svasdssvasds

“อักษะใหม่” ผงาด รัสเซีย–จีน–อิหร่าน–โสมแดง เขย่าโลก !

“อักษะใหม่” ผงาด รัสเซีย–จีน–อิหร่าน–โสมแดง เขย่าโลก !

โลกเสี่ยงเผชิญ “อักษะใหม่” รัสเซีย–จีน–อิหร่าน–เกาหลีเหนือ ร่วมมือแนบแน่นยิ่งกว่าอักษะยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 นักประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เตือน 1–3 ปีนี้คือช่วงอันตราย

SHORT CUT

  • รัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ร่วมมือกันแนบแน่นกว่ากลุ่มอักษะในทศวรรษ 1930 ทั้งด้านการทหารและอุตสาหกรรม หลังรัสเซียบุกยูเครนในปี 2022
  • นี่คือครั้งที่ 3 ของจุดเปลี่ยนใหญ่ คล้ายช่วงก่อนสหรัฐฯ เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 และช่วงสงครามเย็น (1948–1962) ที่โลกเกือบเข้าสู่สงครามนิวเคลียร์
  • ความเสี่ยงสูงใน 1–3 ปีข้างหน้า  เขาประเมินความเป็นไปได้ของสงครามโลกครั้งใหม่ไว้ที่ 20–30% ซึ่งแม้ไม่สูงมาก แต่ถือว่าอันตราย เพราะหากฝ่ายตรงข้ามเห็นตะวันตกไม่พร้อม ก็อาจใช้โอกาสนี้ท้าทายระเบียบโลก

โลกเสี่ยงเผชิญ “อักษะใหม่” รัสเซีย–จีน–อิหร่าน–เกาหลีเหนือ ร่วมมือแนบแน่นยิ่งกว่าอักษะยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 นักประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เตือน 1–3 ปีนี้คือช่วงอันตราย

การผนึกกำลังของรัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนใหม่ต่อระเบียบโลก เริ่มปรากฏสัญญาณของ “กลุ่มอักษะใหม่” (New Axis) ที่มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มอักษะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

หากในอดีต เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่นคือศูนย์กลางของการเผชิญหน้ากับฝ่ายสัมพันธมิตร ปัจจุบันกลับเป็น รัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ที่กำลังจับมือกันแนบแน่นยิ่งกว่าที่กลุ่มอักษะยุค 1930 เคยทำ

มุมมองนี้มาจาก ฟิลิป เซลิคาว (Philip Zelikow) นักประวัติศาสตร์และอดีตนักการทูตสหรัฐฯ เขาได้เขียนบทความวิเคราะห์ที่ชื่อ Texas National Security Review โดยระบุว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรกำลังเผชิญกับ “กลุ่มคู่แข่งที่ทรงพลังและมีเป้าหมายชัดเจน”

ครั้งที่สามในประวัติศาสตร์: สหรัฐฯ เผชิญฝ่ายอักษะ

หลังจากรัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ประเทศเหล่านี้ได้เพิ่มความร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรม ไม่เพียงด้านการทหาร แต่ยังรวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการแลกเปลี่ยนทรัพยากร ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นแนวร่วมที่น่าเกรงขา

เซลิคาวเปรียบเทียบว่า นี่เป็น ครั้งที่ 3 ที่สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ในประวัติศาสตร์

  • ครั้งแรก ระหว่างปี 1937–1941 ซึ่งลงเอยด้วยการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังถูกญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์
  • ครั้งที่สอง ระหว่างปี 1948–1962 ซึ่งเกี่ยวพันกับสหภาพโซเวียตและจีนแผ่นดินใหญ่ แม้จะเลี่ยงสงครามโลกได้ แต่โลกก็เกือบเข้าสู่หายนะนิวเคลียร์ในวิกฤติขีปนาวุธคิวบา
  • ครั้งที่สาม คือปัจจุบัน หลังปี 2022 เมื่อรัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ กำลังสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดยิ่งกว่าอักษะเก่าในทศวรรษ 1930 ทั้งในด้านการพัฒนาอาวุธ การส่งออกเทคโนโลยี และการสนับสนุนทางการเมือง

PHOTO REUTERS

สิ่งที่ทำให้สถานการณ์นี้น่ากังวลคือ ในอดีต กลุ่มอักษะต้องใช้เวลานานกว่าจะรวมตัวกันแน่นแฟ้น แต่ในปัจจุบัน “อักษะใหม่” กลับก้าวไปไกลกว่า มีการแบ่งปันทรัพยากรและเทคโนโลยีด้านกลาโหมตั้งแต่เนิ่น ๆ และร่วมมือกันต่อเนื่องยาวนานกว่าเดิม

1–3 ปีแห่งอันตราย โอกาสสงครามโลกครั้งใหม่

แม้นักวิเคราะห์จะประเมินว่าความเป็นไปได้ของสงครามโลกครั้งใหม่อยู่ที่ 20–30% แต่เขาเตือนว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่ควรถูกตีความว่า “ปลอดภัย” เพราะเป็นตัวเลขที่สูงพอจะเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อผู้นำประเทศฝ่ายตรงข้ามอาจมองเห็น “โอกาสทางประวัติศาสตร์” จากความไม่พร้อมของตะวันตก ทั้งด้านกองทัพและเจตจำนงทางการเมือง

เขาย้ำด้วยว่า ผลลัพธ์ของสงครามยูเครนจะมีอิทธิพลโดยตรงต่อทิศทางของประวัติศาสตร์โลก เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในอดีตที่ผู้นำฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยนท่าทีอย่างฉับพลันตามความสำเร็จหรือความล้มเหลวในสมรภูมิอื่น ๆ หากยูเครนพ่ายแพ้หรือพันธมิตรแสดงความลังเล อักษะใหม่ก็อาจตีความว่านี่คือโอกาสในการสั่นคลอนระเบียบโลกที่สหรัฐฯ ครองมาเกือบศตวรรษ

ถึงกระนั้น เซลิคาวยังเห็นแสงแห่งความหวังในระยะยาว เพราะสหรัฐฯ และพันธมิตรยังมีพื้นฐานที่แข็งแรง ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสังคม สิ่งเหล่านี้คือข้อได้เปรียบที่ทำให้ฝ่ายตะวันตกสามารถรักษาความมั่นคงในที่สุดได้ หากสามารถจัดการกับช่วงเวลาที่เปราะบางตรงหน้าได้อย่างชาญฉลาด

แต่ อีก 1–3 ปีข้างหน้าถือเป็นช่วงเสี่ยงที่สุด หากอักษะใหม่เห็นว่าตะวันตกอ่อนแอและลังเล นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการท้าทายอำนาจโลกและอาจนำไปสู่สงครามใหญ่ในที่สุด

ที่มา :tnsr 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

 

 

 

related