ไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ แฉ ปมโกงกู้เงินซื้อบ้านพักทหาร ที่นำไปสู่เหตุการณ์กราดยิงโคราช เมื่อ 2 ปีที่แล้ว พร้อมตั้งคำถามกับกองทัพ ทำไมผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้เลื่อนยศ ล่าสุด กมธ. เตรียมเรียก ผบ.ทบ. และเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก เข้าชี้แจง
จากกรณีกราดยิงโคราช เมื่อ 2 ปีที่แล้ว นำไปสู่การเปิดประเด็นการคอร์รัปชั่นในโครงการกู้เงินซื้อบ้านพักทหาร จนมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พร้อมทั้งลงโทษ งดบำเหน็จ และปลดผู้กระทำความผิดออกจากตำแหน่งไปแล้ว
แต่ล่าสุด ไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ ได้ออกมาเปิดประเด็นจนทำให้กองทัพต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง ! โดยได้ระบุว่า ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องบางราย ได้รับการเลื่อนยศและตำแหน่ง อีกทั้งกองทัพบกเคยระบุว่าได้ระงับโครงการดังกล่าวไปแล้วตั้งแต่ปี 2564 แต่ในปี 2565 ยังมีการเรียกรับเงิน 5% เพราะฉะนั้นเรื่องนี้กองทัพต้องมีตอบ !
ทนายไพศาลพาผู้ประกอบการ บุกกลาโหม
โดยในวันนี้ ทนายไพศาลได้นำ 3 ผู้ประกอบการ ที่ได้รับความเสียหายจากโครงการกู้ซื้อบ้านสวัสดิการ "กองทัพบก" มายื่นหนังสือต่อกระทรวงกลาโหม ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลกองทัพบก ทนายไพศาลได้กล่าวว่า “ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยพูดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของผู้ประกอบการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งเป็นระดับนายทหาร แต่กองทัพบกแถลงว่ามีความเกี่ยวข้องกัน ก็ถือเป็นเรื่องดี เรื่องนี้เป็นประเด็นสังคม จึงต้องถามกลับไปที่กองทัพบก แม้จะระบุว่าเป็นเรื่องของส่วนบุคคลและอยู่ในขั้นตอนของศาล แต่ความเสียหาย 5 % กับจำนวนกำลังพลหลายร้อยนาย มูลค่าความเสียหาย 30-40 ล้านบาท จะรับผิดชอบอย่างไร
“ตนอยากรู้ว่าเรื่องต่างๆ เหล่านี้ เมื่อเกิดขึ้นใครจะเป็นผู้เยียวยาผู้ประกอบการและกำลังพลที่ได้รับผลกระทบ กองทัพบกก็ให้ความชัดเจนไม่ได้ จึงต้องมาที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นหน่วยเหนือที่กำกับดูแล กองทัพบกโดยตรง หากยังติดใจสงสัยอะไร หรือยังไม่มีหลักฐาน ตนจะนำไปให้”
บทความที่น่าสนใจ
ทบ.ยันไม่มี "ปืนเถื่อน" ในกองทัพ หากพบโดนโทษหนัก สั่งเข้มงวดการใช้งาน
ทักษิณ เย้ยบิ๊กตู่ ! ถ้าแก้ยาเสพติดไม่ไหว ยินดีช่วย เอาอยู่ภายใน 6 เดือน
ไม่อยากให้เกิดเหตุกราดยิงโคราช ซ้ำรอย
ทนายไพศาล กล่าวต่อว่า “ที่ออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะกลัวว่ามันจะเกิดเหตุแบบที่โคราชอีก เพราะมันมีจุดเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่การลงโทษข้าราชการที่เกี่ยวข้องมีแค่งดบำเหน็จ เอาออกจากตำแหน่งแค่นั้นเองหรือ ซึ่งกองทัพบกบอกว่าลงโทษตั้งแต่ปี 2563 แต่ปัจจุบัน แต่ละคนได้ยศ ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น บางคนได้ขยับเป็นนายพล บางคนเกษียณไปแล้ว และบางคนลาออก ตนมีรายชื่อทหารที่เกี่ยวข้อง ที่มีจุดเชื่อมโยงเส้นทางทางการเงินชัดเจน อยากถามเช่นกันว่า บุคคลเหล่านี้ทำไมถึงยังได้เลื่อนยศและตำแหน่ง และตนจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป”
“ส่วนที่กองทัพบกยืนยันว่า ไม่มีการหัก 5 % ในการกู้ยืมเงินสวัสดิการกองทัพบกนั้น ตนจะนำผู้เสียหายทั้งหมดไปแจ้งความ ถือเป็นการเรียกรับสินบนในขณะดำรงตำแหน่งหน้าที่ราชการ เพราะฉะนั้นหน่วยงานต้องรับผิดชอบ กองทัพบกต้องไปเยียวยาทั้งผู้ประกอบการและกำลังพลชั้นผู้น้อยประมาณร้อยกว่าราย”
