svasdssvasds

Gaslighting คืออะไร? แปลว่าอะไร? พฤติกรรม "นักบงการ" ทำนานๆอาจป่วยจิตได้

รู้จัก Gaslighting คืออะไร? แปลว่าอะไร? เช็กพฤติกรรมคนใกล้ตัว ว่ามีใครกำลังบงการปั่นหัว ความคิดคุณอยู่หรือเปล่า? ปล่อยไว้อาจทำให้ป่วยทางจิตได้ เดี๋ยวโอ๋สรุปให้ฟัง

เช็กความสัมพันธ์ว่าคุณกำลังถูก  “Gaslighting” อยู่หรือไม่? 

       จากกรณีดราม่า ไอดอลวิทยาศาสตร์ คุกคามทางจิตใจหญิงสาวหลายราย จนเกิดดราม่าขึ้น ทำให้คำว่า Gaslighting กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เคยได้ยินไหม ที่เขาบอกว่า ศัตรูที่ดูออกยากที่สุด มักมาในรูปแบบของ คนรัก เพราะความรักทำให้คนตาบอด ฮี๊ววว ไม่ใช่ๆ แต่ว่ามันจริงนะ เพราะเมื่อมนุษย์มีอารมณ์รัก ไปแล้ว ตรรกะ และ เหตุผล มันไม่ทำงาน  จนบางครั้งมันแยกไม่ออกจริงๆ  ว่ากำลังถูกคุกคามทางจิตใจ จากคนรัก ด้วยคำว่า รัก อยู่เปล่า?

 “Gaslighting”  แปลว่า?

       การปั่นหัว ให้อีกฝ่ายเชื่อตามความจริงที่อีกฝ่ายสร้างขึ้น จนสับสนในความคิดของตัวเอง เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง อาจจะไม่ได้เกิดกับแค่ ความสัมพันธ์แบบคู่รัก แต่ ครอบครัว พี่น้อง หรือ เพื่อน ก็สามารถพบเจอได้  

 

ที่มาศัพท์คำว่า  Gaslight มาจากคำว่า หรี่ตะเกียง

       Gaslighting  มีต้นกำเนิดมาจาก บทละคร  ปี 1938  ที่ชื่อว่า Angel Street ต่อมา  Hollywood เอามาทำเป็นหนังชื่อ Gaslight ในปี 1944  เรื่องนี้นักแสดงนำหญิง คว้าออสก้า มาได้เลย

       ซึ่งเป็นเรื่องราวของคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่ฝ่ายสามีพยายามจะปั่นหัวภรรยาให้คิดว่าตัวเองเสียสติ  ด้วยวิธีการชวนเขย่าประสาทเล็กๆ น้อยๆ เช่น หรี่ตะเกียงน้ำมัน  (อันเป็นที่มาของชื่อเรื่อง Gaslight) แล้วทำให้ภรรยาเข้าใจว่า คิดไปเองคนเดียว ทำซ้ำๆ หลายๆอย่าง จนภรรยารู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติ พยายามตัดขาดภรรยาจากสังคมรอบข้าง และค่อยๆ ทำให้ภรรยาคิดว่าตัวเองเสียสติจริงๆ ส่วนสุดท้ายหนังจะจบยังไง หากันดูค่ะ

พฤติกรรมของการ Gaslighting มีหลายแบบ

       เช่น คุณอาจเคยถูกคนรักทำร้ายร่างกาย แต่คนรักของคุณกลับปฏิเสธหน้าตาย และบอกว่า คุณเสียสติและทำร้ายตัวเอง เมื่อถูกย้ำหลายๆครั้ง คุณจะเริ่มลังเลว่า สิ่งที่คุณเชื่อมันจริงหรือเปล่า?

