
SHORT CUT
สมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (APA) เผยผลศึกษา 'Brain Rot' ไม่ใช่แค่ศัพท์โซเชียล แต่คือภาวะทางระบบประสาทที่เกิดจากการเสพติดคลิปสั้น ส่งผลเสียต่อสมาธิและสุขภาพจิต
ผลการศึกษาล่าสุดจากสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (APA) ยืนยันทางการแพทย์ว่า 'Brain Rot' หรือ ภาวะสมองเปื่อย ไม่ใช่เพียงคำสแลงบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่เป็นกลุ่มอาการทางระบบประสาทที่สร้างความเสียหายต่อสมองได้จริง
ย้อนกลับไปในปีที่ผ่านมา พจนานุกรม Oxford ได้ยกให้คำว่า 'Brain Rot' เป็นคำแห่งปี เพื่อนิยามผลกระทบจากการเสพคอนเทนต์คุณภาพต่ำในปริมาณมากเกินไป แต่ล่าสุด งานวิจัยเชิงลึกในหัวข้อ "Feeds, Feelings, and Focus" ได้ยกระดับความกังวลนี้ไปสู่ข้อเท็จจริงทางการแพทย์
จากกลุ่มตัวอย่างกว่า 98,299 คน โดยมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบของวิดีโอสั้น (Short-Form Video) บนแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยอัลกอริทึมอย่าง TikTok, Instagram Reels และ YouTube Shorts ผลลัพธ์บ่งชี้ชัดเจนว่า 'ยิ่งรับชมคอนเทนต์สั้นมากเท่าไร ประสิทธิภาพทางปัญญาด้าน "สมาธิ" และ "การยับยั้งชั่งใจ" ยิ่งลดต่ำลงเท่านั้น'
กลไกที่เกิดขึ้นคือ 'ความเคยชิน' เมื่อสมองถูกกระตุ้นซ้ำๆ ด้วยเนื้อหาที่รวดเร็วและเร้าใจ จะทำให้เกิดภาวะด้านชาต่อกิจกรรมที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ หรือกิจกรรมที่ต้องใช้ความพยายามทางความคิด เช่น การอ่านหนังสือ การแก้ปัญหาซับซ้อน หรือการเรียนรู้เชิงลึก
นอกจากนี้ การกระตุ้นระบบรางวัลของสมอง (Reward System) อย่างต่อเนื่องยังนำไปสู่ผลกระทบลูกโซ่ ทั้งปัญหาการนอนหลับ ความวิตกกังวล ความเหงา และความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีสถิติการออนไลน์เฉลี่ยสูงถึง 6.5 ชั่วโมงต่อวัน
คณะผู้วิจัยสรุปว่า ถึงเวลาที่สังคมต้องตระหนักถึงผลกระทบด้านสุขภาพในวงกว้างจากการใช้ชีวิตอยู่กับคลิปสั้น และแนะว่าทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้คือการ "พัก" วงจรโดพามีนเหล่านั้น และหันกลับมาหากิจกรรมพื้นฐานอย่างการอ่านหนังสือเพื่อฟื้นฟูสมอง
ที่มา : euronews