พี่โทนี่ สอนรัฐบาล แก้ปัญหาราคาหมูแพงอย่างไร ?

หมูแพง กลายเป็นปัญหาที่ไม่ใช่เรื่องหมูๆ อีกทั้งยังส่งผลกระทบ ให้ราคาสินค้าอื่นๆ เขยิบตามขั้นไปด้วย ล่าสุด พี่โทนี่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ไลฟ์สดทางเพจเฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย ขายไอเดียเสนอทางออกให้กับรัฐบาล โดยได้กล่าวถึงปัญหาราคาหมูแพง พร้อมข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาดังต่อไปนี้

ความต้องการปกติ แต่เนื้อหมูไม่เพียงพอ

“ปัญหาหมูแพง มันเกิดจากการที่เรารู้ปัญหาแล้วไม่แก้ปัญหา คือประเทศไทยเรามีจุดอ่อนตรงนี้จริงๆ ปัญหานี่รู้ดีมากเลย แต่ไม่ยอมแก้ ฉะนั้นเราต้องรู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน และต้องแก้ตรงนั้น

“จริงๆ แล้ว หลักมันคือดีมานด์ ซัพพลาย วันนี้หมูเป็นโรค ไม่ได้แก้ โดยเฉพาะแม่หมูตาย เพราะฉะนั้นจึงไม่มีหมูที่จะขุนเพื่อจะให้เพียงพอกับตลาดบริโภคในเมืองไทย ระบบคืออุปสงค์ อุปทาน ความต้องการมีปกติ แต่ซัพพลาย หรืออุปทานที่จะมีให้ กลับไม่เพียงพอ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• กระทรวงพาณิชย์ตรึงราคาเนื้อไก่ 18ม.ค.นี้ บรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน

• เปิดราคาพร้อมเมนูเนื้อจระเข้หลังหมูแพงจนคนหันบริโภคเนื้อจระเข้แทน

• "พาณิชย์" ยัน "มาม่า" ไม่ปรับขึ้นราคา เพื่อช่วยเหลือประชาชนยุคหมูแพง

การแก้ปัญหาระยะสั้น และระยะยาว

พี่โทนี่กล่าวต่อไปว่า “ดังนั้นต้องแบ่งการแก้ปัญหาออกเป็น 2 ส่วน คือ 1 การแก้ปัญหาระยะสั้น ได้แก่ ต้องยอมนำเข้าเนื้อหมู ระยะยาวก็คือ เร่งเอาแม่พันธุ์หมูมาให้กับเกษตรกรขนาดกลางขนาดย่อยเลี้ยง และต้องส่งเสริมพวกเขาเป็นเรื่องเป็นราว

“นอกจากนั้นก็ต้องลดต้นทุน แล้วก็ให้ไฟแนนซ์ ให้เงินอุดหนุน ปัญหาเรื่องของเก่าที่ตายไปเท่าไหร่ ยังไม่ให้เขา ก็ไปให้ซะ แล้วถ้าเขาต้องกู้เพิ่ม เพื่อมาขุนลุกหมูใหม่ ก็ต้องให้เขา มันก็จะได้เดินต่อไปได้

“ปัญหาเฉพาะหน้าอีกอย่างหนึ่งก็คือ การกักตุน เพราะเมื่อหมูราคาดีขึ้น (หมูแพง) ก็อาจจะมีการกักตุนโดยระบบห้องเย็น ซึ่งทราบว่ามีอยู่ 4 – 5 รายที่เป็นระบบห้องเย็น เก็บหมู 3-4 แสนกิโลกรัม ได้ 6 เดือนขึ้นไปอย่างสบายๆ ตรงนี้ก็จะต้องมีการพูดคุยกัน เพื่อขอให้เขาปล่อยเนื้อหมูออกมา”

ขั้นตอนในการแก้ปัญหา 3 เฟส

พี่โทนี่ได้แนะนำการแก้ปัญหาหมูแพงอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ดังนี้

เฟสที่ 1 : ห้ามส่งออก แล้วเจรจาให้กับผู้ค้าเนื้อหมูรายใหญ่ที่กักตุนเนื้อหมูในห้องเย็น ปล่อยเนื้อหมูออกมา

เฟสที่ 2 : นำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศ

เฟสที่ 3 : นำแม่หมูมาให้รายเล็กรายย่อย

“ขณะเดียวกัน ก็ต้องลดต้นทุนให้เขาด้วย ภาษีอะไรที่ไม่จำเป็น ต้องเอาออกไปก่อน อย่างเช่น ภาษีถั่วเหลือง (นำมาทำเป็นอาหารสัตว์) ก็ต้องลดภาษี เพื่อลดต้นทุนในการผลิต พอราคาเนื้อหมูลง ราคาเนื้อไก่ก็จะลงตาม

“และวันนี้ต้องไปเจรจากับเจ้าของฟาร์มไก่รายใหญ่ 3 – 4 ราย ให้หยุดก่อน อย่าเพิ่งขึ้นราคา อย่าซ้ำเติมประชาชน เพราะตอนนี้รัฐบาลเอียนเต็มที่แล้ว

“ผมคิดว่ารัฐบาลน่าจะนำวิธีที่เสนอข้างต้นไปจัดการ แทนที่จะให้เงินหนึ่งพันสี่ร้อยล้านบาท กับกระทรวงพาณิชย์ ที่ (พรรคประชาธิปัตย์) เพิ่งชนะเลือกตั้งซ่อม (ชุมพร สงขลา) มาสดๆ ร้อนๆ ซึ่งจะเอาเงินจำนวนนี้ไปซื้อไก่แพงมาขายในถูก มันไม่ช่วยอะไร เพราะว่าการบริโภคมันมากกว่านั้นเยอะ การให้เงินกระทรวงพาณิชย์ มันแค่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรคร่วมรัฐบาล มากกว่าช่วยเหลือประชาชน ผมเสียดายตังค์”

ที่มา : CARE คิดเคลื่อนไทย