       และบางพฤติกรรม มันอาจเป็นเรื่องซับซ้อนกว่า การทำร้ายร่างกาย  เช่น อีกฝ่ายมักพูดจาโกหกเสมอ เมื่อเริ่มมีคนอื่น โดยอาจจะพูดว่าไม่เคยพูดว่าจะไม่กลับดึกวันนี้  เราคิดมากไปเอง และเพราะเราคิดมาก  (เริ่มโทษคุณ ต่อว่าคุณ ) เขาจึงเบื่อ และ เปลี่ยนไป (แต่จริงๆเขามีคนอื่น)
       แน่นอนว่า ถ้าเกิดแค่บางครั้ง มันก็อาจจะไม่รุนแรง แต่ถ้าเกิด บ่อยๆครั้ง มันจะทำให้คนๆนึง เริ่มรู้สึก สับสนในหัวตลอดเวลา ไม่เชื่อในความคิดตัวเอง สูญเสียความมั่นใจในตัวเอง หนักเข้าคือ เริ่มวิตกจริตแล้วว่า หรือเรามีอาการทางจิต (ทั้งที่จริงเราปกตินะ)
เลยจำเป็นต้อง ตรวจสอบ ความสัมพันธ์ของเรา ปัญหาใหญ่สุดของ Gaslighting คือ มันจับได้ยาก  กว่าเราจะรู้ว่า ถูก Gaslight อยู่ มันก็คือเกิดผลกระทบทางจิตใจกับเราแล้ว

จุดสังเกตุว่าเรากำลังถูก Gaslighting อยู่ จากเว็บไซต์ POBPAD มีดังนี้

1.เริ่มไม่มั่นใจในความคิด ความเชื่อ การกระทำของตัวเอง  

2.วิตกกังวล ว้าเหว่ ไม่มั่นใจในตัวเอง หมดคุณค่าในตัวเอง

3.รู้สึกว่าทุกอย่างเป็นความผิดของคุณ อยากขอโทษตลอด

4.คิดมาก และรู้สึกอ่อนไหว

5.เริ่มแยกตัวเอง ออกจากคนรัก เพราะรู้สึก สับสนและไม่มั่นใจ แต่อธิบายไม่ได้ เพราะเขา(อีกฝ่าย) ไม่เชื่อ

ทางแก้ไขเมื่อถูก Gaslighting คือ

       ถ้าเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่คนรัก ทางที่ดีสุดคือ ออกมาจากความสัมพันธ์ที่ไม่จริงใจกับเรา​ แต่กรณีที่เป็นคนรัก หรือ คนสนิท ครอบครัว เข้าใจว่ามันคงออกมายาก แต่ถ้าเราเริ่มสงสัยและรู้ตัว ว่าคนรักเรา หลอกปั่นหัว

1.ให้ลองสังเกตุดูว่า สิ่งที่เขาพูดลักษณะ Gaslighting กับเรา มักเป็นกับสถานการณ์แบบไหน และเขาต้องการอะไร ? 

2. เก็บหลักฐานการพูด หรือ การกระทำของเขา อาจจะใช้โทรศัพท์ อัดเสียงขณะคุยกับเขา หรือ แอบตั้งกล้องถ่ายภาพเพื่อบันทึกเหตุการณ์  ในช่วงที่คุณไม่อยู่บ้าน หรือ กำลังหลับ เมื่อมีหลักฐานที่ชัดเจน จะช่วยยืนยันพฤติกรรมและความคิดของคุณ และลดความสงสัยในตัวเองได้

           จริงๆ เรื่องของความสัมพันธ์ มันมีกระทบกระทั่ง ไม่เข้าใจกันเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องไม่ใช่ ในลักษณะที่ทำให้ อีกฝ่ายรู้สึก ถูกคุกคาม ไม่ปลอดภัย ทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าเป็นแบบนั้น อย่าพูดแต่คำว่า รัก เราต้องรักตัวเองด้วย ต้องทบทวนความสัมพันธ์ของเราแล้วว่า เป็นความสัมพันธ์ที่สุขภาพดีจริงๆ หรือ เราแค่หลอกตัวเอง ลองเช็กดูนะคะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

 

related