AWS-Schneider รักษ์โลกด้วยเทคโนโลยี ลดต้นทุน-เพิ่มความยั่งยืน
AWS - Schneider รักษ์โลกด้วยเทคโนโลยี ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความยั่งยืน เดินหน้าปั้น Net Zero ทั้งองค์กรและคู่ค้ามั่นใจสำเร็จได้ไม่เกินปี 2040
วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AWS กล่าวในงานสัมมนากรุงเทพธุรกิจ Sustainability Forum 2024 ว่า อะเมซอน ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือการไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้สำเร็จในปี 2040 จึงตั้งกลุ่ม climate tech ขึ้นมาเพื่อทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ และมีบริษัทเข้าร่วมกว่า 400 บริษัท แต่ไม่มีไทย
“AWS เป็นผู้ให้บริการคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ ที่จำเป็นต้องใช้พลังงานจำนวนมาก จึงได้ตั้งเป้าเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน พลังงานสะอาดในดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกให้ได้ 100% ในปี 2050"
ในแง่ของดาต้าเซ็นเตอร์ มีการใช้พลังงานหมุนเวียนแล้วประมาณ 90% และตั้งเป้าผลิตน้ำสะอาดให้มากกว่าน้ำที่ใช้ไป ให้สำเร็จในปี 2030 ด้วย
อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อความยั่งยืนจะเห็นได้จากตัวอย่างของ อะเมซอน ในฐานะผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของโลก
มีการนำ AI และ Machine Learning มาใช้ในสายพานสินค้า ตั้งแต่การรับออเดอร์ การทำแพ็กเกจจิ้งสำหรับพัสดุแต่ละประเภท ลดการใช้กระดาษและบับเบิลห่อกันกระแทก จนถึงมือลูกค้า ช่วยลดกระดาษไปได้ 40% หรือ 2 ล้านตันภายในระยะเวลา 3 ปี ลดน้ำหนักสินค้าที่จัดส่งไป 30% ช่วยให้การขนส่งประหยัดพลังงาน รวมทั้งเลือกใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากว่าแสนคันในการขนส่งถึงปลายทาง ลดมลพิษทางอากาศได้
ณัฏฐพัชร์ ชลภัทรธนัทสิริ ผู้อำนวยการกลุ่ม Digital Energy ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลประเทศไทย ลาวและเมียนมา กล่าวว่า สิ่งที่เราทำไม่แตกต่างกับ อะเมซอน เพียงแต่เราตั้งเป้าให้สำเร็จในปี 2050
ทั้งนี้ บริษัทจะมีการตั้งเป้าแผนงานก่อนว่าจะสำเร็จได้จากจุดไหนบ้าง เพราะไม่ใช่แค่การทำแผน Sustain ในองค์กรแต่ต้องครอบคลุม value chain ด้วย ทั้งในแง่ของมาตราการใช้พลังงาน ไฟฟ้า พลังงานสะอาด วัตถุดิบ การบริหารจัดการทุกอย่างต้อง recycle และ green เพื่อทำให้เป็น Net Zero ในปี 2030 และเดินหน้าสู่ carbon neutral จริงๆ ในปี 2050
นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมปูพื้นฐานเรื่องเหล่านี้ต่อคนรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาทักษะและสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนสำหรับองค์กรต่อไป
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
