svasdssvasds

5 ปมร้อนการเมืองบนโลกโซเชียล ท่ามกลางสถานการณ์ก่อนเลือกตั้ง 2569

5 ปมร้อนการเมืองบนโลกโซเชียล ท่ามกลางสถานการณ์ก่อนเลือกตั้ง 2569

ในสถานการณ์การเมืองที่ยังคงคุกรุ่นและไม่มีข้อสรุป 5 ประเด็นสำคัญที่กำลังสร้างกระแสและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโซเชียลมีเดีย มีประเด็นไหนที่เป็นกระแสอยู่บ้าง

SHORT CUT

  • การยุบสภาโดยนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโซเชียลมีเดีย
  • ประเด็นความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา และความล้มเหลวในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นชนวนสำคัญที่นำไปสู่การยุบสภาและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
  • พรรคประชาชนเป็นพรรคการเมืองที่ถูกกล่าวถึงและได้รับเอนเกจเมนต์สูงสุดบนโซเชียลมีเดีย ตามมาด้วยพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย
  • การยุบสภาส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน ทำให้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ "คนละครึ่งพลัส เฟส 2" ต้องหยุดชะงักลง

ในสถานการณ์การเมืองที่ยังคงคุกรุ่นและไม่มีข้อสรุป 5 ประเด็นสำคัญที่กำลังสร้างกระแสและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโซเชียลมีเดีย มีประเด็นไหนที่เป็นกระแสอยู่บ้าง

บรรยากาศการเลือกตั้ง 2569 ที่ทวีความเข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะช่วงปลายปีนี้พรรคการเมืองหลายพรรคเริ่มประกาศผู้สมัครนายกรัฐมนตรีและพร้อมนำเสนอนโยบายหาเสียงที่สามารถเห็นได้ตามป้ายหาเสียงริมถนนทั่วไป

ท่ามกลางประเด็นที่คนไทยกำลังให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ปัญหาเงินกู้นอกระบบ ไปจนถึงนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจและการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนออกมาลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า

บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) ได้ทำการเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องตั้งแต่วันที่ 1-25 ธันวาคม 2568 ผ่านเครื่องมือ Zocial Eye ปรากฏว่ามีการพูดถึงบนโซเชียลมีเดียสูงถึง 46,821,649 เอนเกจเมนต์ จาก 318,544 ข้อความ

Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ครองพื้นที่ในการถ่ายทอดข่าวมากถึง 73.79% ด้วยจำนวนข้อความสูงสุดถึง 235,047 ข้อความ และสร้างเอนเกจเมนต์ได้ราว 27 ล้านครั้ง สะท้อนถึงการเป็นพื้นที่หลักในการสื่อสาร

YouTube ที่ตามมาในอันดับสองมากถึง 8.57% ด้วยจำนวนข้อความ 27,309 ข้อความ  และสร้างเอ็นเกจเมนต์กว่า 1.3 ล้านครั้ง  ซึ่ง YouTube ยังคงเป็นพื้นที่สำหรับการติดตามข่าวสารเชิงลึก

แม้จำนวนข้อความบน TikTok จะอยู่ที่ 7.35% หรือราวๆ 23,422 ข้อความ แต่กลับโดดเด่นด้านการสร้างเอ็นเกจเมนต์ที่สูงมากถึง 23 ล้านครั้ง แสดงให้เห็นถึงพลังของคอนเทนต์วิดีโอสั้นในการปลุกกระแสและสามารถสร้างเอ็นเกจเมนต์ให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อการยุบสภากลายเป็นจุดเปลี่ยนบนสนามการเมืองไทย

การยุบสภาผู้แทนราษฎรโดยนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ได้จุดชนวนให้เกิดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการเมืองไทย ข้อมูลจากโพสต์ยอดนิยมเผยให้เห็นถึงความสนใจของสาธารณะต่อการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ของแต่ละพรรค ตั้งแต่คำวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญและสถานการณ์ชายแดน ไปจนถึงความมุ่งมั่นของพรรคการเมืองในการช่วงชิงคะแนนเสียงจากประชาชนอีกครั้ง

1. การยุบสภาที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นสู่สนามเลือกตั้งใหม่

เมื่อนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ตัดสินใจยุบสภาผู้แทนราษฎร ประเทศไทยก็พลิกเข้าสู่โหมดเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งในต้นปี 2569 โดยการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ข่าวการยุบสภาแพร่กระจายเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็วทั้งในแวดวงการเมืองและโซเชียลมีเดีย

โพสต์บน TikTok จากบัญชี @sparkupdate ที่แชร์ข่าวนี้ด้วยแฮชแท็ก #ข่าวtiktok #ยุบสภา #เลือกตั้ง ได้รับความสนใจสูงถึง 351,970 เอ็นเกจเมนต์ บอกได้เลยว่าคนไทยตื่นตัวกับข่าวครั้งนี้มาก คลิปข่าวสั้นๆ บน TikTok ที่มีกราฟิกและหัวข้อกระชับเข้าใจง่าย สะท้อนให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ต้องการรับข่าวสารแบบรวดเร็วทันใจ ตอนนี้อำนาจกลับมาอยู่ในมือประชาชนแล้ว ทุกพรรคการเมืองจึงต้องรีบปรับกลยุทธ์และเตรียมพร้อมลงสนามชิงชัยในการเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามาทุกที

2. ภูมิใจไทยกับการเดิมพันชายแดน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กำลังเผชิญกับการจับตาและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากการตัดสินใจยุบสภาท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

