ย้อนดราม่าไทม์ไลน์ “เม พรีมายา” ลงทุนนิดเดียว 3 เดือนรวยพันล้าน จริงหรือ?

กลายเป็นกระแสร้อนแรงในสังคมอีกครั้ง กับ “เม พรีมายา” หรือ น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ ซีอีโอสาวเจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 41/2566 ลงวันที่ 17 ม.ค. ในฐานความผิด โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน 

ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้แบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา) เผชิญกับดราม่าที่ถูกโซเชียลตั้งคำถามและจับพิรุธหลายครั้ง ไม่ว่าจะเรื่องการมีตัวแทนโฆษณาชวนลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนเยอะ การใส่สารอันตรายลงในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก การใช้ชีวิตหรูหราไฮโซ วันนี้ สปริงนิวส์ จะพาไปย้อนดูตั้งแต่จุดเริ่มต้นของดราม่านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ตำรวจ รวบ นุ่มนิ่ม ลูกข่ายคนสนิท เม พรีมายา เคสลวง ลงทุน 6 พันบาท ได้กำไร 15 ล้าน

• เปิดใจ เม พรีมายา ยันไม่มีเจตนาหลอกลวง ที่ผ่านมาสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคม

ย้อนดราม่าไทม์ไลน์ “พรีมายา”

• ส.ค. 2565 “นิ่ม” สาวอวบผู้ใช้ผลิตภัณฑ์พรีมายา วัยรุ่นสร้างตัวถ่ายรูปคู่รถปอร์เช่หรู พร้อมแคปชั่นว่า “3 เดือนสร้างเงิน 15 ล้านบาท กำเงินก้อนสุดท้ายในชีวิต พลิกชีวิตจากการขายของออนไลน์จากการลงทุนแค่ 6,000 บาท ถ้าไม่มีพรีมายา เป็นขอทานแน่”
• โซเชียลกังขาขายอะไร ลงทุนแค่ 6,000 บาท แต่ได้กำไรสูงถึง 15 ล้านบาท ในเวลาเพียง 3 เดือน ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้
• “นิ่ม” สาวต้นเรื่อง ต้องออกมายืนยันอีกครั้งว่าเป็นเรื่องจริง จากกำไร 15 ล้านบาทเป็นยอดรวมทุกคนในทีม ซึ่งเธอมีลูกทีมถึง 600 คน 
• พรีมายา จดทะเบียนบริษัทปี 2560 มีกำไร 610.72 บาท ใช้เวลา 4 ปี มีกำไร 8,041,136.68 บาท 

- ปี 2560 รายได้ 748,021.00 บาท กำไร 610.72 บาท
- ปี 2561 รายได้ 1,920,822.47 บาท กำไร 450,683.04 บาท
- ปี 2562 รายได้ 8,649,550.78 บาท กำไร 472,200.38 บาท
- ปี 2563 รายได้ 21,962,998.24 บาท กำไร 1,343,321.39 บาท
- ปี 2564 รายได้ 33,632,860.48 บาท กำไร 8,041,136.68 บาท

• พ.ค. 2565 เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท พรีมายา ผ่านทางเฟซบุ๊ก พบว่า ผลิตภัณฑ์มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง และมีสารไซบูทรามีน ลงในผลิตภัณฑ์ (สำหรับผลิตภัณฑ์" ในล็อตที่ตำรวจตรวจพบสาร "ไซบูทรามีน" ซึ่งเป็นสารอันตรายถึงชีวิต และเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 1 มีลักษณะเป็นกล่องสีชมพูขาว บรรจุอาหารเสริมคล้ายแผงยารักษาโรคระบุเลขล็อตการผลิตที่ P.CSGPP-108) 
• เม ปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยอ้างว่าเป็นการว่าจ้างโรงงานแห่งหนึ่งทำการผลิต ไม่รู้ว่ามี "ไซบูทรามีน" และตอนนี้ได้เลิกจ้างโรงงานแห่งนั้นไปแล้ว โดยได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว
• 19 ม.ค. 2566 ยุทธการ “ผึ้งแตกรัง” ค้นบ้านและโรงงานตามหมายจับศาล ฐานนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมฯ ชวนลงทุน และอาจเข้าข่ายฉ้อโกง
• เม มอบตัว ยืนยัน ลงทุน 6,000 บาท ได้เงิน 15 ล้านบาท ไม่ใช่โฆษณาคำชวนเชื่อ ไม่คิดหลอกลวงประชาชน โดยธุรกิจของตัวเองไม่ได้สร้างเรื่องหลอกหรือชวนเชื่อแต่อย่างใด ซึ่งเชื่อว่า วันนึงทุกอย่างจะปรากฎขึ้นเอง

