svasdssvasds

อย่ารู้สึกผิดกับ “กองดองหนังสือ” เพราะมันรอเวลาให้เปิดอ่าน

อย่ารู้สึกผิดกับ “กองดองหนังสือ” เพราะมันรอเวลาให้เปิดอ่าน

อย่ารู้สึกผิดกับกองดองหนังสือ เพราะมันคือห้องสมุดส่วนตัวที่ช่วยหล่อเลี้ยงนิสัยรักการอ่านของเราให้คงอยู่ตลอดไป

SHORT CUT

  • หนังสือที่ยังไม่ได้อ่านไม่ใช่สัญลักษณ์ของความขี้เกียจ แต่คือ “ห้องสมุดแห่งความอยากรู้” ที่เตือนให้เราถ่อมตนทางปัญญาและไม่หยุดเรียนรู้
  • “กองดองหนังสือ” คือแรงผลักให้เราตื่นเต้นกับความรู้ใหม่ ๆ เหมือนตอนเดินเข้าร้านหนังสือหรือห้องสมุดในวัยเด็ก
  • เพราะแท้จริงแล้ว การมีหนังสือที่ยังไม่ได้อ่าน คือการปลูกนิสัยรักการอ่านให้คงอยู่กับเราไปตลอดชีวิต.

อย่ารู้สึกผิดกับกองดองหนังสือ เพราะมันคือห้องสมุดส่วนตัวที่ช่วยหล่อเลี้ยงนิสัยรักการอ่านของเราให้คงอยู่ตลอดไป

ทุกคนที่รักหนังสือคงรู้ดีว่า การเดินเข้าร้านหนังสือมักไม่จบลงแค่การ “ดูเล่น” เราเดินออกมาพร้อมหนังสือใหม่หลายเล่ม ทั้งที่บนชั้นที่บ้านยังมีกองหนังสือที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน รอเราอยู่อีกเพียบ และหลายคนมักคิดว่า “การดองหนังสือ” มากไป ก็ทำให้รู้สึกผิดหรือคิดว่าตัวเองขี้เกียจ

อย่างไรก็ตาม นักสถิติชื่อดังชาวอเมริกันเชื้อสายเลบานอน นัสซิม นิโคลัส ทาเล็บ (Nassim Nicholas Taleb) บอกว่า “เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดต่อกองดองหนังสือขนาดนั้น” เพราะหนังสือที่ยังไม่ได้อ่านเหล่านั้นคือสิ่งที่เขาเรียกว่า “Antilibrary” หรือ “ห้องสมุดของหนังสือที่ยังไม่ได้อ่าน” ซึ่งมันไม่ใช่สัญลักษณ์ของความขี้เกียจเลย ตรงกันข้าม มันคือ “สัญลักษณ์ของความอยากรู้อย่างไม่สิ้นสุด”

นัสซิม นิโคลัส ทาเล็บ (Nassim Nicholas Taleb) PHOTO nrkbeta

มนุษย์ต้องมีสิ่งที่ยังไม่รู้เสมอ 

ทาเล็บยกตัวอย่างนักเขียนและนักปราชญ์ชาวอิตาลีชื่อดัง อุมแบร์โต เอโก (Umberto Eco) เจ้าของห้องสมุดส่วนตัวที่มีหนังสือกว่า 30,000 เล่ม ซึ่งไม่ได้อ่านทั้งหมด

เวลามีแขกมาที่บ้าน หลายคนทึ่งกับจำนวนหนังสือและคิดว่ามันสะท้อนความรู้ของเอโก แต่ความจริงคือ เอโกเองก็รู้ว่าเขาอ่านไม่หมดแน่ ๆ เขาคำนวณคร่าว ๆ ว่าตลอดชีวิต (อายุ 10–80 ปี) หากอ่านวันละหนึ่งเล่ม ก็จะได้เพียง 25,200 เล่มเท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับหนังสือเป็นล้านเล่มในห้องสมุดมหาวิทยาลัย

สิ่งนี้สะท้อนว่า “มนุษย์ยังมีสิ่งที่ไม่รู้มากกว่าสิ่งที่รู้ ซึ่งหนังสือที่ยังไม่ได้อ่านคือสัญลักษณ์ของความไม่รู้ แต่ถ้าคุณรู้ว่าคุณไม่รู้ คุณก็ฉลาดกว่าคนส่วนใหญ่แล้ว”

อย่ารู้สึกผิดกับ “กองดองหนังสือ” เพราะมันรอเวลาให้เปิดอ่าน

กองดองคือ ห้องสมุดส่วนตัว 

ทาเล็บมองว่า สิ่งสำคัญคือหนังสือที่ยังไม่เปิดอ่านคือแรงผลักให้เราอยากรู้ อยากเรียนรู้ต่อไป และเตือนให้เราถ่อมตนทางปัญญา เพราะห้องสมุดที่เราอ่านจบหมดแล้ว มักกลายเป็นแค่ “ของสะสมโชว์อีโก้” มากกว่าเป็นคลังความรู้ที่มีชีวิต แต่ในทางกลับกัน ห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือที่เรายังไม่ได้อ่าน จะกระตุ้นให้เราตื่นเต้นที่จะเลือกหยิบอ่าน และเป็นเหมือนอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้เราไม่ละทิ้งการอ่านไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน สอดคล้องงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า “บ้านที่มีหนังสือเยอะ” ส่งผลดีต่อพัฒนาการของคนในบ้าน โดยเด็กที่โตมาในบ้านที่มีหนังสือระหว่าง 80–350 เล่ม มักมีทักษะการอ่าน การคิดเลข และการใช้เทคโนโลยีดีกว่าคนทั่วไป

สุดท้ายแล้ว “กองหนังสือที่ยังไม่ได้อ่าน” ในห้องของเรา อาจไม่ใช่กองดองที่น่ารู้สึกผิดเลยก็ได้ แต่มันคือ ห้องสมุดส่วนตัวของเรา ที่เต็มไปด้วยหนังสือรอให้เราได้เปิดอ่านในวันที่ “ถึงเวลา” ทุกครั้งที่สายตาเหลือบเห็นกองหนังสือเหล่านั้น เราอาจรู้สึกตื่นเต้นได้เหมือนตอนเดินเข้าไปในร้านหนังสือ หรือห้องสมุดตอนเด็ก ๆ ความรู้สึกที่ว่า “ยังมีอะไรอีกมากให้เราได้ค้นพบ” ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ควรอยู่ติดตัวเราไปตลอดชีวิต

related