svasdssvasds

ศุภจี ฉายภาพแผนรับมือพิษเศรษฐกิจ - เพิ่มรายได้เกษตร หาตลาดใหม่ ลดค่าครองชีพ

ศุภจี ฉายภาพแผนรับมือพิษเศรษฐกิจ - เพิ่มรายได้เกษตร หาตลาดใหม่ ลดค่าครองชีพ

เจาะ 3 ยุทธศาสตร์ เสริมรายได้ฐานราก ลดค่าครองชีพ - สร้างตลาดใหม่ จาก ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่กล่าว ปาฐกถาพิเศษในงาน “Thailand Economic Outlook 2026 : Out of the Trap” จัดโดย กรุงเทพธุรกิจ

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดมุมมองและยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในการนำพาประเทศไทยให้ "ออกจากกับดัก" ทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและปัญหาท้าทายภายในประเทศ โดยเน้นย้ำถึงแผนปฏิบัติการเร่งด่วน (Quick Win) ที่มุ่งเป้าไปที่การสร้างรายได้ให้เกษตรกร, การขยายตลาดใหม่ และการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน

ในการกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา “Thailand Economic Outlook 2026 : Out of the Trap” นางศุภจี ฉายภาพความท้าทายที่ไทยกำลังเผชิญอย่างรอบทิศทาง โดยชี้ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในภาวะชะลอตัวและผันผวนสูงจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) และสงครามการค้า โดยเฉพาะมาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกาที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการค้าโลกโดยตรง

"เราต้องเผชิญกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" นางศุภจีกล่าว "สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าสำคัญของเรา การเจรจาทางการค้าจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด หากไม่สำเร็จอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าการส่งออกมหาศาล และอาจทำให้เกิดการเบี่ยงเบนทางการค้า (Trade Diversion) ที่เราต้องเตรียมพร้อมรับมือ"

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ฉายภาพแผนรับมือพิษเศรษฐกิจ - เพิ่มรายได้เกษตร หาตลาดใหม่ ลดค่าครองชีพ
 

4 เทรนด์โลก และภาวะเศรษฐกิจไทยที่น่ากังวล 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ระบุถึง 4 เมกะเทรนด์ (4Ds) ที่กำลังส่งผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกและไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้:

DEGLOBALIZATION (การลดทอนกระแสโลกาภิวัตน์): ห่วงโซ่อุปทานโลกกำลังถูกปรับเปลี่ยนไปสู่ระดับภูมิภาคมากขึ้น ทำให้ไทยต้องหาจุดยืนที่ชัดเจนในห่วงโซ่มูลค่าใหม่

DECARBONIZATION (การลดคาร์บอน): นโยบายการค้าที่มุ่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ เช่น มาตรการ CBAM ของสหภาพยุโรป กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งปรับตัว

DIGITALIZATION (การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล): การนำเทคโนโลยีและ AI มาใช้เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน

DEMOGRAPHICS (การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร): ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แล้ว ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังแรงงานและการบริโภคภายในประเทศ
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ฉายภาพแผนรับมือพิษเศรษฐกิจ - เพิ่มรายได้เกษตร หาตลาดใหม่ ลดค่าครองชีพ

ในขณะเดียวกัน สภาพเศรษฐกิจภายในประเทศเองก็อยู่ในภาวะที่น่ากังวล อัตราการเติบโตของ GDP ลดลงอย่างต่อเนื่องจากในอดีตที่เคยสูงถึง 5% เหลือคาดการณ์เพียง 1.8% - 2.3% ในปัจจุบัน ประกอบกับภาวะเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ซึ่งอาจนำไปสู่ ภาวะเงินฝืด (Deflation) หากไม่มีการกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศอย่างทันท่วงที

ยุทธศาสตร์ ‘กระตุ้นสั้น ได้ยาว กระจายตัว’ 

เพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว นางศุภจีได้เสนอยุทธศาสตร์หลักของกระทรวงพาณิชย์ภายใต้แนวคิด “กระตุ้นสั้น ได้ยาว กระจายตัว” ผ่าน 3 ยุทธศาสตร์ 7 นโยบายหลักที่เน้นผลลัพธ์รวดเร็ว (Quick Big Win) ดังนี้

เสริมรายได้ฐานราก: มุ่งเน้นไปที่การสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้เกษตรกร ผ่านการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร และการลดต้นทุนปัจจัยการผลิต เช่น โครงการ "ธงเขียว" ที่ช่วยลดราคาปุ๋ย

สร้างตลาดใหม่และขยายการค้า: เร่งผลักดันการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่มีอยู่ 14 ฉบับให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมตั้งเป้าปิดการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป และไทย-เกาหลีใต้ ให้สำเร็จภายในปี 2568 รวมถึงการจัดคณะผู้แทนการค้า (Trade Mission) เพื่อเจาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น อินเดียและตะวันออกกลาง

ลดภาระค่าครองชีพ: เดินหน้าโครงการ "ธงฟ้า" อย่างต่อเนื่อง พร้อมริเริ่มความร่วมมือใหม่ๆ เช่น การร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยเพื่อลดค่าขนส่งสินค้า และการสร้างความโปร่งใสด้านราคายาในโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดภาระให้ประชาชนได้กว่า 32,400 ล้านบาทต่อปี

[ เปลี่ยนโครงสร้างสู่อนาคตที่ยั่งยืน ]
 
นอกเหนือจากมาตรการเร่งด่วนแล้ว นางศุภจีได้ย้ำถึงความจำเป็นในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว โดยใช้จุดแข็งของไทยให้เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์, ศักยภาพด้าน "ครัวของโลก" (Kitchen of the World) และการเป็นศูนย์กลางสุขภาพ (Wellness Economy) โดยมีเป้าหมายเพื่อ:

ปรับโครงสร้างเกษตรกรรม สู่เกษตรแม่นยำที่ผลิตตามความต้องการของตลาด (Demand-driven)

มุ่งสู่ตลาดอาหารแห่งอนาคต (Future Food) โดยใช้นวัตกรรมสร้างมูลค่าเพิ่ม

พัฒนาระบบนิเวศทางการค้าสู่ดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์ม "MOC+" เพื่อยกระดับสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่า (Value-based Economy)

"เมื่อภาครัฐสร้างความเชื่อมั่น ภาคเอกชนสร้างโอกาส ประชาชนก็จะได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง" นางศุภจีกล่าวทิ้งท้าย "เมื่อการค้าเดินได้ เศรษฐกิจก็เดินหน้า และเมื่อเศรษฐกิจเดินหน้า ประเทศไทยก็จะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related