SHORT CUT
ตายในเรือนจำเพราะทำตัวเองหรือมีคนทำให้ตาย? รวมข้อเท็จจริงที่ข้ดแย้งปม "ผู้กำกับโจ้" เรื่องนี้เป็นมากกว่าสิ่งที่รู้หรือไม่
ค่ำวันที่ 7 มี.ค. 68 นายธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ผู้ต้องขังคดีใช้ถุงดำคลุมศรีษะผู้ต้องหาเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย กลายเป็นศพขณะถูกคุมขังมาแล้วกว่า 3 ปีครึ่งในเรือนจำกลางคลองเปรม กรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์ในช่วงเช้าวันที่ 8 มี.ค.ยืนยันต่อสังคมว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ภายในห้องขังเดี่ยว พบว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช ยืนยันว่าไม่มีผู้ใดเข้าไปในห้องขังของเขาอีกนอกจากตัวเขาเองหลังเวลา 15:00 น. วันที่ 7 และได้ปล่อยภาพกล้องวงจรปิดโถงทางเดินหน้าห้องขังที่มองเห็นประตูห้องอดีตผู้กำกับโจ้ อยู่ไกลๆ
ในเอกสารคำแถลงของกรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่า นายธิติสรรค์ มีอาการป่วยด้วยโรคทางจิตเวชวิตกกังวล (Anxiety disorder)ได้รับการรักษาและรับยาต่อเนื่อง โดยพบจิตแพทย์ครั้งหลังสุด เมื่อวันที่ 18 ก.พ.68 ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และมีนัดพบจิตแพทย์ในเดือน เม.ย.68 ขณะควบคุมในเรือนจำฯ ซึ่งตรงกับการแถลงต่อสื่อมวลชนของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์
แต่มีเพียงนายเผด็จ หริ่งรอด ผอ.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง รักษาราชการแทน ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม ยืนยันว่า "ผกก.โจ้ ไม่ได้ป่วยจิตเวช เป็นเพียงอาการกังวลและเครียดเท่านั้น เพราะหากพบว่าเป็นจิตเวชเรือนจำจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด"
กรมราชทัณฑ์เผยแพร่ภาพกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินหน้าห้องขังแยกเดี่ยว ซึ่งเป็นห้องของ ผกก.โจ้ อยู่ไกลๆ และมองไม่เห็นผู้ใดเข้าออกห้องดังกล่าวอีกหลังจาก ผกก.โจ้เข้าห้องไปในเย็นวันนั้น โดยยืนยันว่าไม่มีกล้องวงจรปิดถึงในห้องขัง เพราะเคารพสิทธิของผู้ต้องขังทุกคน
แต่ในฝั่งอดีตผู้ต้องขังในเรือนจำ เช่น เบนจา อะปัญ ผู้ต้องหาคดีทางการเมือง ออกมาโพสต์ว่า "ในคุกเราไม่มีวันรอดพ้นจากการถูกมอนิเตอร์ได้ ไม่มีความเป็นส่วนตัว ไม่มีทางที่จะไม่มีกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในห้องขัง" หรือ เอกชัย หงส์กังวาน ที่ระบุว่า "ปกติห้องขังทุกห้องมีกล้อง CCTV โดยทุกห้องขังจะเปิดไฟตลอดคืน ถ่ายความเป็นอยู่ผู้ต้องขังตลอดเวลาแบบ Academy Fantasia ที่กรมราชทัณฑ์อ้างกล้อง CCTV ถ่ายแค่หน้าห้องขัง ไม่ถ่ายเข้าในห้องขัง ถือเป็นเรื่องผิดปกติ"
ผบ.เรือนจำ ระบุว่า การแยกขังเดี่ยว อดีต ผกก.โจ้ เป็นการกระทำตามความสมัครใจ ที่ได้ทำเรื่องขอไปยังกรมราชทัณฑ์เป็นเวลา 2 เดือนหลังมีปากเสียงกับเพื่อนร่วมห้อง
ขัดแย้งต่อความเข้าใจของญาติ คือน้องสาวและภรรยา ที่เพิ่งเข้าเยี่ยมในช่วงเช้าวันที่เสียชีวิต (7 มี.ค.) ยืนยันว่า การถูกแยกขังเดี่ยวเป็นการถูกทำโทษจากการมีปัญหากับผู้คุม และทางทนายความก็ยืนยันว่าผู้ตายไม่สมัครใจขังเดี่ยว ไม่เคยเห็นเอกสารลงชื่อยินยอมของผู้ตาย
ครอบครัวได้แจ้งความต่อ สน.ประชาชื่นว่า ผู้ตายถูกทำร้ายร่างกาย กลั่นแกล้งจากผู้คุมและนักโทษกลุ่มหนึ่ง ซึ่งกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนผู้คุมที่ถูกกล่าวหาแล้ว เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวปฏิเสธ แต่มีเอกสารที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีใบรับรองแพทย์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2568 กดเจ็บชายโครงซ้ายถูกกระแทกด้วยของแข็ง มีแผลฟกช้ำใต้ราวนมซ้าย และไม่มีกระดูกหัก
ในวันเสียชีวิต เป็นวันเดียวกับที่ญาติได้เข้าเยี่ยมในช่วงเช้า โดยยืนยันว่า ผกก.โจ้บอกว่าช่วงบ่ายตนจะต้องเข้าสอบกรณีกระด้างกระเดื่องกับเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ และได้ยืนยันกับญาติว่าจะขอต่อสู้คดีถูกทำร้ายร่างกาย จะให้ตำรวจเข้ามาทำการสอบสวนให้ได้ เราไม่ทราบว่าหลังพบญาติ ผกก.โจ้ไปเจออะไรมาบ้างก่อนกลับเข้าห้องขัง
แม่ของ ผกก.โจ้ ได้ยื่นเอกสารขอความเป็นธรรม ระบุว่า นายธิติสรรค์เกิดความขัดแย้งกับผู้คุมและนักโทษกลุ่มหนึ่งจากเรื่องกลิ่นบุหรี่ ทำให้ถูกกลั่นแกล้งยึดพัดลม-แว่นตา ที่ต้องใช้เพราะโรคหัวใจเต้นผิดปกติกำเริบอยู่ในอากาศร้อนมากไม่ได้ และมีปัญหาม่านตาออกสู้แสงแดดไม่ได้ ทำเอกสารคดีเปียกน้ำ และเรียกไปด่าทอ