svasdssvasds

Crack! พ.ร.บ.แข่งขันการค้าใหม่ เพิ่มอำนาจรัฐ ปราบธุรกิจผูกขาด

Crack! พ.ร.บ.แข่งขันการค้าใหม่ เพิ่มอำนาจรัฐ ปราบธุรกิจผูกขาด

ส่องสาระสำคัญ พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ฉบับใหม่ อุดช่องโหว่กฎหมายเดิม ให้ กขค. มีอำนาจเต็ม เปลี่ยนโทษอาญาเป็นค่าปรับ และปราบปรามการฮั้ว

SHORT CUT

  • พ.ร.บ. ฉบับใหม่ อุดช่องโหว่การเกี่ยงอำนาจ ระหว่างหน่วยงานกำกับดูแล โดยกำหนดให้ กขค. เป็นผู้มีอำนาจหนึ่งเดียวในประเด็นการแข่งขัน
  • ขยาย นิยาม "ผู้มีอำนาจเหนือตลาด" ให้ครอบคลุมธุรกิจที่สร้างผลกระทบต่อผู้บริโภคได้จริง แม้ส่วนแบ่งตลาดไม่ถึง 50% ก็ตาม
  • เพิ่มเครื่องมือปราบฮั้วอย่าง "Leniency Program" ที่เปิดให้ผู้กระทำผิดมาให้ข้อมูลแลกกับการลดโทษ เพื่อทำลายการสมคบคิดจากภายใน

ส่องสาระสำคัญ พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ฉบับใหม่ อุดช่องโหว่กฎหมายเดิม ให้ กขค. มีอำนาจเต็ม เปลี่ยนโทษอาญาเป็นค่าปรับ และปราบปรามการฮั้ว

"Crack" พ.ร.บ. การแข่งขันทางการค้าฉบับใหม่ – กฎหมายเศรษฐกิจที่นักธุรกิจและประชาชนควรรู้!

 

พ.ร.บ. การแข่งขันทางการค้า อาจฟังดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่แท้จริงแล้วมันคือ "รัฐธรรมนูญภาคเศรษฐกิจ" ที่กำหนดกติกาการอยู่ร่วมกันของธุรกิจทุกขนาดในประเทศ

การแก้ไขกฎหมายครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นเพื่อ พัฒนากลไกควบคุมการผูกขาดและการแข่งขันทางการค้าของไทยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างระบบเศรษฐกิจที่ทุกฝ่ายแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม สำหรับประชาชนทั่วไปและนักธุรกิจ

นี่คือสาระสำคัญที่ถูก "Crack" ออกมาเพื่อให้เข้าใจง่ายว่ากฎหมายฉบับใหม่นี้ดีขึ้นอย่างไร และส่งผลกระทบต่อเราอย่างไรบ้าง

 

ทำไมต้องแก้? ปัญหาของกฎหมายเดิมที่ทำให้รายใหญ่ “รอดเสมอ”

นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญยกร่างกฎหมายฉบับนี้ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทีม SPRiNG ชี้ให้เห็นว่า พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 ฉบับเดิมมีบทบัญญัติหลายอย่างที่ ขาดสภาพบังคับ ทำให้การลดการผูกขาดไม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปัญหาหลัก ๆ คือ

Crack! พ.ร.บ.แข่งขันการค้าใหม่ เพิ่มอำนาจรัฐ ปราบธุรกิจผูกขาด

1. การโยนอำนาจ (Passing the Buck)

กฎหมายเดิมมีความคลุมเครือเรื่องขอบเขตการบังคับใช้ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีกฎหมายเฉพาะกำกับดูแล ทำให้หน่วยงานกำกับดูแล (เช่น กสทช., กกพ., กลต., หรือธนาคารแห่งประเทศไทย) และคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ต่างเกี่ยงกัน ว่าใครมีอำนาจห้ามการควบรวมหรือจัดการประเด็นการแข่งขันกันแน่ ซึ่งส่งผลให้การบังคับใช้กฎหมายขาดประสิทธิภาพ

2. นิยามผู้มีอำนาจเหนือตลาดที่แคบเกินไป

การพิจารณา "ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด" มักยึดติดกับส่วนแบ่งตลาดที่สูง (เช่น 50% ขึ้นไป) ทำให้ธุรกิจขนาดใหญ่จำนวนมากที่สร้างผลกระทบต่อผู้บริโภคสามารถ หลุดรอด จากการกำกับดูแลไปได้

