SHORT CUT
เจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานหลายชิ้น หนึ่งในนั้นคือปลอกกระสุนที่มีข้อความว่า ‘depose’ และ ‘delay’ ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ที่บริษัทประกันมักใช้เป็นข้ออ้างเพื่อไม่ให้ต้องเคลมประกันว่า ‘ปฏิเสธ, ขับไล่ และถ่วงเวลา (deny, depose and delay)’ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวเป็นแรงจูงใจในการก่อเหตุ
ค่าบริการสุขภาพในอเมริกานับว่าแพงมาก และเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้ชาวอเมริกันหลายคนตกอยู่ในภาวะล้มละลาย
ไม่มีตัวเลขที่แน่นอนว่ายูไนเต็ดเฮลท์แคร์มีอัตราการปฏิเสธเคลมประกันคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ข้อมูลจาก KFF ระบุว่า ในปี 2563 ผู้ที่ทำประกันภายใต้นโยบายโอบามาแคร์ (Obamacare) ถูกปฏิเสธการเคลมสูงถึง 17% และสูงขึ้นหากเป็นผู้ทำประกันส่วนตัว
วันที่ 9 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยชื่อ แจ้งความ ลุยจิ นิโคลาส เเมนจิโอนี ชายวัย 26 ปี และแจ้งความในข้อหา ฆาตรกรรม, ครอบครองอาวุธปืน และปลอมแปลงเอกสารราชการ
หนึ่งในคดีใหญ่ที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้นคดียิง ไบรอัน ทอมป์สัน (Brian Thompson) ซีอีโอของบริษัทยูไนเต็ดเฮลท์แคร์ (UnitedHealthCare) หนึ่งในบริษัทประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกากลางเมืองนิวยอร์ก
ไม่ใช่เพียงแค่คดีนี้เป็นการฆาตกรรมผู้บริหารระดับสูงอย่างอุกอาจกลางเมืองนิวยอร์กเท่านั้น แต่จากหลักฐานที่พบ คดีนี้อาจยังเกี่ยวข้องกับเหตุจูงใจที่มากกว่าแค่ความแค้นส่วนตัว เกิดอะไรขึ้นในคดีนี้บ้าง ทำไมสื่อใหญ่ทุกสำนักถึงติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด SPRiNG สรุปมาให้อ่านกัน
1. เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 ธ.ค. เวลาประมาณ 6.45 น. ทอมป์สันเดินออกมาจากโรงแรมแห่งหนึ่ง เตรียมเข้าร่วมวงสัมมนาด้านการลงทุนของบริษัท แต่ทันใดนั้น เขาก็ถูกผู้ต้องหาที่ปกปิดใบหน้าด้วยผ้าและฮูดสีเข้มยิงเข้าที่ด้านหลัง ทอมป์สันทรุดตัวกับกำแพง ก่อนหันไปมองมือปืนที่กำลังเดินมาที่ร่างของเขา แล้วทำท่าเหมือนยิงซ้ำ ก่อนหลบหนีหายไปด้วยจักรยานไฟฟ้าทางสวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์ค
เหตุฆาตกรรมดังกล่าวกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ชั้นนำทั่วโลก เพราะนอกจากจะเกิดขึ้นอย่างอุกอาจกลางเมืองนิวยอร์ก แรงจูงใจในการก่อคดีอาจมีมากกว่าแค่ความแค้นส่วนตัว
2. เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวพบหลักฐานหลายชิ้นที่ผู้ต้องสงสัยทำตกระหว่างหลบหนี เช่น ขวดน้ำที่มีลายนิ้วมือเลือนราง พาวเวอร์บาร์ โทรศัพท์มือถือ แต่ที่ดูจะสำคัญที่สุดคือ ปลอกกระสุนที่ถูกยิงออกไปมีข้อความว่า ‘depose’ และที่ยังไม่ยิงออกไปมีคำว่า ‘delay’
ข้อความดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อมโยงเหตุจูงใจกับกลยุทธ์ที่บริษัทประกันมักใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อไม่ให้ต้องเคลมประกันว่า ‘ปฏิเสธ, ขับไล่ และถ่วงเวลา (deny, depose and delay)’ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวเป็นแรงจูงใจในการก่อเหตุ
3. ขณะที่ในโลก X ภายหลังที่มีการรายงานเหตุฆาตกรรมดังกล่าว ผู้ใช้หลายรายกลับมีท่าทีต่างออกไป พวกเขาออกมาแชร์ประสบการณ์การถูกบริษัทยูไนเต็ด เฮลท์แคร์ และบริษัทประกันภัยอื่นๆ ปฏิเสธการเคลมประกัน ทั้งนี้ ค่าบริการสุขภาพในอเมริกานับว่าแพงมาก และเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้ชาวอเมริกันหลายคนตกอยู่ในภาวะล้มละลาย
