svasdssvasds

AirPods Pro 2 - Apple Watch ในไทย รองรับฟีเจอร์ตรวจจับการหยุดหายใจขณะหลับ

AirPods Pro 2 - Apple Watch ในไทย  รองรับฟีเจอร์ตรวจจับการหยุดหายใจขณะหลับ

เปิดให้ใช้ในไทยแล้ว จับการหยุดหายใจขณะหลับ และฟีเจอร์เครื่องช่วยฟัง เมื่อ Airpods Pro 2 และ Apple Watch ในไทย อัปเดตครั้งใหญ่

SHORT CUT

  • Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์สุขภาพใหม่ 2 อย่างในไทย คือ การตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) สำหรับ Apple Watch และการเปลี่ยน AirPods Pro 2 ให้เป็นเครื่องช่วยฟัง
  • ผู้ใช้ Apple Watch (Series 9, 10 และ Ultra 2) สามารถใช้ฟีเจอร์ตรวจจับสัญญาณภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โดยนาฬิกาจะวิเคราะห์การหายใจขณะนอนหลับและแจ้งเตือนหากพบความเสี่ยง
  • AirPods Pro 2 ได้รับการอัปเดตให้ทำหน้าที่เป็นเครื่องช่วยฟังคุณภาพสูง สำหรับผู้ที่สูญเสียการได้ยินระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง พร้อมฟังก์ชันทดสอบและปรับแต่งเสียงสนทนาให้คมชัด

เปิดให้ใช้ในไทยแล้ว จับการหยุดหายใจขณะหลับ และฟีเจอร์เครื่องช่วยฟัง เมื่อ Airpods Pro 2 และ Apple Watch ในไทย อัปเดตครั้งใหญ่

Apple ได้เปิดใช้งานฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่สำคัญ 2 ฟีเจอร์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากเปิดตัวในต่างประเทศไปเมื่อเกือบ 1 ปีที่ผ่านมาในงาน Apple Event เดือนกันยายน 2024 โดยฟีเจอร์ดังกล่าวคือ การตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea Detection) บน Apple Watch และ การเปลี่ยน AirPods Pro 2 ให้เป็นเครื่องช่วยฟัง (Hearing Aids) ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Apple ในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพของผู้ใช้งาน

 Apple Watch: ตรวจจับสัญญาณภาวะหยุดหายใจขณะหลับ Sleep Apnea  

ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อตรวจจับสัญญาณของภาวะหยุดหายใจขณะหลับระดับปานกลางถึงรุนแรง ซึ่งเป็นภาวะที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้หากไม่ได้รับการดูแล

อุปกรณ์ที่รองรับ: Apple Watch Series 9, Series 10 และ Watch Ultra 2

วิธีการทำงาน: ผู้ใช้ต้องสวมใส่นาฬิกาขณะนอนหลับอย่างน้อย 10 คืน เพื่อให้ระบบใช้อัลกอริทึมวิเคราะห์และเรียนรู้รูปแบบการหายใจ หากระบบตรวจพบว่ามีภาวะหายใจติดขัดอย่างต่อเนื่อง จะส่งการแจ้งเตือนว่าผู้ใช้อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะ Sleep Apnea

ผลลัพธ์และการใช้งาน: เมื่อได้รับการแจ้งเตือน ผู้ใช้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่แม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดข้อมูลสรุปในรูปแบบไฟล์ PDF เพื่อนำไปให้แพทย์ประกอบการวินิจฉัยได้อีกด้วย
 

AirPods Pro 2: ก้าวสู่การเป็นเครื่องช่วยฟังและปกป้องการได้ยิน

AirPods Pro 2 ได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่ให้เป็นมากกว่าหูฟังทั่วไป โดยเพิ่มความสามารถด้านการได้ยินที่สำคัญเข้ามาถึง 2 ส่วน

1. ฟังก์ชันเครื่องช่วยฟัง (Hearing Aids)

ฟีเจอร์นี้จะเปลี่ยน AirPods Pro 2 ให้กลายเป็นอุปกรณ์ช่วยฟังคุณภาพระดับคลินิก สำหรับผู้ที่มีภาวะสูญเสียการได้ยินระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยอาศัยชิปประมวลผลเสียงขั้นสูงและชิป H2 ในการทำงาน
การทดสอบการได้ยิน (Hearing Test): ผู้ใช้สามารถทดสอบสมรรถภาพการได้ยินของหูแต่ละข้างได้ด้วยตนเองผ่านแอปบน iPhone หรือ iPad โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที ระบบจะใช้คลื่นเสียงพิเศษเพื่อสร้างโปรไฟล์การได้ยินเฉพาะบุคคล
การตั้งค่าส่วนบุคคล: หากพบว่ามีภาวะเริ่มสูญเสียการได้ยิน ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการช่วยฟังได้อย่างละเอียด ทั้งระดับการขยายเสียง, สมดุลเสียงซ้าย-ขวา, โทนเสียง และที่สำคัญคือฟีเจอร์ เพิ่มระดับเสียงสนทนา (Conversation Boost) เพื่อให้การพูดคุยคมชัดยิ่งขึ้น

2. การลดเสียงดัง (Loud Sound Reduction)

เป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่เดิมแต่ยังคงสำคัญอย่างยิ่ง โดยจะช่วยปกป้องการได้ยินของผู้ใช้จากสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังเกินไป ระบบจะลดความเข้มของเสียงที่เป็นอันตราย (เช่น เสียงที่ดังเกิน 85 เดซิเบล) โดยอัตโนมัติ ก่อนที่เสียงจะเข้าสู่หูของผู้สวมใส่
 

ความสำคัญต่อสุขภาพในระดับโลก

องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มีผู้คนกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลกที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับโดยไม่รู้ตัว และอีกกว่า 1,500 ล้านคนกำลังประสบปัญหาด้านการได้ยิน การที่ Apple นำฟีเจอร์เหล่านี้มาสู่ผู้ใช้งานในวงกว้างจึงถือเป็นก้าวสำคัญในการช่วยให้ผู้คนตระหนักรู้และเข้าถึงการดูแลสุขภาพเบื้องต้นได้ง่ายขึ้น

สรุปอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่รองรับ
เพื่อให้สามารถใช้งานฟีเจอร์สุขภาพใหม่เหล่านี้ได้ ผู้ใช้จำเป็นต้องมีอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ดังต่อไปนี้:

ฟีเจอร์ Sleep Apnea:
อุปกรณ์: Apple Watch Series 9, Series 10 หรือ Apple Watch Ultra 2
ฟีเจอร์ Hearing Aids และ Loud Sound Reduction:
อุปกรณ์: AirPods Pro 2
ระบบปฏิบัติการ: อุปกรณ์ทั้งหมดต้องอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด และทำงานร่วมกับ iPhone ที่ใช้ iOS 18 หรือ iPad ที่ใช้ iPadOS 18 ขึ้นไป

สำหรับการตั้งค่าบน Mac ต้องใช้ macOS Sequoia 15.1 ขึ้นไป

ที่มา : 9to5mac

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related