ขณะที่ “นิ่ม” เครือข่ายรายใหญ่และคนสำคัญทางภาคใต้มีส่วนร่วมในการสร้างเรื่องหรือไม่ ยืนยันว่า ทุกอย่างมีมูลความจริง เม ยังยืนยันทำงาน 7 ปี สร้างแต่สิ่งดีๆให้คนรอบข้างและสังคม 

• ค่ำวันเดียวกัน น้องสาวเม ถูกรวบตามหมายจับขณะเตรียมขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิเพื่อไปเกาหลีใต้
• คดีนี้ถูกออกหมายจับทั้งสิ้น 11 หมาย 
• ตร.เผยจับกุมได้แล้ว 4 คน หนึ่งในนี้มี “หน้าม้า” ต้นโพสต์ ชวนคนมาลงทุนจนทำให้พรีมายาโด่งดัง 
• ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เส้นทางการเงินของพรีมายา เชื่อมโยงกับดารานักแสดงกลุ่มนึง ตำรวจไซเบอร์ก็ขอดูพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อน
• แต่ภาพที่เห็นบ่อยๆคือ เม CEO มักโชว์กองเงินสดจำนวนมาก ซื้อเพนต์เฮาส์ 100 ล้าน ใจกลางเมือง จนทำให้คนเชื่อว่า ธุรกิจนี้สร้างตัวได้เป็นกอบเป็นกำ
• หลายคนเริ่มตั้งคำถามเงินสดมากมายที่ เม นำมาโพสต์โชว์ที่บ้าน เกี่ยวข้องกับธุรกิจอย่างอื่นหรือไม่ เพราะลักษณะการโชว์หรู คล้ายกับบางคดีก่อนหน้านี้

ถ้าหากลองคิดตามความเป็นจริง ไม่มีการลงทุนใดในโลกที่สามารถการันตีผลตอบแทนที่มหาศาลได้ แต่ด้วยเทคนิคและกลวิธีที่แยบยล การหลอกลวงโดยใช้ความร่ำรวยโอ้อวด ยิ่งถ้าหากเป็นเพื่อนฝูง คนมีชื่อเสียงมาชักชวน ความเชื่อใจก็ยิ่งมีสูง ทำให้โดนหลอกลวงได้ง่าย หลายครั้งการชักชวนเหล่านี้อาจจบลงด้วยการขายตรง หรือแชร์ลูกโซ่ และส่งผลให้บางคนหลงเชื่อลงทุนถึงขั้นหมดตัว

ขณะเดียวกันสิ่งที่น่าสนใจในกรณีนี้ คือ เงินมากมายจากการใช้ชีวิตหรูหรา หลังจากเปิดบริษัท PRIMAYA (พรีมายา) มาได้ 4-5 ปี มีกำไรราว 8 ล้านบาท แต่ลูกทีมกลับได้กำไร 15 ล้านบาทในเวลาเพียง 3 เดือน รวมถึงเจ้าของแบรนด์ที่ใช้ชีวิตหรูหรา กิน เที่ยว ใช้ของแบรนด์เนม สุดท้ายแล้วแม้จะถูกจับกุม แต่ลูกทีมที่ยังเชื่อ ก็ยังคงให้กำลังใจและเฝ้ารอด้วยความหวัง ไม่ต่างอะไรกับธุรกิจอื่นๆในลักษณะเดียวกัน ซึ่งยังต้องดูต่อไปว่าจะมีจุดจบแบบเดียวกันหรือไม่