ทนายไพศาล กล่าวต่อไปว่า ได้รับการร้องเรียนจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นทหารที่กู้ซื้อบ้านตามโครงการสวัสดิการของกองทัพบก โดยรายหนึ่งพบว่าซื้อบ้านที่โคราช ผ่อนมา 10 ปี แต่ปรากฏว่าเพิ่งทราบเป็นที่ สปก. ซึ่งกองทัพบกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบตั้งแต่ต้นปี จนมาถึงขนาดนี้ยังไม่มีความคืบหน้า อีกกรณีหนึ่งที่ภาคใต้ ที่มีการกล่าวอ้างว่าโดนโกง หักค่าหัวคิวจำนวนมาก แต่ตัวการใหญ่ยังลอยนวล
กองทัพต้องรับผิดชอบ และผู้กระทำผิด ต้องได้รับโทษอย่างสาสม
หลังจากนั้น ทนายไพศาลได้นำ 3 ผู้ประกอบการไปให้สัมภาษณ์ในรายการคมชัดลึก ทางช่อง Nation TV 22 โดยผู้ประกอบทั้ง 3 ยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับปมทุจริตดังกล่าว แต่เป็นผู้เสียหายได้รับผลกระทบต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังถูกคุกคาม โดยทนายไพศาลได้กล่าวในรายการคมชัดลึกว่า “กองทัพต้องออกมารับผิดชอบ ข้อแรกก็คือความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับกำลังพล ที่เขาไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเงินเขาไปไหน เขากู้ล้านห้า แต่ได้เงินเก้าแสน ต้องผ่อนหนี้ทิพย์ ค่าธรรมเนียมกองทัพบก
“ส่วนที่ 2 ในกรณีผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหาย ที่กองทัพบกพูดเองว่าโครงการนี้ไม่มีค่าธรรมเนียม แสดงว่าเรื่องนี้มีการทุจริต
“เรื่องที่ 3 เราไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัว แต่เป็นการปกป้องสังคม ถ้าเกิดเหตุกราดยิงประชาชนขึ้นมาอีก จากแรงเครียดของกำลังพล คุณอย่าลืมนะ กำลังพลชั้นผู้น้อยเขาฝึกยุทธวิธีมา แล้วถ้าประชาชนต้องมารับผลกระทบ ใครจะรับผิดชอบ และอีก 48 นาย ตอบเรื่องเส้นทางทางการเงินหน่อย ถ้าบอกว่าไม่รู้ ผมมีหลักฐาน มาเอาหลักฐานที่ผมได้”
"กมธ.ทหาร" เตรียมเรียก "ผบ.ทบ.-เจ้ากรมสวัสดิการฯ" ชี้แจง ปมโกงกู้เงินซื้อบ้านพักทหาร
ส่วนความคืบหน้าล่าสุด จากกรณีที่ปมโกงกู้เงินซื้อบ้านพักทหาร กลายเป็นประเด็นขึ้นมาในวันนี้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงว่า
“ตนเสนอเรื่องให้ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธาน กมธ. ให้พิจารณาตรวจสอบกรณีที่พบว่ามีการเก็บค่าหัวคิวโครงการก่อสร้างบ้านสวัสดิการของกองทัพบก เพื่อตรวจสอบในรายละเอียดและข้อเท็จจริงว่า กองทัพดำเนินการแก้ไขปัญหาจริงหรือไม่
“โดยจะเชิญ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. และพล.ต.สัมพันธ์ ดำรงค์กุล เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก เข้าชี้แจง รวมถึงผู้รับเหมาและทนายที่ได้รับความเสียหาย
“เรื่องดังกล่าวแม้โฆษกกองทัพบกจะชี้แจงว่า ได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว แต่ กมธ. อยากทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นเคสเดียวกันหรือไม่ อีกทั้งเรื่องดังกล่าวอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของ กมธ.ที่จะตรวจสอบได้”
ปมทุจริตนี้เคยสร้างบาดแผลให้กับสังคมมาแล้ว จากกรณีกราดยิงโคราช แต่ผ่านมา 2 ปี เมื่อมีข้อร้องเรียกร้องถึงความไม่ชอบมาพากล กองทัพก็ต้องออกมาชี้แจง และหากมีการช่องโหว่ในการตรวจสอบและดำเนินการ กองทัพก็ต้องรับผิดชอบ อย่าปล่อยให้บทเรียนที่เจ็บปวดเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยสุดท้ายแล้วประชาชนต้องมาเป็นฝ่ายรับเคราะห์อยู่ร่ำไป
ที่มา
บุกร้อง "กลาโหม" ชดเชยค่าเสียหายบ้านสวัสดิการ ทบ.-เงินหักหัวคิว 5%
แฉ วงจรคอร์รัปชัน กู้เงินซื้อบ้านพักทหาร ?
"กมธ.ทหาร" เล็งเชิญ "ผบ.ทบ.-เจ้ากรมสวัสดิการฯ" แจงปมค่าหัวคิวบ้านพักทหาร