ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดใจเกือบใส่หัวใจหมู หลังผ่าตัดลิ้นหัวใจรั่วระยะสุดท้าย

ทำเอาแฟนๆ เป็นห่วงอยู่ไม่น้อย สำหรับกรณีช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ได้เข้ารับการผ่าตัดลิ้นหัวใจรั่วระยะสุดท้าย คุณหมอทำการผ่าตัดกว่า 6 ชั่วโมงกว่า ซึ่งทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หนุ่มฟิล์มแข็งแรงและปลอดภัยดี ท่ามกลางแฟนๆ ที่คอมเมนต์โล่งใจกันจำนวนมาก

และหลังจากพักรักษาตัวที่บ้าน จนร่างกายแข็งแรงแบบ 100% ล่าสุด ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกผ่านทางรายการ "แฉ" เพื่อแชร์ประสบการณ์การรักษาโรคลิ้นหัวใจรั่วระยะสุดท้าย พร้อมเผยสาเหตุที่เกิดโรคดังกล่าวไว้ว่า 

"ตอนนั้นที่ผมรู้ว่าเป็นหัวใจรั่วระยะสุดท้าย ผมก็ตกใจครับ เพราะเราตรวจเช็กร่างกายทุกปี แต่หมอตรวจพบความผิดปกติ ขอเช็กและพบว่าหัวใจรั่วขั้นสุดท้าย สำหรับคนที่เป็นจะมีอาการเหนื่อย หอบ นอนไม่หลับ มือเท้าบวม และจะไม่สามารถเดินไปปกติ"

"แต่ผมไม่มีอาการ เป็นเคสโชคร้ายที่ไม่แสดงอาการอะไรเลย คือผมยังสามารถปั่นจักรยานได้ 20 กิโลสบายๆ ทำอะไรได้ปกติ แต่มันเป็นเรื่องที่ไม่ดี ที่เราเห็นข่าวว่ามีคนเป็นลม คนร่วงไปเลย นั่นแหละคือไม่ออกอาการ ตอนนั้นก็ห้ามออกกำลังกาย"

"ผมกว่าจะได้คิวก็ต้องรอประมาณ 2 ปี เพราะคุณหมออยากให้ร่างกายแสดงอาการออกมาก่อน แต่มันก็ไม่แสดง แล้วไปตรวจอีกครั้งก็พบว่าหัวใจมันเริ่มโตผิดปกติ เดี๋ยวน้ำจะท่วมปอด และซ่อมยาก ก็เลยต้องแทรกคิวและต้องผ่าตัดด่วน คือวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• ฟิล์ม รัฐภูมิ เผยมุมมองชีวิต หลังต้องเผชิญกับโรคลิ้นหัวใจรั่วระยะสุดท้าย

• ฟิล์ม รัฐภูมิ เตรียมผ่าตัดใหญ่ รักษาลิ้นหัวใจรั่วระยะสุดท้าย 9 ส.ค. นี้

"แม้หัวใจจะบวมขึ้นมาเยอะมาก แต่มันก็ไม่แสดงอาการอะไรเลย คุณหมอก็เลยไม่รอ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาก็มีความเสี่ยงตลอด ผมจึงไม่ไปออกกำลังกายเลย ตอนแรกต้องบินไปเมืองนอก ค่าผ่าตัด 10 ล้านเตรียมไปผ่าตัดที่อเมริกา แต่ว่ามันไม่ไหว ราคาสูง ซึ่งผมไม่ได้ทำประกันสุขภาพไว้"

"ก่อนผ่าตัดผมกังวลมาก เพราะหมอบอกว่าอาจจะเป็นไปได้ไม่สำเร็จ 100% ขอรายงานเคส 2 เคส 3 ไว้ก่อน เคสแรกคือเข้าไปซ่อมผ่าตัดแผลเล็กที่ราวนมข้างขวา 3 ชั่วโมงก็เสร็จ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมา อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นเป็น 6 ชั่วโมง"

"และเขาให้ผมเลือกว่า จะเอาหัวใจเทียม หรือหัวใจหมู ถ้ามันซ่อมไม่ได้ เขาก็จะเปลี่ยนหัวใจเทียมหรือหัวใจจากสัตว์ ซึ่งผมก็ตกใจว่าจะต้องเลือกแบบนั้นเลยเหรอ ก็เลยยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ แต่เราก็มั่นใจในทีมแพทย์ ซึ่งผมก็เลือกหัวใจหมูไป เพราะจะได้ไม่ต้องกินยาละลายลิ่มเลือดตลอดชีวิต แต่ว่าจะต้องผ่าตัดทุกๆ 10 ปี"

"แต่มันมีความปลอดภัยมากกว่าหัวใจเทียม ผมก็เลยเลือกหัวใจหมู โดยเคส 3 ถ้าทำอะไรไม่ได้ ต้องผ่าอก แหวกกระดูก เลื่อยซี่โครง ผมก็ยิ่งกลัว ภาวนาอย่าให้ตัวเองได้เจอแบบนั้นเลย และผมลุ้นมากว่าผมจะได้อะไร ผมก็ลุ้นมากว่าผมจะได้อะไร เพราะหมอบอกว่าผมไม่สามารถปลุกคุณขึ้นมาถามได้นะ"

"หลังจากเข้าห้องผ่าตัด พี่ๆ น่ารักชวนคุยสักพัก ผมก็หลับไปเลย แล้วก็ตื่นมาอีกทีเจอเหล็กและจอทีวีเป็น 10 ตัว นึกว่าผมอยู่ในยานอะไรสักอย่าง ตอนนั้นผ่าตัดเสร็จแล้ว พอเริ่มมีสติก็รู้ว่าตัวเองผ่าตัดหัวใจ และเอามือจับหน้าอกทันที แล้วบอกตัวเองว่า รอดแล้ว ไม่โดนผ่าใหญ่ แล้วผมก็สลบไปอีกรอบ"

"และหลังจากที่ผ่าตัดมา 3 สัปดาห์ รู้สึกว่าผมแข็งแรงมากขึ้น และหน้าผมสดใสมาก ผมหน้าเด้งมากขึ้น ผมผอมลงไปมาก เลยทำให้รู้ว่าก่อนหน้านี้ผมป่วยจริงๆ ก่อนหน้านี้ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองจะดัง ฟู่ๆ ตลอด เสียงนั้นมันหลอนประสาทผมมาก แต่ตอนนี้มันดังตึ๊กๆ รู้สึกมีพลัง"

"หลังจากผ่าตัดเสร็จ ผมขับรถไปหาแม่ด้วยตัวเอง ทั้งๆ ที่คนผ่าตัดหัวใจต้องพักฟื้น 1 เดือน แต่ตอนนั้นมีผู้จัดการขับตามมาด้วย พอไปถึงบ้าน แม่เห็นผมแล้วร้องไห้ ตอนนั้นทำให้ผมรู้ว่าเงินทองซื้อไม่ได้ ชีวิตมนุษย์มีแค่นี้จริงๆ ผมมีความสุขมากที่ผมหาย ขอบคุณทีมแพทย์และทุกๆคนที่ให้กำลังใจ"

"ส่วนสาเหตุที่หัวใจรั่วนั้น คุณหมอบอกว่าร่างกายผมบกพร่องเอง ไม่ได้เกี่ยวกับกรรมพันธุ์ บกพร่องแบบไม่มีสาเหตุ เนื้อเยื่อยุ่ยไปเอง ซึ่งผมไม่ได้ใช้ชีวิตหนัก แต่ทำงานเครียดและพักผ่อนน้อย ร่างกายอ่อนแอก็เลยทำให้ร่างกายบกพร่อง"