svasdssvasds

สธ. ชี้โควิด 19 อยู่ในช่วงขาขึ้น แบบ Small wave คาดยอดผู้ป่วยพีคสุดหลังปีใหม่

สธ. ชี้โควิด 19 อยู่ในช่วงขาขึ้น แบบ Small wave คาดยอดผู้ป่วยพีคสุดหลังปีใหม่

กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น เป็นการระบาดลักษณะ Small wave โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ปริมณฑล จังหวัดท่องเที่ยวภาคตะวันออก และภาคใต้ และจะขึ้นสูงสุดหลังปีใหม่หรือเดือนมกราคม

  วันนี้ (4 ธันวาคม 2565) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรค  โควิด 19 ของประเทศไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ช่วงขาขึ้นของการระบาดลักษณะ Small wave โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ปริมณฑล จังหวัดท่องเที่ยวภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ มีการจัดกิจกรรมคนรวมกลุ่มกันจำนวนมาก

 จึงแนะนำให้ประชาชนเร่งเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยข้อมูลการศึกษาวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นสายพันธุ์เดิมที่ใช้จริงในประเทศไทย (real world data) ในช่วงที่มีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่  ตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ International Journal of Infectious Diseases พบว่า

วัคซีนจะลดความรุนแรงและการเสียชีวิตลงร้อยละ 89 ในผู้ที่รับวัคซีน 3 เข็ม และกลุ่มที่ได้ 4 เข็ม ไม่พบภาวะรุนแรงหรือการเสียชีวิตเลย ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นยี่ห้อใดก็ตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• "หมอธีระ" ชี้ โควิด-19 แพร่เชื้อได้ทั้งที่ยังไม่มีอาการ แพร่ไว ป่วยนานขึ้น

• น่ากังวล! กรมควบคุมโรคเผย พบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 4,914 คน ดับ 74 ราย ในรอบ 7 วัน

"หมอยง" เผยสถานการณ์พีคที่ 2 ของปี ผู้ป่วยไม่เคยติดโควิด ติดเชื้อสูงขึ้น

 กระทรวงสาธารณสุขจึงแนะนำให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน 4 เข็ม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 เพื่อลดความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต ขณะนี้วัคซีนได้เตรียมพร้อมแล้วในทุกพื้นที่ รวมทั้งท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มีข้อสั่งการให้ทุกจังหวัดเปิดหน่วยบริการให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนโควิดได้ง่าย และรับบริการได้อย่างสะดวก แม้จะไม่ได้ลงทะเบียนนัดล่วงหน้า

 จึงขอเน้นย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด 19 อยู่ในช่วงขาขึ้น ประชาชนควรเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หลังจากเข็มสุดท้าย 4 เดือน อย่างไรก็ตามกรมควบคุมโรค อยู่ระหว่างการหารือกับคณะผู้เชี่ยวชาญถึงเรื่องประสิทธิผลของวัคซีนรุ่นใหม่ หรือวัคซีน 2 สายพันธุ์ ซึ่งหากพบว่าผลการศึกษาสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 อย่างชัดเจน ก็จะเร่งดำเนินการจัดหามาให้บริการประชาชนในปีหน้า” นายแพทย์ธเรศ กล่าว

 ด้านศาสตราจารย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสริมว่า การระบาดของโควิด 19 เป็นไปตามฤดูกาลในรอบของปี ในระลอกนี้การระบาดจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา และจะขึ้นสูงสุดหลังปีใหม่หรือเดือนมกราคม และจะไปเริ่มลดลงตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป จนเหลือน้อยมากในเดือนมีนาคม และจะไปขึ้นการระบาดรอบใหม่ของปีในฤดูฝนหรือเดือน มิถุนายน ถึงเดือนกันยายน เป็นไปตามฤดูกาลของโรคทางเดินหายใจ

 จึงมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นภูมิต้านทานให้สูงขึ้นในขณะนี้ แทนที่จะรอไปถึงเดือนมกราคม หรือกุมภาพันธ์ ซึ่งอยู่ในช่วงขาลง สำหรับวัคซีนในบ้านเรา ถึงแม้จะเป็นสายพันธุ์เดิม การกระตุ้นในระดับเซลล์ เพื่อลดความรุนแรงของโรค สามารถทำได้ดีมาก และเนื่องจากการลดความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับจำนวนเข็มที่ฉีด มากกว่าชนิดของวัคซีนที่ฉีด ดังนั้นขณะนี้อยู่ในขาขึ้นตามฤดูกาล จึงอยากให้ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างน้อย 4 เข็ม โดยเข้ารับการฉีดให้เร็วที่สุดไม่รอจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ หรือรอวัคซีนรุ่นใหม่

related