SHORT CUT
ความสำคัญของ วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ หากใครยึดได้ จะควบคุมทางขึ้นลงเขาพระวิหาร ได้ทั้งหมด เปิดที่มาจุดยุทธศาสตร์สำคัญ
เมื่อวานนี้ (24 ก.ค. 6) กองทัพภาคที่ 2 เผยข้อมูลไทยกัมพูชาปะทะกันตามจุดต่างๆ บริเวณชายแดน โดย 1 ในนั้นคือ บริเวณเขาพระวิหาร วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ซึ่งฝ่ายไทยมีการใช้รถถังระดมยิงและทหารราบเข้ายึด จนเช้าวันนี้ ( 25 .ก.ค. 68) มีกระแสข่าวว่า ไทยยึดเขาพระวิหาร วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระได้ แต่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าเป็น FAKE NEWS อย่าหลงเชื่อ
อย่างไรก็ตาม สำหรับวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ และปราสาทพระวิหาร ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ คือศาสนสถานขอมโบราณอายุราว 1,000 ปี ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงของเทือกเขาพนมดงรัก เขตชายแดนไทย–กัมพูชา สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระศิวะ ตัวปราสาทเปรียบเสมือนเขาไกรลาสในคติฮินดู เป็นศูนย์กลางความศรัทธาและพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ของเขมรโบราณ ชื่อเดิมของปราสาทในภาษาสันสกฤตคือ ศีรศิขเรศวร หมายถึง “เทพเจ้าบนยอดเขา”
ในยุคอาณานิคมฝรั่งเศส (ปลาย ร.5) ไทยสูญเสียอำนาจควบคุมดินแดนบางส่วน รวมถึงพื้นที่ใกล้ปราสาท ต่อมาในปี พ.ศ. 2505 ศาลโลกตัดสินให้ตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา โดยอิงแผนที่ภาคผนวก I ที่ฝรั่งเศสจัดทำ ฝ่ายไทยแม้จะถอนกำลังตามคำตัดสิน แต่ไม่ยอมรับว่า พื้นที่รอบปราสาท ตกเป็นของกัมพูชาเช่นกัน จึงกลายเป็นข้อพิพาทที่ยังไม่สิ้นสุดจนปัจจุบัน
จุดยุทธศาสตร์ของวัดนี้อยู่ที่ตำแหน่งเหนือหน้าผา มองลงสู่ที่ราบกัมพูชาได้ชัดเจน ใครควบคุมได้ ย่อมได้เปรียบทางทหาร ทั้งยังมีความสำคัญทางสัญลักษณ์: สำหรับกัมพูชา ปราสาทคือมรดกแห่งอารยธรรม สำหรับไทยอาจคือความรู้สึกที่ต้อง “เสียดินแดน”
ช่วงปี 2551–2554 เกิดความตึงเครียดอย่างหนักจากการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของปราสาท ฝ่ายไทยไม่ยอมรับแนวเขตของกัมพูชาและมีการปะทะด้วยอาวุธ จนต้องให้ศาลโลกตีความเพิ่มเติมในปี 2556 ซึ่งยืนยันว่า เฉพาะพื้นที่ใกล้ตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา ส่วนที่เหลือยังรอการเจรจาปักปัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น หากใครได้ครอบครองวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ จะสามารถควบคุมเส้นทางขึ้น-ลงเขาพระวิหารได้ทั้งหมด ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง