svasdssvasds

เปิดตำรา "เฟกนิวส์" ฮุนเซน กัมพูชาลอก 7 เคล็ดลับ "ฮิตเลอร์"

เปิดตำรา "เฟกนิวส์" ฮุนเซน กัมพูชาลอก 7 เคล็ดลับ "ฮิตเลอร์"

รัฐบาลกัมพูชาในยุคฮุนเซนใช้กลยุทธ์ข่าวปลอม (Fake News) โดยมีต้นแบบมาจากตำราโฆษณาชวนเชื่อของฮิตเลอร์ เช่น ให้ชาวบ้านสร้างสถานการณ์ดราม่าบริเวณชายแดนเพื่อลวงโลก คล้ายกับที่นาซีสร้างฉากค่ายกักกันปลอม

SHORT CUT

  • บทความวิเคราะห์ว่ารัฐบาลกัมพูชาในยุคฮุนเซนใช้กลยุทธ์ข่าวปลอม (Fake News) โดยมีต้นแบบมาจากการโฆษณาชวนเชื่อของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์
  • มีการเปิดเผย 7 กลยุทธ์หลักของฮิตเลอร์ที่ถูกนำมาใช้ เช่น การโกหกคำโต, การโจมตีศัตรูเพียงฝ่ายเดียว, การไม่ยอมรับผิด และการย้ำข้อมูลซ้ำๆ
  • หัวใจสำคัญของกลยุทธ์นี้คือ "การทำซ้ำ" ซึ่งมีพลังในการทำให้ผู้คนเชื่อเรื่องโกหกได้แม้จะรู้ความจริงอยู่แล้ว
  • ยกตัวอย่างการนำไปใช้ของฮุนเซน คือการสร้างสถานการณ์ดราม่าโดยใช้ชาวบ้านบริเวณชายแดน เพื่อลวงประชาคมโลก คล้ายกับที่นาซีเคยสร้างค่ายกักกันปลอม

รัฐบาลกัมพูชาในยุคฮุนเซนใช้กลยุทธ์ข่าวปลอม (Fake News) โดยมีต้นแบบมาจากตำราโฆษณาชวนเชื่อของฮิตเลอร์ เช่น ให้ชาวบ้านสร้างสถานการณ์ดราม่าบริเวณชายแดนเพื่อลวงโลก คล้ายกับที่นาซีสร้างฉากค่ายกักกันปลอม

เคยสงสัยไหมว่าทำไมรัฐบาลกัมพูชาภายใต้การนำของอดีตนายกฯ ฮุนเซน ถึงได้เชี่ยวชาญเรื่องการสร้างข่าวปลอมหรือ "เฟกนิวส์" (Fake news) ได้อย่างแนบเนียนและทำอย่างต่อเนื่อง คำตอบคือ พวกเขามีตำราต้นแบบที่แข็งแกร่ง นั่นก็คือกลยุทธ์การโฆษณาชวนเชื่อของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำเผด็จการนาซีผู้เคยใช้สิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในการก่อสงครามโลก

เฟคนิวส์คืออาวุธสงคราม

อาจารย์พันธ์ศักดิ์ อาภาขจร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้และพบว่า เฟกนิวส์ถูกใช้เป็นอาวุธในการสู้รบมาตั้งแต่ในอดีต ซึ่งในยุคนั้นเราเรียกมันว่า "การโฆษณาชวนเชื่อ" (Propaganda) โดยมีผู้นำเผด็จการหลายคนทั่วโลกที่ใช้กลยุทธ์นี้ราวกับลอกเลียนแบบกันมา

กลยุทธ์พื้นฐาน 4 ข้อที่ผู้นำเผด็จการมักใช้ร่วมกัน

  1. โน้มน้าวผู้คน ใช้ข่าวปลอมหรือโฆษณาชวนเชื่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ
  2. ควบคุมสื่อ ผู้นำต้องเข้าควบคุมสื่อทุกช่องทางอย่างเบ็ดเสร็จ
  3. เล่นกับความเชื่อ อาศัยจุดอ่อนจากความเชื่อเดิมของผู้คน เพื่อกระตุ้นให้เชื่อในข่าวปลอม
  4. ย้ำข้อมูลเดิมซ้ำๆ ยิ่งพูดซ้ำบ่อยๆ คนก็จะยิ่งเชื่อในที่สุด

ตำราฮิตเลอร์ 7 กลยุทธ์โฆษณาชวนเชื่อ

ในบรรดาผู้นำเผด็จการทั้งหลาย ชื่อของฮิตเลอร์มักถูกยกให้เป็นต้นแบบของการโฆษณาชวนเชื่อ ด้วยหลักการที่เขายึดถือจนกลายเป็นตำราที่ผู้นำหลายคนนำไปใช้