ถึงแม้ ไม่มีตัวเลขที่แน่นอนว่ายูไนเต็ดเฮลท์แคร์มีอัตราการปฏิเสธเคลมประกันคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ข้อมูลหน่วยงานที่ติดตามด้านนโยบายสาธารณสุขอย่าง KFF ระบุว่า ในปี 2563 ผู้ที่ทำประกันภายใต้นโยบายโอบามาแคร์ (Obamacare) จะถูกปฏิเสธการเคลมสูงถึง 17%
ขณะที่ผลสำรวจฉบับอื่นของ KFF ระบุว่าผู้ที่ทำประกันส่วนตัว มีแนวโน้มถูกปฏิเสธการเคลมประกันสูงขึ้นไปอีก
4. ใครคือ ไบรอัน ทอมป์สัน? ทอมป์สันเรียนจบทางด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยไอโอวา เขาเคยเป็นผู้จัดการของบริษัท PwC อยู่หลายปี ก่อนที่จะเข้ามาทำงานกับยูไนเต็ดเฮลท์แคร์ กรุ๊ป ในปี 2547 เขาเคยได้รับหน้าที่ดูแลนโยบายเมดิแคร์และบริการเพื่อผู้เกษียณอายุ ก่อนเข้ารับตำแหน่งซีอีโอของบริษัท ในเดือนเมษายนปี 2563
5. สำหรับบริษัทยูไนเต็ดเฮลท์แคร์ นับเป็นยักษ์ใหญ่แห่งวงการประกันภัยของสหรัฐฯ บริษัทให้บริการด้านประกันกลุ่มแก่บริษัทและบุคคล จ้างงานมากกว่า 140,000 ตำแหน่ง และมีรายได้มากถึง 281 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 13%
เรียกได้ว่าภายใต้การบริหารของทอมป์สัน ยูไนเต็ดเฮลท์แคร์เติบโตขึ้นอย่างมหาศาล แต่ในทางกลับกัน ผลกำไรหลักของบริษัทประกันภัยก็มาจากเงินของสมาชิก และลูกค้าที่ไม่ได้รับเงินเคลม
6. อย่างไรก็ตาม ภายใต้การกุมบังเหียนของทอมป์สัน ยูไนเต็ดเฮลท์แคร์ก็เต็มไปด้วยข้อครหาและคดีความเช่นกัน โดยบริษัทถูกกระทรวงยุติธรรมสอบสวนจากกรณีกว้านซื้อบริษัทประกันภัยขนาดกลางและเล็กในตลาด จนทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าพยายามผูกขาดตลาด ซึ่งอาจส่งผลต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ทำประกันภัยกับบริษัท
และมีกรณีที่ทอมป์สันถูกฟ้องในข้อหาฉ้อโกงและซื้อขายหุ้นโดยใช้ข้อมูลวงใน โดยมีกองทุนบำเหน็จบำนาญของนักดับเพลิงฮอลลีวูดเป็นผู้ยื่นฟ้อง โดยกล่าวหาว่าเขาและผู้บริหารระดับสูงวางแผนเพิ่มมูลค่าบริษัท โดยไม่เปิดเผยข้อมูลว่าบริษัทกำลังถูกกระทรวงยุติธรรมตรวจสอบอยู่
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าทอมป์สันขายหุ้นของบริษัทมูลค่า 15 ล้านดอลลาร์ ทันทีที่รู้ว่าบริษัทกำลังถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานยุติธรรม
7. สำหรับคดีความ ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ได้เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด และตั้งรางวัล 10,000 ดอลลาร์สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพนักงานแมคโดนัลด์ในเมืองเพนซิลเวเนีย ที่จำหน้าของผู้ต้องสงสัยได้จากรายงานข่าว จึงนำไปสู่การจับกุม ลุยจิ นิโคลาส เเมนจิโอนี ชายวัย 26 ปี พร้อมกับบัตรประชาชนปลอม และอาวุธปืนที่ทำจากเครื่องปริ๊นท์ 3D
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ ได้แจ้งความลุยจิในข้อหา ฆาตรกรรม, ครอบครองอาวุธปืน และปลอมแปลงเอกสารราชการ
8. การเสียชีวิตของทอมป์สันได้จุดประเด็นเรื่องความปลอดภัยของผู้บริหารภาคธุรกิจ ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ โดยเฉพาะในตอนที่เขาถูกยิง ไม่มีบอร์ดดี้การ์ดอยู่รอบตัวเขาสักคน ขณะที่ มีรายงานว่า บริษัทเทคโนโลยีขนาดยักษ์ เช่น Meta ยอมจ่ายเงินมูลค่า 24 ล้านดอลลาร์/ ปี เพื่อจ้างมือดีมาคุ้มกันเหล่าผู้บริหาร
ถึงแม้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุ แต่คดีนี้ก็นับสั่นสะเทือนโลกธุรกิจทั้งหมด และอาจรวมไปถึงสะท้อนภาพความเหลื่อมล้ำของสังคมอเมริกัน และระบบทุนนิยมที่ฉีกคนต่างชนชั้นให้แยกออกจากกันมากขึ้นทุกที