 

3. โทษทางอาญาที่บังคับใช้ไม่ได้จริง

กฎหมายเดิมใช้โทษทางอาญา (จำคุก) สำหรับความผิดเกี่ยวกับการแข่งขันทางการค้า แต่การใช้โทษอาญาต้องพิสูจน์จน "สิ้นสงสัย" ทำให้การบังคับใช้กฎหมายจริง ๆ นั้นยากมาก และที่ผ่านมาก็ บังคับใช้กับใครได้น้อยมาก

Crack! พ.ร.บ.แข่งขันการค้าใหม่ เพิ่มอำนาจรัฐ ปราบธุรกิจผูกขาด

 

5 สาระสำคัญของการแก้ไข กติกาใหม่ที่เข้มแข็งและใกล้ตัวกว่าเดิม

1. กขค. มีอำนาจเต็ม ไม่มีการเกี่ยงอำนาจอีกต่อไป

กฎหมายใหม่ยกเลิกบทบัญญัติที่ยกเว้นไม่ให้นำกฎหมายนี้มาใช้บังคับ โดยให้ความชัดเจนว่า แม้ธุรกิจจะมีกฎหมายเฉพาะกำกับดูแลอยู่แล้ว แต่หากมีประเด็นเรื่อง "การแข่งขัน" คณะกรรมการกำกับการแข่งกันทางการค้า หรือ กขค. ต้องเข้าไปดูแลเท่านั้น

 

  • ผลกระทบต่อธุรกิจ

ธุรกิจขนาดใหญ่ในภาคส่วนที่เคยมีกฎหมายเฉพาะ เช่น โทรคมนาคม พลังงาน หรือสถาบันการเงิน จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กขค. ในประเด็นการแข่งขันทางการค้าอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดการเกี่ยงอำนาจและเกิดช่องว่างในการบังคับใช้กฎหมายเช่นกรณี True-DTAC อีก

2. นิยามอำนาจเหนือตลาดที่ครอบคลุมขึ้น และเน้นการทำงานเชิงรุก

นิยามของ "ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด" จะปรับปรุงใหม่ โดยพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ส่วนแบ่งตลาด อุปสรรคในการเข้าสู่ตลาด ขนาดธุรกิจ สภาพการแข่งขัน และแนวโน้มในอนาคต

  • ผลกระทบต่อธุรกิจและประชาชน หากการกระทำของธุรกิจ ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค หรือการแข่งขันในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ ก็จะเข้าสู่การกำกับดูแลของกฎหมายนี้ แม้ส่วนแบ่งตลาดจะไม่ถึง 50% ก็ตาม นอกจากนี้ กขค. จะสามารถ ติดตาม ตรวจสอบ ไต่สวนพฤติกรรม ของผู้ประกอบธุรกิจที่พึงเฝ้าระวังได้ และมีอำนาจยับยั้งการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้บริโภค ก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้นจริง

 

Crack! พ.ร.บ.แข่งขันการค้าใหม่ เพิ่มอำนาจรัฐ ปราบธุรกิจผูกขาด

3. เปลี่ยนโทษอาญาเป็น “ค่าปรับเป็นพินัย” ที่เอาผิดได้จริง

กฎหมายใหม่ยกเลิกบทกำหนดโทษทางอาญาส่วนใหญ่ (ยกเว้นความผิดต่อเจ้าหน้าที่) และหันมาใช้ มาตรการปรับเป็นพินัย แทน

  • ผลกระทบต่อธุรกิจ: การฝ่าฝืนมาตรา ๕๐ (การใช้อำนาจเหนือตลาด) หรือมาตรา ๕๔ (ฮั้ว/ข้อตกลงจำกัดการแข่งขัน) อาจต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยในอัตรา ไม่เกินร้อยละ ๒๐ ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด การเปลี่ยนมาใช้โทษปรับเป็นพินัยทำให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมาย ง่ายขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องพิสูจน์จน "สิ้นสงสัย" นอกจากนี้ ยังช่วยให้สามารถดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจที่กระทำความผิด นอกราชอาณาจักร แต่ส่งผลกระทบต่อตลาดในประเทศได้ด้วย

.

