
SHORT CUT
ม.ธรรมศาสตร์ ออกโรงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งกำหนดมาตรการกำกับดูแล 'อินฟลูเอนเซอร์' อย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากเนื้อหาที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่ผลกระทบเชิงลบต่อสังคมในวงกว้าง ชี้ปัจจุบันไทยยังขาดกฎหมายควบคุมโดยตรง
ปัจจุบันอาชีพอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างมาก สอดรับกับพฤติกรรมการบริโภคข้อมูลของประชาชนที่หันไปใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ประเทศไทยมีอินฟลูเอนเซอร์มากถึง 2-3 ล้านคน ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน เป็นรองเพียงประเทศอินโดนีเซียเท่านั้น ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมีอิทธิพลต่อสังคมสูง ทำให้เนื้อหาที่ถูกเผยแพร่มีอิทธิพลต่อผู้คนในวงกว้าง
รศ.ประไพพิศ มุทิตาเจริญ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร และอาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยถึงประเด็นนี้ โดยชี้ว่า ประเทศไทยควรมีการกำหนดมาตรฐาน จรรยาบรรณ และมาตรการกำกับดูแล เพื่อป้องกันไม่ให้การเผยแพร่นำไปสู่ผลกระทบเชิงลบต่อสังคม
การมีมาตรการกำกับดูแลจะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากเนื้อหาหรือประเด็นที่มีความละเอียดอ่อน เนื้อหาเหล่านี้รวมถึง ความรู้ทางสุขภาพและความงาม, การเงินและการลงทุน, และความรู้ทางกฎหมาย การนำเสนอในประเด็นดังกล่าวไม่สามารถใช้เพียงความคิดเห็นหรือความรู้สึก
รศ.ประไพพิศ ระบุว่า แม้ประเด็นเกี่ยวกับอินฟลูเอนเซอร์จะมีมาต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และในมุมหนึ่งอาชีพนี้ก็สร้างโอกาสและความเท่าเทียมให้คนทั่วไปสามารถสร้างเนื้อหาจนเป็นอาชีพได้ แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ เนื้อหาที่เผยแพร่นั้นมีความถูกต้องและความรับผิดชอบมากน้อยเพียงใด
ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องยังไม่มีกฎระเบียบในการกำกับดูแลอินฟลูเอนเซอร์อย่างชัดเจน มีเพียงความพยายามในการปรับปรุงกฎหมายฉบับอื่นๆ เช่น กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค หรือ พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ในหลายประเทศทั่วโลกได้มีการกำหนดมาตรฐานและมาตรการกำกับดูแลอินฟลูเอนเซอร์แล้ว
รศ.ประไพพิศ เสนอว่า นอกจากหน่วยงานรัฐที่ต้องเร่งกำหนดกฎหมายควบคุมโดยตรง โดยอาศัยข้อมูลรายงานผลกระทบในอดีตและข้อมูลการละเมิดกฎหมายเป็นฐาน ทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูป หรือ ติ๊กตอก (TikTok) แม้จะมีกลไกควบคุมเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว แต่ก็ควรมีการกำหนดแนวทางการกำกับควบคุมเนื้อหาเชิงธุรกิจที่มีความเฉพาะทางหรือมีประเด็นอ่อนไหวต่อความมั่นคงในชีวิตของผู้คนมากขึ้น พร้อมทั้งกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจน
ในส่วนของสถาบันการศึกษา ทางธรรมศาสตร์ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความเข้มแข็งให้กับนักศึกษาที่จะก้าวไปสู่สายอาชีพอินฟลูเอนเซอร์ โดยมีการพัฒนาทักษะผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ของสถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ (TU NEXT) ซึ่งเป็นคอร์สออนไลน์ที่เข้าถึงได้ทุกคน และมีการสอนเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งที่ควรระวัง รวมถึงมีรายวิชาด้านจริยธรรมและกฎหมายเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์
ที่มา : thansettakij