svasdssvasds

ทำไมเราถึงชอบลาออกช่วงสิ้นปี เรื่องบังเอิญหรือเพราะจิตวิทยา

ทำไมเราถึงชอบลาออกช่วงสิ้นปี เรื่องบังเอิญหรือเพราะจิตวิทยา

ทำไมคริสต์มาสและช่วงสิ้นปีจึงกลายเป็นเวลาที่คนจำนวนมากตัดสินใจลาออก จากงานที่ทนอยู่มาทั้งปี เรื่องบังเอิญหรือเพราะจิตวิทยา

SHORT CUT

  • เมื่อความวุ่นวายจากงานหยุดลงในช่วงคริสต์มาส คนจึงมีพื้นที่ทางจิตใจในการทบทวน และความไม่พอใจที่ถูกกดไว้ทั้งปีก็ผุดขึ้นมาอย่างชัดเจน
  • ปีใหม่ทำให้คนย้อนมองชีวิตและตั้งคำถามกับอนาคตว่า ยังอยากใช้เวลาต่อไปกับงานเดิมหรือไม่ เกิดแรงผลักให้ต้องการ “เริ่มต้นใหม่”
  • โบนัสปลายปี เวลาว่าง และการสนับสนุนจากคนรอบตัว ทำให้ความคิดเรื่องลาออกไม่หยุดแค่ในหัว แต่กลายเป็นการลงมือทำจริง

ทำไมคริสต์มาสและช่วงสิ้นปีจึงกลายเป็นเวลาที่คนจำนวนมากตัดสินใจลาออก จากงานที่ทนอยู่มาทั้งปี เรื่องบังเอิญหรือเพราะจิตวิทยา

ทุกปี เมื่อเทศกาลคริสต์มาสผ่านพ้นไปและปฏิทินกำลังจะเปลี่ยนหน้า องค์กรจำนวนไม่น้อยกลับพบรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นคือจดหมายลาออกที่ทยอยเข้ามาในช่วงปลายปีต่อเนื่องถึงต้นปีใหม่ ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และไม่ใช่เพียงผลของโอกาสทางตลาดแรงงานเท่านั้น หากแต่มีรากฐานทางจิตวิทยาที่ลึกซึ้งกว่าที่เราคิด

ตลอดทั้งปี คนทำงานจำนวนมากใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความเร่งรีบ งานด่วน และภาระความรับผิดชอบที่ถาโถมจนแทบไม่มีพื้นที่ให้หยุดคิดถึงตัวเอง งานที่ยุ่งวุ่นวายกลายเป็นเกราะกำบังทางจิตใจ ทำให้เราหลีกเลี่ยงการตั้งคำถามที่ไม่สบายใจเกี่ยวกับชีวิตการทำงานของตัวเองได้อย่างแนบเนียน แต่เมื่อช่วงคริสต์มาสมาถึง วงจรนี้กลับถูกตัดขาดอย่างกะทันหัน การหยุดยาวทำให้ความวุ่นวายทางความคิดเงียบลง และเปิดพื้นที่ให้ความรู้สึกที่ถูกกดทับไว้ตลอดปีได้ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน

ในช่วงเวลาเดียวกัน การกลับไปใช้เวลาร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูงก็กลายเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่เร่งเร้าการทบทวนชีวิต ผู้คนเริ่มได้ยินเรื่องราวของคนรอบข้างที่เปลี่ยนงาน ประสบความสำเร็จ หรือมีชีวิตการทำงานที่ดูมีความหมายกว่าเดิม การเปรียบเทียบเหล่านี้อาจไม่ได้เกิดจากความอิจฉาโดยตรง แต่เป็นการสะท้อนกลับมาที่ตัวเองว่า งานที่กำลังทำอยู่นั้นตอบโจทย์ชีวิตจริงหรือไม่ และเรายังต้องการอยู่ในจุดเดิมต่อไปอีกนานแค่ไหน

การสิ้นสุดของปีเก่ายังทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งทางสัญลักษณ์อย่างทรงพลัง เมื่อเวลาถูกนับถอยหลัง ผู้คนมักหันกลับมามองเส้นทางชีวิตที่ผ่านมาและตั้งคำถามกับอนาคตที่กำลังจะมาถึง คำถามอย่าง “ปีนี้ฉันได้อะไรจากงานนี้บ้าง” หรือ “ถ้ายังทำงานแบบเดิมต่อไป ชีวิตอีกหลายปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร” เริ่มดังขึ้นในหัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปีใหม่จึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนตัวเลขในปฏิทิน แต่เป็นจุดเริ่มต้นทางจิตใจที่กระตุ้นให้เกิดความปรารถนาจะเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ ช่วงปลายปียังเป็นเวลาที่หลายคนมีทั้งทรัพยากรและพลังใจพร้อมสำหรับการตัดสินใจ โบนัสปลายปี การสนับสนุนจากครอบครัว และเวลาว่างในการวางแผน ทำให้ความคิดเรื่องการลาออกไม่หยุดอยู่แค่ในหัว แต่กลายเป็นการกระทำที่จับต้องได้ การลาออกหลังคริสต์มาสจึงไม่ใช่การหนีปัญหา หากแต่เป็นผลลัพธ์ของกระบวนการทบทวนชีวิตอย่างจริงจังที่เกิดขึ้น

ทำไมเราถึงชอบลาออกช่วงสิ้นปี เรื่องบังเอิญหรือเพราะจิตวิทยา

related