svasdssvasds

Breaking News : มือยิงสนั่นศาลจันทบุรี เป็นพล.ต.ต. ปมที่มรดก 3.8 พันไร่

Breaking News : มือยิงสนั่นศาลจันทบุรี เป็นพล.ต.ต. ปมที่มรดก 3.8 พันไร่

ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th

วันที่ 12 พ.ย. ความคืบหน้ากรณี เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน พกสั้นออโตเมติก กล๊อก 22 ขนาด .40 ก่อเหตุยิงคู่กรณีและเจ้าหน้าที่ศาล ทนายความ จำนวน 4 ราย ในขณะที่อยู่ระหว่างรอ การพิจารณาคดีเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องมรดกที่ดิน ภายในบริเวณบัลลังก์ห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดจันทบุรี

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลซึ่งปฎิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอยู่หน้าห้องพิจารณาคดี จึงได้ใช้อาวุธปืนประจำตัวยิงผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ ก่อนนำตัวผู้บาดเจ็บ จำนวน 5 ราย (รวมผู้ก่อเหตุ) ส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรีและโรงพยาบาลเอกชน  โดยควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ และจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

โดยทราบชื่อผู้ก่อเกตุ คือ  พล.ต.ต.ธานินทร์ จันทราทิพย์ อายุ 67 ปี ส่วน คู่กรณี บาดเจ็บ 4 คน คือ 1. ทนายโจทย์ นายบัญชา ปรมีคณาภรณ์ 2. ภรรยานายบัญชา นางสุภาพร ปรมีคณาภรณ์ 3. ทนาย นายวิจัย สุขรมย์ 4. ทนาย นายวิชัย อุดมธนภัทร ก่อนที่นายบัญชาและนายวิจัย จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

โดยนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ หนึ่งในผู้เสียชีวิต เป็นอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ (สปช.) และอดีตสมาชิกสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตทนายความคดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ก็ได้เป็นทนายความของบริษัท คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิ จำกัด ด้วย

สำหรับสาเหตุสืบเนื่องจากคดีฟ้องแพ่งที่ดิน ในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท  ที่ตกลงกันไม่ได้กันมานานกว่า 10 ปี ซึ่งแยกออกมาเป็นคดีอาญาข้อหาฟ้องเท็จ อาวุธ โดยกลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้นำหลักฐานเป็นเอกสารการครอบครองสิทธิ์ที่ดิน และเอกสารอื่นๆ มายื่นให้กับ เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ตรวจสอบที่ดิน 86 แปลง จำนวนกว่า 3,800 ไร่ ที่อยู่ในพื้นที่บ้านตาเลียว ต.เขาแก้ว อ.ท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

หลังเชื่อว่า มีการครอบครองเอกสารสิทธิ์ไม่ชอบ เนื่องจากขายให้กับมูลนิธิ อธิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย แต่ถูกบุคคลอื่นแอบอ้างเป็นของตนเอง ซึ่งที่ดินดังกล่าว เดิมเป็นของนายสมพล โกศลานันท์ ที่ได้ทำการตกลงซื้อขายที่ดิน กับพระกิตติวุฑโฒ ภิกขุ ในนามของ มูลนิธิอธิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย จำนวนเงิน 12 ล้านบาท

เมื่อปี 2513 โดยพระกิตติวุฑโฒ ได้ขอซื้อผ่อนชำระ โดยเรี่ยไรผู้มีจิตศรัทธามาบริจาคซื้อที่ดิน และได้บริจาคที่ดินบางส่วนให้กับ โรงเรียนบ้านตาเลียว เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา ต่อมา นายสมพล โกศลานันท์ เสียชีวิตลง เมื่อปี 2538 พบว่า ทางมูลนิธิไม่ได้ชำระเงินอย่างต่อเนื่อง และยังคงค้างผิดชำระอยู่อีก 3 ล้านบาท ต่อมาปี 2548 พระกิตติวุฑโฒ ได้มรณภาพ ซึ่งที่ดินทั้งหมด ยังเป็นชื่อของนายสมพล โกศลานันท์

ต่อมาปี 2550 น้องชายของพระกิตติวุฑโฒ ได้แสดงตัวอ้างว่า เป็นผู้ซื้อที่ดินดังกล่าวทั้งหมด ด้วยเงินสดในราคา 14 ล้านบาท รวมที่ดินของโรงเรียนด้วย และมีการฟ้องร้อง 1 ในทายาทของตนเอง ในข้อหา ที่ดินผิดสัญญาและข้อตกลง มีการตั้งทนายทั้ง 2 ฝ่าย มาทำสัญญาประณีประณอมกัน โดยที่ทายาทคนอื่นๆไม่รู้เห็น กระทั่งศาลพิพากษา ยกที่ดินให้กับน้องชายพระรูปดังกล่าว ตามสัญญาประณีประนอม พร้อมนำหลักฐานที่ปรากฏในหนังสือช่อฟ้าว่า พระกิตติวุฑโฒ เป็นผู้บริจาคที่ดินส่วนหนึ่งให้โรงเรียน ซึ่งขัดกับคำกล่าวอ้างของตัวน้องชายพระ มามอบให้ดีเอสไอช่วยตรวจสอบ

ล่าสุด พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เชื่อมโยงถึงการกระทำความผิดของผู้ก่อเหตุเป็นสำคัญ รวมทั้งผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ ลงไปกำชับ กวดขัน การปฎิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณที่ทำการของศาลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ตามที่ได้รับการประสานขอกำลังไปปฎิบัติหน้าที่เพิ่มเติมจากศาล โดยต้องบูรณาการกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยของศาลและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบอาวุธ สิ่งผิดกฎหมาย ใช้หลักยุทธวิธี ระดับการใช้กำลัง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งให้มีแผนเผชิญเหตุและแนวทางการประสานการปฎิบัติ เพื่อเข้าระงับเหตุและแก้ไขปัญหาได้ทันต่อสถานการณ์

related