4. เครื่องมือใหม่ในการปราบฮั้ว: โครงการลดหย่อนโทษ (Leniency Program)

มีการเพิ่มกลไกใหม่ที่ไม่เคยมีในกฎหมายฉบับเดิม คือ การยกเว้นและลดหย่อนค่าปรับเป็นพินัย (Leniency Program)

  • ผลกระทบต่อธุรกิจ: ผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าสู่การสมคบคิด (ฮั้ว) สามารถเป็นผู้ยื่นคำขอเพื่อ ให้ข้อมูลหรือพยานหลักฐานที่เป็นประโยชน์ ต่อการดำเนินคดี เพื่อแลกกับการ ยกเว้นหรือลดหย่อนค่าปรับเป็นพินัย ได้ กลไกนี้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้เกิดการเปิดเผยข้อมูลการฮั้วกันภายใน

 

5. คุ้มครองผู้บริโภค: ฟ้องเองได้และเรียกค่าเสียหาย 3 เท่า

ประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายนี้ มีสิทธิ์ ฟ้องคดีเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ โดยศาลมีอำนาจสั่งให้ผู้กระทำผิดจ่ายเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 3 เท่า แต่ไม่เกิน 4 เท่าของความเสียหายที่แท้จริง

  • ผลกระทบต่อประชาชน: การกำหนดค่าเสียหายที่สูงถึง 3 เท่านี้ถือเป็น แรงจูงใจ ที่สำคัญมาก ให้ประชาชนหรือองค์กรผู้บริโภคกล้าที่จะลุกขึ้นมาฟ้องร้องดำเนินคดีด้วยตนเอง เมื่อได้รับความเสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการผูกขาด ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าที่จะฟ้อง
  • การดำเนินคดีที่สะดวกขึ้น: คดีทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. นี้ (อาญา, พินัย, ปกครอง, เรียกค่าเสียหาย) จะถูกรวมมาอยู่ภายใต้เขตอำนาจของ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ทำให้เกิดความรวดเร็วและเป็นมาตรฐานในการพิจารณาคดี

เพิ่มความโปร่งใสและการยึดโยงกับประชาชน ของ กขค.

  • การแต่งตั้งกรรมการ: องค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการกำกับการแข่งขันทางการค้า (กขค.) จะถูกปรับปรุงให้มีความหลากหลายและ ยึดโยงกับประชาชนมากขึ้น โดยต้องมีตัวแทนจาก สภาองค์กรของผู้บริโภค อย่างน้อย 1 คน และกรรมการ กขค. เองต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้าน การคุ้มครองผู้บริโภค อย่างน้อย 1 คน เพื่อให้เข้าใจผลกระทบต่อประชาชนอย่างแท้จริง
  • คำวินิจฉัยที่เปิดเผย: กขค. ต้องเผยแพร่ ผลคำวินิจฉัยฉบับเต็ม พร้อมด้วยเหตุผลและรายละเอียดของคดี รวมถึง คำวินิจฉัยส่วนบุคคล ของกรรมการแต่ละคน เพื่อให้ภาคธุรกิจและสาธารณชนสามารถเรียนรู้ได้ว่าพฤติกรรมใดผิดหรือถูก นอกจากนี้ สำนักงานต้อง รายงานความคืบหน้าของคดี ต่อสาธารณชนเป็นประจำทุกเดือน.

Crack! พ.ร.บ.แข่งขันการค้าใหม่ เพิ่มอำนาจรัฐ ปราบธุรกิจผูกขาด

การแก้ไข พ.ร.บ. การแข่งขันทางการค้าครั้งนี้ ซึ่งมี ร่างของ สส. สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล เป็นหลักในการพิจารณา และได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากกรรมาธิการทุกพรรคการเมือง ถือเป็นการปฏิรูปกลไกทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญ

ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยก้าวไปสู่มาตรฐานสากล (เช่น มาตรฐาน OECD) แต่ยังเป็นหลักประกันว่า ธุรกิจทุกขนาดจะเติบโตได้บนความสามารถที่แท้จริง และที่สำคัญที่สุดคือ คุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค ให้ได้รับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม

related