ในช่วงยุค 90 เชื่อได้ว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักพระเอกหน้าใสอย่าง โอ วรุฒ ที่ได้ฝากผลงานทั้งภาพยนตร์ ละคร และ พิธีกร ไว้หลายต่อหลายเรื่อง และแน่นอนว่าบทบาทของอดีตพระเอกดังคนนี้ได้ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คน
ผลงานที่สร้างชื่อให้กับชายที่ชื่อ โอ วรุฒ วรธรรม อดีตพระเอกดัง ที่ดีทั้งหน้าตาและความสามารถ แม้ โอ วรุฒ จะมีชีวิตที่พลิกผันจนต้องออกจากวงการบันเทิง แต่ผลงานหลายๆ อย่าง ยังอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คน วันนี้เราจะพาไปย้อนดู 5 ผลงานเด่นทั้งด้านการแสดง และการเป็นพิธีกรให้ชมกัน
คู่กรรม (ภาพยนตร์) เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2531 ถือเป็นผลงานแจ้งเกิดในวงการบันเทิงให้กับพระเอกหน้าใหม่ วรุฒ วรธรรม ที่รับเป็นเป็นทหารญี่ปุ่นชื่อ โกโบริ มาตกหลุมรักสาวไทยอย่าง อังศุมาลิน ที่รับบทโดย จินตหรา สุขพัฒน์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นับตั้งแต่นั้นมาชื่อเสียงของ โอ วรุฒ ก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วบ้านทั่วเมือง และยังไม่มีใครสามารถลบภาพของ โกโบริ ออกไปจากหัวใจได้ จนขนาดที่ว่า ทมยันตี เจ้าของบทประพันธ์เรื่อง คู่กรรม ยังออกปากชมว่า โอ วรุฒ เหมาะสมที่จะเป็น โกโบริ ที่สุด
พี่เลี้ยง (ละคร) ออกอากาศทางช่อง 7 ในปี พ.ศ.2535 ละครโทรทัศน์แนวโรแมนติก จากบทประพันธ์ของ ทมยันตี ซึ่ง โอ วรุฒ รับบทเป็นพระเอกชื่อ สัตยา คู่กับนางเอกสาว ต้อม รัชนีกร พันธุ์มณี ซึ่งเป็นละครเรื่องแรกของ ต้อม รัชนีกรด้วย โดยช่วงที่ละครเรื่องนี้ฉาย ใครๆ ต่างพากันติดทั้งเนื้อเรื่อง และบทบาทการแสดงของเหล่านักแสดง จนเรียกกันติดปากว่า พี่ชาย และ คุณเร ตามตัวละครเรียกกัน
ในฝัน (ละคร) ออกอากาศทางช่อง 3 เมื่อปี 2535 ละครแนวดราม่า จากบทประพันธ์ของ วิมล เจียมเจริญ หรือ โรสลาเรน ซึ่ง โอ วรุฒ รับบทเป็นเจ้าชายพิรียพงศ์ โดยมี หมิว ลลิตา ปัญโญภาส รับบทเป็น เจ้าหญิงรัชทายาท ละครเรื่องนี้ยังทำให้ โอ วรุฒ ได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ สาขานักแสดงนำชายดีเด่นอีกด้วย
โก๊ะจ๋าป่าจะโก๊ะ (ภาพยนตร์) เข้าฉายในปี 2534 สร้างโดย ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ซึ่งเป็นเรื่องราวของนักศึกษากลุ่มหนึ่ง กับพรานหนุ่ม โก๊พ โดยพวกเขาจะไม่มอบของให้กับเด็กชาวเขา แต่เกิดพลัดหลงเข้าไปในถ้ำและเกิดแผ่นดินไหว ทำให้พวกเขาย้อนกลับไปในอดีต เรื่องนี้นับว่าเป็นการรวบรวมพระเอกชั้นนำในยุคนั้นไว้ถึง 3 คน คือ โอ วรุฒ ที่รับเป็นบท รุ่นพี่โอสถ, สันติสุข พรหมศิริ รับบทเป็น พรานโก๊ะ และ จักรกฤษณ์ อำมรัตน์ รับบท กำจัด พร้อมกับนักแสดงหน้าใหม่ในเวลานั้นอย่าง แอน ทองประสม ซึ่งเรื่องนี้ โอ วรุฒ ต้องพลิกบทบาท จากพระเอกเคร่งขรึม มาสู่บทจอมตลกกะล่อน ที่กลายเป็นบุคลิกของเจ้าตัวในเวลาต่อมา พร้อมกับช่วยกันทำรายได้ประมาณ 18 ล้านบาท ถือว่าประสบความสำเร็จมากในเวลานั้น
โอโน่โชว์ (รายการโทรทัศน์) นอกจากผลงานด้านการแสดงแล้ว โอ วรุฒ ก็ยังสร้างชื่อเสียงอย่างมากจากบทบาทพิธีกรรายงาน โอโน่โชว์ ทางช่อง 5 โดยจัดคู่กับ นีโน่ เมทนี บุรณศิริ ที่เป็นทั้งเพื่อนซี้และพี่ชาย ซึ่งรายการนี้เป็นรายการวาไรตี้ ที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชม และด้วยความที่เคมีเข้ากันของทั้งคู่ จึงทำให้รายการนี้เป็นที่ชื่นชอบของทั้งประเทศ ก่อนที่อาการติดสุราอย่างหนักจะทำให้เขากลายเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง รวมถึงทำให้ชีวิต โอ วรุฒ พลิกผันไปตลอดกาล และต้องออกจากวงการบันเทิงไปในที่สุด
ขอบคุณภาพจาก ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น และ เมืองไทยในอดีต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
BREAKING : สุดยื้อ! “โอ วรุฒ” เสียชีวิตแล้ว
เศร้า! พ่อโอ วรุฒ เปิดใจ มาไม่ทันสั่งลาลูกชายครั้งสุดท้าย
เปิดประวัติ “โอ-วรุฒ” อดีตพระเอกดังยุค90 ก่อนชีวิตพลิกผัน
คนบันเทิงโพสต์อาลัย “โอ วรุฒ” จะอยู่ในใจตลอดไป
วีรกรรมวัยเรียน “โอ วรุฒ” ในความทรงจำของเพื่อน
“หากพี่ล้ม พี่จะล้มไปทางน้องนะ” คำพูดสุดท้ายของ โอ วรุฒ ก่อนส่งไอซียู (คลิป)