"ศาลรัฐธรรมนูญ" มีมติ 7: 2 คำสั่งให้ 'แพทองธาร' หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี หลังศาล 9 : 0 รับคำร้องถอดถอนปมคลิปเสียงคุย "ฮุน เซน" ที่ถูกตั้งข้อสงสัยอาจส่งผลต่อความมั่นคงชาติ และจริยธรรมของนายก
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9 ต่อ 0 ให้รับคำร้องและมีมติ 7 ต่อ 2 ให้นายกฯ หยุดปฎิบัติหน้าที่ หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมเมื่อเวลา 09.00 น. พิจารณารับหรือไม่รับคำร้องถอดถอน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ศาลสั่งให้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยสิ้นสุด ขณะที่รัฐบาลอยู่ระหว่างเตรียมกระบวนการมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนในช่วงที่ตำแหน่งว่างลงตามกฎหมาย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2568 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ประกาศลงชื่อยื่นถอดถอน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5) และไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
กรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เกี่ยวกับความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทยกับกัมพูชา รวมทั้งจะมีการยื่นเอาผิดกับ น.ส.แพทองธาร ต่อองค์กรต่างๆ ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ต่อมาในวันที่ 20 มิ.ย.2568 นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ลงนามในหนังสือและยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 86 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรี ของ น.ส.แพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่