
SHORT CUT
ราชสำนักอังกฤษประกาศปลด เจ้าชายแอนดรูว์ พ้นจากทุกบรรดาศักดิ์และตำแหน่ง หลังมีข้อครหาความสัมพันธ์กับอาชญากรทางเพศ
ข่าวใหญ่สะเทือนราชสำนักอังกฤษในค่ำวันพฤหัสบดี เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 มีพระบรมราชโองการ ปลดพระอนุชา เจ้าชายแอนดรูว์ ออกจากทุกตำแหน่งและพระยศที่เหลืออยู่ พร้อมสั่งให้ออกจากตำหนักหลวง Royal Lodge ใกล้ปราสาทวินด์เซอร์ หลังกระแสสังคมกดดันหนักเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับอาชญากรทางเพศชื่อกระฉ่อน “เจฟฟรีย์ เอพสตีนน์”
หลังจากคำสั่งนี้ เจ้าชายผู้เคยเป็นที่รักของราชินีเอลิซาเบธที่ 2 จะไม่สามารถใช้คำว่า “เจ้าชาย” ได้อีกต่อไป พระองค์จะเป็นเพียง “แอนดรูว์ เมาท์แบตเทน วินด์เซอร์” พลเมืองคนหนึ่งที่เกิดในราชวงศ์ แต่หมดสิทธิ์ในเกียรติยศทั้งหมด รวมถึงบรรดาศักดิ์ดยุกแห่งยอร์ก เอิร์ลแห่งอินเวอร์เนส และบารอนคิลลีลี
ครั้งหนึ่ง แอนดรูว์เคยเป็น “เจ้าชายในฝัน” ของประชาชนอังกฤษ พระเอกหนุ่มแห่งราชวงศ์ที่ขับเฮลิคอปเตอร์รบในสงครามฟอล์กแลนด์เมื่อปี 1982 และเป็นขวัญใจสื่อจากข่าวรักกับนางแบบชื่อดังมากมาย
แต่กาลเวลาผ่านไป ชื่อของพระองค์กลับผูกติดกับคำว่า “อื้อฉาว” ธุรกิจลึกลับ มิตรสหายต้องสงสัย และพฤติกรรมไม่เหมาะสมมากมาย จนท้ายที่สุดความสัมพันธ์กับเอพสตีนน์ (นักค้ากามเด็ก) กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำลายทุกอย่าง
แรงกดดันที่ถาโถมใส่ราชวงศ์มานานกลับลุกเป็นไฟ หลังการตีพิมพ์หนังสือ Nobody’s Girl บันทึกชีวิตของ “เวอร์จิเนีย จิฟเฟร” เหยื่อรายสำคัญของเครือข่ายเอพสตีนน์ ซึ่งวางขายเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากเธอเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย
หนังสือเล่มนี้เปิดเผยอย่างละเอียดถึงช่วงเวลาที่เธอถูกนำไปพบเจ้าชายแอนดรูว์ขณะอายุเพียง 17 ปี และอ้างว่าพระองค์มีเพศสัมพันธ์กับเธอถึงสามครั้ง พร้อมบรรยายอย่างเจ็บปวดว่าเจ้าชาย “ทำราวกับว่าการมีเพศสัมพันธ์กับฉันเป็นสิทธิ์โดยกำเนิดของเขา”
คำพูดนั้นจุดกระแสเดือดในสังคมอังกฤษทันที และยิ่งทำให้เสียงเรียกร้องให้ราชวงศ์ “ตัดขาด” จากแอนดรูว์ดังขึ้นทั่วประเทศ
 
        
หลังถูกถอดยศ แอนดรูว์ วัย 65 ปี จะต้องย้ายออกจากตำหนัก Royal Lodge ที่เคยอาศัยร่วมกับอดีตภรรยา “ซาราห์ เฟอร์กูสัน” และคาดว่าจะย้ายไปอยู่ในพื้นที่หนึ่งของที่ดิน Sandringham ซึ่งอยู่ในการดูแลของพระราชา โดยจะได้รับเพียง “เงินสนับสนุนส่วนตัว” จากพี่ชาย
 
        
ที่มา : APNEWS
ข่าวที่เกี่ยวข้อง