svasdssvasds

ขายของผ่าน TikTok มาแรงมาก วิธีขายของออนไลน์ เริ่มต้นอย่างไร

ขายของผ่าน TikTok มาแรงมาก วิธีขายของออนไลน์ เริ่มต้นอย่างไร

ทุกวันนี้ TikTok นอกจากจะเป็นโซเชียลมีเดียที่ผู้คนนิยมดูคลิป เพื่อรับชมสาระบันเทิงข่าวสารแล้ว ยังนิยมใช้ขายของออนไลน์ด้วย และอาจจะเข้ามาเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Shopee และ Lazada กันเลย

สรุปภาพรวมเทรนด์การใช้โซเชียลมีเดียในปี 2566 จาก Mi Group พบว่า TikTok มาแรงมากและอาจจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญในวงการอีคอมเมิร์ซ เพราะผู้ใช้งานผันตัวมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์แล้วทำการตลาดแบบ Affiliate เพื่อรับส่วนแบ่งจากเจ้าของธุรกิจ รวมทั้งการที่แบรนด์ใหม่ๆ ใช้ TikTok เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขายด้วย

เทรนด์การใช้ออนไลน์ที่น่าสนใจ ในปี 2566

  1. การใช้โซเชียลมีเดียจะกระจาย ไม่กระจุกตัวแค่ Facebook, TikTok, Youtube แบบสมัยก่อน แต่ผู้คนจะใช้ทุกโซเชียลมีเดียตามความพอใจ
  2. ปริมาณของ Fake News ที่มากขึ้นและการแยกระหว่างโซเชียลกับชีวิตประจำวันยาก ทำให้คนอยากเลิกใช้โซเชียลมีเดียไป ทำให้เกิดเทรนด์ที่ชื่อว่า "Zero Online Presence"
  3. ผู้คนจะให้ความสำคัญกับ "Community" มากขึ้น กลายเป็นจุดที่มีคุณค่าต่อแบรนด์ให้สร้างโอกาสและวิกฤตได้ พร้อมกัน

ทำไมคนเล่น TikTok ต้องลองทำการตลาดแบบ Affiliate

  • 54% ของแบรนด์ให้ความสำคัญกับ Affiliate Marketing เป็นอันดับที่สาม ของช่องทางหลักในการขายสินค้า
  • 59% ของเจ้าของสินค้า เลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์/KOL ในการทำ Affiliate Marketing
  • 88% ของลูกค้าที่ซื้อสินค้ายอมรับว่า ตัดสินใจซื้อเพราะโดน "ป้ายยา" จากอินฟลูเอนเซอร์/KOL ที่ตนเองชื่นชอบ

เม็ดเงินของสื่อโฆษณาในแต่ละช่องทาง

ปี 2566 

  • สื่อโทรทัศน์และสื่อดั้งเดิมอื่นๆ : 50%
  • สื่อดิจิทัล : 35%
  • สื่อนอกบ้าน : 15%

ปี 2567

  • สื่อโทรทัศน์และสื่อดั้งเดิมอื่นๆ : 35%
  • สื่อดิจิทัล : 45%
  • สื่อนอกบ้าน : 20%

คาดการณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า สัดส่วนสื่อโฆษณาจะเน้นหนักไปที่สื่อดิจิทัลและสื่อนอกบ้าน ส่วนสื่อเดิมจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ

  • สื่อโทรทัศน์และสื่อดั้งเดิมอื่นๆ : 20%
  • สื่อดิจิทัล : 50%
  • สื่อนอกบ้าน : 30%

อย่างไรก็ตาม การที่สัดส่วนตัวเลขปรับเปลี่ยนจากสื่อเดิมหนักไปที่ออนไลน์มากขึ้นนั้น ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าพฤติกรรมการใช้ออนไลน์ของผู้คนเยอะขึ้น และสื่อออนไลน์อย่าง TikTok ก็สามารถปิดการขายได้ดีกว่าช่องทางสื่อหลักแบบเดิม รวมทั้งมากกว่าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้วยซ้ำ

โดยหลายข้อมูลสะท้อนว่าตัวเลขแอคทีฟของการใช้งานมากกว่า 40 ล้านคนแล้ว ไม่นับจำนวนผู้ใช้งานที่สมัครทิ้งไว้แต่ไม่ได้ใช้งานคาดว่าจะอยู่ที่ 50 กว่าล้านยูสเซอร์ 

ดังนั้น การทำ Affiliate Marketing จึงเป็นโอกาสใหม่ของคนที่อยากทำธุรกิจแบบไม่ต้องลงทุน แต่ต้องเป็นคนที่ขายของเป็น และที่สำคัญคือพูดเก่ง "ไลฟ์" ได้ เพราะคนกลุ่มนี้กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก แต่ไม่สามารถเก็บตัวเลขรายได้ของคนกลุ่มนี้ได้ เพราะเกิดขึ้นจากข้อตกลงระหว่างแบรนด์กับอินฟลูเอนเซอร์/KOLs

ทำ Affiliate Marketing ขายสินค้าอะไรดี

สำหรับคนที่อยากลองทำ Affiliate Marketing และไม่รู้ว่าจะลองขายอะไรดี ข้อมูลจาก Priceza ระบุว่า ประเภทของหมวดหมู่สินค้าขายดีบน TikTok นั้น ประกอบด้วย

  • Beauty & Personal Care : 70%
  • Women's Fashion : 9%
  • Toy & Hobbies : 7%
  • Home & Living : 5%
  • Food & Beverage : 5%
  • Mobile & Electronics : 4%

หากเจาะลึกลงไปอีกถึงตัวสินค้าที่คนนิยมสั่งซื้อผ่าน TikTok ประกอบด้วย แมสก์หรือหน้ากากอนามัย, กระดาษทิชชู และกางเกงใน

วิธีทำ Affiliate Marketing

หากเป็นมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นเป็นนักขายออนไลน์นั้น วิธีการทำมีขั้นตอนเริ่มต้น ดังนี้

  1. สร้างเว็บไซต์, บล็อก, Facebook Page , Instagram , TikTok  ฯลฯ
  2. สมัคร Affiliate Program
  3. นำลิงก์ไปโปรโมทผ่านช่องทางออนไลน์ของคุณ เช่น เว็บไซต์, บล็อก หรือ Facebook
  4. ถ้ามีคนมาซื้อสินค้าหรือบริการ ผ่านลิงก์ของคุณ คุณจะได้รับค่าคอมมิชชัน

ส่วนค่าตอบแทนสำหรับผู้ขายด้วย Affiliate Marketing มี 3 ทาง ประกอบด้วย

  • Pay Per Sale หรือ PPS – จ่ายเงินเมื่อมีการขายสินค้าเกิดขึ้นโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขายสินค้า/บริการ หรือให้ผลตอบแทนเป็นตัวเงิน เช่น ขายสินค้าได้ 1 ออเดอร์ จะได้ค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 100 บาท เป็นต้น
  • Pay Per Lead หรือ PPL – จ่ายเงินให้เมื่อมีคนมาสมัคร หรือ ลงทะเบียนผ่านลิงก์ เช่น สมัครบัตรเครดิต สมัครประกัน เป็นต้น
  • Pay Per Click หรือ PPC – จ่ายเงินให้เมื่อมีคนคลิกเข้าไป ไม่ว่าจะขายสินค้าได้หรือไม่ก็ตาม

 

ที่มา : SCB, Priceza, MI Group

ภาพ : unsplash

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

related