7 กลยุทธ์จากฮิตเลอร์ที่กลายเป็น "คาถา" ในการสร้างข่าวปลอม

  1. อย่าปล่อยให้พื้นที่สาธารณะเงียบสงบ ต้องผลิตข่าวสารออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้มีช่องว่างให้คนได้คิดหรือตั้งคำถาม
  2. อย่ายอมรับผิด ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ผู้นำต้องไม่มีทางยอมรับความผิดพลาดหรือข้อบกพร่องของตนเอง
  3. อย่ายอมรับว่าศัตรูมีข้อดี ต้องโจมตีจุดอ่อนของศัตรูแต่เพียงอย่างเดียวและไม่ยอมรับว่าฝ่ายตรงข้ามมีข้อดีใดๆ เลย
  4. อย่าปล่อยให้มีทางเลือกอื่น ต้องทำให้ประชาชนรู้สึกว่ามีเพียงทางเลือกเดียวที่ถูกต้อง คือการเชื่อและทำตามสิ่งที่ผู้นำบอกเท่านั้น
  5. อย่ายอมรับการถูกกล่าวโทษ หากถูกประณามหรือกล่าวหา ให้ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง
  6. มุ่งเป้าไปที่ศัตรูทีละคน กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วโจมตีทุกความผิดพลาดไปที่ศัตรูคนนั้น
  7. การโกหกคำโตจะถูกเชื่อได้ง่ายกว่า "ผู้คนจะเชื่อเรื่องโกหกคำใหญ่ได้ง่ายและเร็วกว่าเรื่องเล็กๆ และหากการโกหกนั้นถูกพูดซ้ำบ่อยๆ ผู้คนก็จะเชื่อในสิ่งนั้นไม่ช้าก็เร็ว"

จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่า การสร้างเฟคนิวส์ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นกลยุทธ์ที่มีรากฐานมาอย่างยาวนานและถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในสังคมที่มีความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้มักถูกนำมาใช้อย่างได้ผล

"การทำซ้ำ" คืออาวุธสำคัญ

หัวใจสำคัญของการโฆษณาชวนเชื่อคือ “การทำซ้ำ” ซึ่งเป็นกลวิธีที่มีพลังมหาศาล เพราะงานวิจัยสมัยใหม่พิสูจน์แล้วว่า การพูดซ้ำๆ ไม่เพียงทำให้เราเชื่อในสิ่งที่เราไม่แน่ใจ แต่ยังสามารถลวงให้เรายอมรับเรื่องโกหกนั้นได้ แม้จะรู้ความจริงอยู่เต็มอกก็ตาม นี่คืออันตรายของการเผยแพร่ข้อมูลเท็จซ้ำๆ ผ่านสื่อ

เมื่อ "ฮิตเลอร์คิด - ฮุนเซนทำ" ใช้กลุ่มคนเปราะบางสร้างดราม่าลวงโลก

ในยุคเผด็จการ ปัญหาคลาสสิกของผู้นำคือ แม้จะควบคุมสื่อในประเทศได้ แต่ก็ไม่สามารถปิดปากสื่อต่างประเทศหรือองค์กรนานาชาติได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลกัมพูชาของฮุนเซนกำลังเผชิญอยู่เช่นกันในยุคโซเชียลมีเดีย ที่การตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับทำได้ง่ายกว่าเดิม

แต่ฮิตเลอร์ก็มีวิธีแก้เกม และฮุนเซนก็นำมาใช้เหมือนกัน

ย้อนกลับไปในปี 1944 เพื่อปกปิดความโหดร้ายของการสังหารหมู่ชาวยิว พวกนาซีได้เชิญผู้แทนสภากาชาดสากลมาตรวจสอบค่ายกักกันที่เมืองหนึ่งในสาธารณรัฐเช็ก แต่ก่อนที่คณะผู้แทนจะมาถึง พวกนาซีได้เตรียมการอย่างแยบยล

  • สร้างฉากลวงตา ให้นักโทษสร้างบ้าน, สวน, และร้านค้าปลอมขึ้นมา เพื่อให้ค่ายดูเหมือนเมืองที่น่าอยู่
  • บังคับแสดง เลือกนักโทษที่แข็งแรงมาคุยกับผู้แทน และบังคับให้พวกเขาบอกว่ามีความสุขดีในค่าย
  • ใช้เด็กเป็นเครื่องมือ เกณฑ์เด็กชาวยิวมาต้อนรับ โดยบังคับให้ยิ้มแย้มสดใส
  • เทคนิคนี้ฮุนเซนได้นำมาปรับใช้ โดยสั่งให้ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาสร้างดราม่า ร้องไห้ หรือประท้วงทหารไทย ทั้งที่พื้นที่นั้นเป็นเขตแดนของไทยชัดเจน

เป้าหมายคือการ "ลวงโลก" และปกปิดความจริงไม่ให้รั่วไหลออกไปสู่ภายนอก โดยใช้กลุ่มคนเปราะบางเป็น "โล่มนุษย์" ในอีกรูปแบบหนึ่ง

นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่า แม้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป แต่กลยุทธ์การโฆษณาชวนเชื่อยังคงเดิม และยังคงเป็นเครื่องมือที่อันตรายอย่างยิ่งในมือของผู้ที่มุ่งหวังจะบิดเบือนความจริง

ที่มา : ข่าวข้น คนข่าว เนชั่นทีวี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related