โพสต์วิดีโอสัมภาษณ์นายอนุทินทาง TikTok จาก @amarintvhd  ได้นำเสนอประเด็นร้อนที่นายอนุทินยืนยันว่า ‘พยายามจบปัญหาชายแดนให้เร็วที่สุด’ พร้อมทั้งตั้งคำถามย้อนไปถึงอดีตผู้นำพรรคอย่างนายธนาธรและนายพิธา ในลักษณะการโยนลูกกลับไปยังฝ่ายตรงข้าม โพสต์นี้ได้รับ 323,858 เอ็นเกจเมนต์ ซึ่งยังเป็นประเด็นทางการเมืองที่ผูกติดกับการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ที่ประชาชนยังเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด  รวมทั้งสถานการณ์ความไม่สงบที่มาพร้อมกับความไม่แน่นอนทางการเมือง อาจเป็นประเด็นสำคัญของการหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้อีกด้วย

3. การแก้รัฐธรรมนูญสะดุด จุดจบของการแก้ไขและทางออกสู่การเลือกตั้ง

ความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ต้องสิ้นสุดลงอย่างน่าเสียดาย หลังจากการลงมติในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับอำนาจของวุฒิสภา (สว.) ในการเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งไม่เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหวังโดยเฉพาะพรรคประชาชน “Thai PBS” ได้สรุปสถานการณ์นี้อย่างเข้าใจง่ายว่า ‘เมื่อรัฐบาลประกาศยุบสภา แล้วประเทศไทยจะเป็นยังไงต่อ?’ โพสต์วิดีโอจาก บัญชี @thaipbs ที่ได้รับ 278,718 เอ็นเกจเมนต์ นำเสนอข้อมูลช่วยให้ผู้ชมเข้าใจกระบวนการยุบสภาและผลกระทบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

4. เสียงสะท้อนจากโซเชียลมีเดียและการจัดอันดับพรรคการเมืองที่ถูกพูดถึงมากที่สุด

ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่ร้อนระอุหลังการยุบสภา คำถามสำคัญที่วนเวียนอยู่ในใจของคนไทยคือ ‘ถ้าได้เลือกตั้ง อยากเลือกพรรคไหน?’ โพสต์จาก ‘คนดังนั่งเคลียร์’ ทาง Facebook ที่มียอดเอ็นเกจเมนต์ สูงถึง 221,919 ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นและตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่จะเข้ามาบริหารประเทศในอนาคตอันใกล้ กระแสความเห็นบนแพลตฟอร์มต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของความคิด ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ยังคงสนับสนุนพรรคเดิม หรือผู้ที่มองหาพรรคใหม่ๆ ที่มีโอกาสเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลง ข้อถกเถียงนี้ครอบคลุมทั้งประเด็นนโยบาย ผลงานที่ผ่านมา ไปจนถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำพรรคแต่ละคน การมีส่วนร่วมของประชาชนในการแสดงออกถึงความต้องการผ่านช่องทางออนไลน์เช่นนี้ เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า แม้สถานการณ์การเมืองจะผันผวนเพียงใด แต่ประชาชนยังคงเป็นผู้ตัดสินใจสูงสุดในการกำหนดทิศทางของประเทศ

จัดอันดับพรรคการเมืองที่ถูกชาวโซเชียลพูดถึงมากที่สุด

  • พรรคประชาชน 142,551 ข้อความ (33,545,910 เอ็นเกจเมนต์)
  • พรรคเพื่อไทย 86,172 ข้อความ (14,866,553 เอ็นเกจเมนต์)
  • พรรคภูมิใจไทย 51,808 ข้อความ (21,563,657 เอ็นเกจเมนต์)
  • พรรคเศรษฐกิจ 24,421 ข้อความ (1,740,273 เอ็นเกจเมนต์)
  • พรรคประชาธิปัตย์ 15,201 ข้อความ (3,548,344 เอ็นเกจเมนต์)

5. นโยบายประชาชนที่ถูกแช่แข็งที่เกิดมาจากผลกระทบจากการยุบสภาต่อสวัสดิการและเศรษฐกิจ

การยุบสภาไม่ได้ส่งผลกระทบแค่เพียงความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ยังแช่แข็งนโยบายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โครงการ ‘คนละครึ่งพลัส เฟส 2’ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่หลายคนตั้งตารอ ต้อง ‘หยุดไว้ก่อน’ เนื่องจากข้อจำกัดของกฎหมายเลือกตั้ง สะท้อนว่าความผันผวนทางการเมืองมีราคาที่ประชาชนต้องจ่ายผ่านนโยบายที่ถูกระงับและโอกาสที่ล่าช้าออกไป

การยุบสภาโดยนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ได้เปิดฉากสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ซึ่งเป็นผลจากความตึงเครียดทางการเมือง โดยเฉพาะความล้มเหลวในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โพสต์ยอดนิยมจาก TikTok และ Facebook สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของประชาชนต่อการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ อย่างพรรคภูมิใจไทยที่ถูกวิจารณ์ถึงกลยุทธ์ช่วงชิงอำนาจ ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนที่ตึงเครียด ส่วนพรรคประชาชนก็เผชิญคำวิจารณ์เรื่อง ‘ความไร้เดียงสา’ แต่ก็มุ่งมั่นที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดและตั้งเป้าหมายชนะเสียงข้างมาก ด้านพรรคเพื่อไทยก็เปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ และนโยบายใหม่ๆ หวังกลับมาชิงเก้าอี้ในรัฐบาลอีกครั้ง ขณะที่นโยบาย ‘คนละครึ่งพลัส เฟส 2’ ต้องถูกระงับจากผลพวงของการยุบสภา ทำให้เห็นถึงผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นเดิมพันสำคัญที่ประชาชนจะได้ร่วมกำหนดทิศทางของประเทศในอนาคต

ที่มา : Wisesight

 

related