svasdssvasds

Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ Be My Eyes ใช้ AI ช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา

Microsoft เพิ่มฟีเจอร์ Be My Eyes ใช้ AI ช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา

ไมโครซอฟท์ พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ Be my eyes ใช้ AI ในการช่วยเหลือผู้บกพร่องทางสายตาแบบไม่ต้องใช้มนุษย์มาช่วยเหลือ

Microsoft พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ซึ่งขับเคลื่อนโดย ChatGPT-4 ของ OpenAI สำหรับผู้ใช้งานที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Be My Eyes บริษัทที่ช่วยให้ผู้มีความบกพร่องทางการมองเห็น สามารถจัดการงานในชีวิตประจำวันได้สะดวกขึ้น ด้วยความช่วยเหลือจากอาสาสมัครหลายคน

การใช้เครื่องมือช่วยมองเห็นภาพแบบดิจิทัลหรือ Be My Eyes ที่สร้างขึ้นนั้น มีชื่อว่า "Be My AI" ซึ่งไมโครซอฟท์ได้ใส่ฟีเจอร์นี้ไว้ใน Microsoft Disability Answer Desk เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ Microsoft ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นสามารถแก้ไขปัญหาทางเทคนิคหรือใช้ชีวิตในแง่ต่างๆ ได้สะดวกขึ้น

โดยผู้ที่ต้องการใช้บริการนี้ แค่อัปเดตซอฟต์แวร์ก็ใช้งานได้แล้วโดยไม่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากตัวแทนศูนย์บริการข้อมูล

สำหรับฟีเจอร์ Be My Eyes นี้สามารถแก้ไขข้อซักถามได้ภายใน 4 นาที ซึ่งน้อยกว่าการโทรคุยกับเจ้าหน้าที่หรือคอลเซ็นเตอร์ได้ถึง 50% และมีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เลือกพูดคุยกับตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าที่เป็นมนุษย์แทนจากโต้ตอบกับ AI

อย่างไรก็ตาม Be My AI ได้ใช้โมเดลทางการมองเห็น GPT-4 ของ OpenAI เพื่อสร้างคำอธิบายรูปภาพที่บุคคลนั้นถ่าย เช่น คำแนะนำในการตั้งค่าคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่หรือฉลากผลิตภัณฑ์

โดยทาง Microsoft ได้แนะนำเครื่องมือนี้ตามบริบทต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้งานในหลายรูปแบบ และให้ผู้บกพร่องได้สายตาได้เริ่มทดสอบผ่านประเด็นต่างๆ เพื่อดูความสามารถในการสนทนาให้เป็นแบบภาษาที่ธรรมชาติและสมจริงที่สุด แม้จะเป็นข้อมูลจาก AI ก็ตาม

Brad Lightcap ซีโอโอของ OpenAI กล่าวว่า “Be My Eyes ได้ใช้โมเดล AI ของบริษัทฯ เพื่อปรับปรุงชีวิตประจำวันของผู้ที่มีสายตาเลือนรางหรือตาบอด ให้ใช้ชีวิตการทำงานได้สะดวกขึ้น”

ความร่วมมือของ Microsoft กับ Be My Eyes ถือเป็นก้าวล่าสุดของบริษัทในการทำให้ผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้คนทุกกลุ่มได้มากขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตัว Accessibility Assistant หรือ "ผู้ช่วยการเข้าถึง" ซึ่งจะก้าวข้ามปัญหาทางสายตาได้สะดวกขึ้น

 

ที่มา : The Verge

ภาพ : Unsplash

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

related