำนาจเพียงรับทราบการควบรวม ไม่มีอำนาจอนุญาตหรือสั่งห้าม (นำเสนอแบบชี้ทางสว่างเวอร์ๆอ่า)
  • ต่อพงษ์ เสลานนท์ ในฐานะบอร์ด กสทช. เห็นชอบตามความเห็นของ ทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ที่เห็นว่า กสทช. ไม่มีอำนาจห้ามการควบรวม True Dtac ทำได้แค่รับทราบเท่านั้น
  • ประธาน กสทช. สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ และ ต่อพงศ์ เสลานนท์ เป็นสองคนในบอร์ดที่ยืนยันว่า กสทช. มีอำนาจเพียงรับทราบ และ เมื่อเสียงเท่ากัน 2 - 2 (พิรงรอง รามสูต และ ศุภัช ศุภชลาศัย ไม่อนุญาต) และ 1 (ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ งดออกเสียง) และเป็นนายต่อพงศ์ เสลานนท์ ที่เป็นผู้เสนอให้ประธานโหวตซ้ำเพื่อชี้ขาด สุดท้ายจึงเกิดดีลที่ส่งผลกระทบต่อคนทั้งประเทศ

ซึ่งปัจจุบันข้อเท็จจริง เรื่องประธาน กสทช. สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ขาดคุณสมบัติและควรต้องพ้นจากตำแหน่งชัดเจนจนไม่มีอะไรชัดได้กว่านี้แล้ว แต่ก็ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ประธาน กสทช. ได้ และใช้อำนาจที่มีอนุมัติเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ และ เดือนนี้ก็กำลังจะมีเรื่อง ประมูลคลื่นความถี่ !

ทั้งหมดนี้ ดิฉันไม่ได้จะยืนยันข้อเท็จจริงใดใดทั้งสิ้น แค่เรียบเรียงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดใน กสทช. ให้ฟังเฉยๆ แน่นอนมันเป็นเรื่องที่ไม่ sexy บางคนอาจจะสงสัยว่าเกี่ยวไรกับกูวะ

ดิฉันอยากบอกว่า กสทช. คือองค์กรที่กุมผลประโยชน์แสนล้าน ถ้าทำงานอย่างแข่นขันประชาชนจะมีอินเตอร์ดีใช้ทั่วประเทศ ค่ายมือถือจะตั้งราคาที่เป็นธรรมไม่ขูดรีด หากค่ายมือถือทำผิดจะโดนลงโทษอย่างสาสมและ กสทช. ยังมีส่วนสำคัญในการจั ดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อีกด้วย แล้วทุกท่านคิดว่าตอนนี้ กสทช. ทำหน้าที่เป็นยังไง ?

มันไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญ ที่สองเสียงของ กสทช. บอกว่ามีอำนาจแค่รับทราบ และ มันไม่ใช่ว่า กสทช.ไม่มีอำนาจลงโทษค่ายมือถือที่ทำสัญญาณล้ม และเหตุผลที่เราจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้เพราะมันจะกระทบรายได้ค่ายมือถือ ทุกอย่างมันคือเรื่องอีหรอปเดียวกัน

ไอซ์อยากให้ทุกคนรู้ ว่านี่คือองค์กรที่เน่าเฟะจนถึงราก ทั้งคนมีอำนาจในบอร์ดและสำนักงาน ลุแก่อำนาจจงใจร่วมมือกันทำลายประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน โดยกลุ่มทุนเข้ามามีอำนาจควบคุมให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ตัวเองต้องการ กระบวนการทั้งหมดนี้ เริ่มตั้งแต่รัฐบาลประยุทธ ดังนั้นใครที่บอกว่าคิดถึงลุงตู่ ช่วยคิดถึงความฉิบหาย ที่รัฐบาลลุงตู่สร้างไว้โดยการวางโครงสร้างอำนาจที่บิดเบี้ยวทำให้ประเทศเรามันเต็มไปด้วยคอรัปชั่นและเอื้อทุนใหญ่ทุกหย่อมหญ้าทุกวันนี้ด้วย

สุดท้ายนี้ ไอซ์ สส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ - Phanida Mongkolsawat และ สส. Pukkamon Nunarnan - ภคมน ลิซ่า หนุนอนันต์ เรา 3คน จะไปยื่นหนังสือ 3 ที่

  1. วันพรุ่งนี้จะไปยื่นหนังสือที่ สรรพากร ให้ตรวจละเอียดเรื่องเส้นทางการเงิน 12 ล้าน ของนายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว และคนใกล้ตัวที่เกี่ยวข้อง
  2. วันพรุ่งนี้จะไปยื่นหนังสือที่ ป.ป.ช. ว่าคู่สมรสของ นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ ร่ำรวยผิดปกติหรือไม่
  3. ยื่น กสทช. ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ (รู้อยู่แล้วว่า ยื่น กสทช. ไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะจพฝั่งบอร์ดหรือฝั่งสำนักงานก็พวกเดียวกัน แต่ต้องยื่นยันว่าจะยื่น ก็ให้ๆรู้กันไป ว่าจะอุ้มกันเอง)

เงิน 12 ล้าน บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องตลก ขำขันแซวกันไป แต่เชื่อเถอะว่าเรื่องนี้มันใหญ่พอๆกันกับตึก สตง. ถล่ม นี่คือฝีหนองมันแตก ดังนั้นใน กสทช. ควรต้องมีคนที่ต้องติดคุกได้แล้ว ใครได้รับสิทธิ์นั้น ก็อย่าลืมลากคอเพื่อนร่วมขบวนการไปลงนรกด้วยกัน องค์กรนี้จะได้สูงขึ้น

ที่มา : เฟซบุ๊ก รักชนก ศรีนอก - Rukchanok Srinork

related