svasdssvasds

สรุปให้ ยื่นสอบสุชัชวีร์ 5 ปี ทำไมรวยขึ้น 3 ร้อยล้าน ?

สรุปให้ ยื่นสอบสุชัชวีร์ 5 ปี ทำไมรวยขึ้น 3 ร้อยล้าน ?

สรุปคำชี้แจงของ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม. กรณีถูกยื่นสอบ ทำไมรวยขึ้น 3 ร้อยล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี

นับตั้งแต่ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ประกาศตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีเรื่องราวต่างๆ ให้ต้องออกมาชี้แจง ตั้งแต่ดราม่าเป็นลูกศิษย์ของหลานไอน์สไตน์ กระทั่งถึงประเด็นล่าสุดที่รุนแรงกว่ามาก นั่นก็คือ มีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ได้ยื่นเรื่องกับคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร หรือ กมธ.ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบสุชัชวีร์ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ว่าทุจริตต่อหน้าที่และร่ำรวยผิดปกติหรือไม่

โดยในวันนี้ รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ดำเนินรายการโดย ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และอมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ ได้สัมภาษณ์สุชัชวีร์ทางโทรศัพท์ และเขาได้ชี้แจงดังต่อไปนี้

สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ข่าวที่น่าสนใจ

1. ทรัพย์สินของสุชัชวีร์

ขณะดำรงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สุชัชวีร์ได้ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน ดังนี้

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 มีทรัพย์สิน 44 ล้านบาท

วันที่ 19 กันยายน 2563 มีทรัพย์สิน 74 ล้านบาท

วันที่ 1 ตุลาคม 2564 มีทรัพย์สิน 342 ล้านบาท

โดยในครั้งหลังสุด เขาได้ยื่นทรัพย์สินของภรรยาด้วย ซึ่งถ้าหากโฟกัสเฉพาะทรัพย์สินที่ยื่นในปี 2564 มีรายละเอียดดังนี้

ทรัพย์สิน ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2564

สุชัชวีร์ มีทรัพย์สิน 141 ล้านบาท หนี้สิน 26 ล้านบาท

ภรรยา มีทรัพย์สิน 200 ล้านบาท หนี้สิน 8 ล้านบาท

รวมแล้วมีทรัพย์ 342 ล้านบาท หนี้สิน 35 ล้าน บาท

2. สุชัชวีร์ ชี้แจง เหตุที่ทรัพย์สินพุ่งกว่า 300 ล้านบาท ในปี 2564

สุชัชวีร์ ชี้แจงว่า ที่ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เพราะตนแต่งงาน (จดทะเบียนสมรส) เมื่อปี 2561 และได้ยื่นแสดงทรัพย์สินในปี 2564 ที่ต้องระบุทรัพย์สินของภรรยาด้วย ซึ่งทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเยอะส่วนใหญ่เป็นของภรรยา (เป็นผู้บริหารระดับสูงในองค์กรแห่งหนึ่ง) และตามข้อกำหนด ต้องคำนวณทรัพย์สินตามมูลค่าในปัจจุบัน โดยทรัพย์สินส่วนหนึ่งเป็นบ้านและที่ดิน เมื่อเวลาผ่านไป จึงได้รับการประเมินที่สูงขึ้น ตามราคาของตลาด   

สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

3. ทำไมทรัพย์สินปี 2563 จึงเพิ่งขึ้นจากปี 2559 กว่า 30 ล้านบาท ?

ในประเด็นนี้ สุชัชวีร์ได้ชี้แจงว่า ในปี 2563 ตนยังไม่ได้ยื่นทรัพย์สินของภรรยาเข้าไปด้วย เพราะเพิ่งมีข้อกำหนดต้องยื่นทรัพย์สินของคู่สมรสในภายหลัง จึงได้ยื่นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ตามที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้

ส่วนเหตุที่ทรัพย์สินของตนเพิ่มขึ้น 30 ล้านบาท ในปี 2563 (จากปี 2559) ก็เพราะส่วนหนึ่งตนเป็นวิศวกรวิชาชีพ นอกจากรับราชการแล้ว ยังมีรายได้จากการประกอบอาชีพวิศวกร อาทิเช่น การออกแบบอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพรยา และมีโครงการอื่นๆ อีกจำนวนมาก รายได้ส่วนใหญ่จึงมาจากวิชาชีพวิศวกร

4. รายได้ขณะดำรงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

โดยสุชัชวีร์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ระหว่างดำรงตำแหน่งอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังว่า ตนมีรายได้ต่อปีอยู่ที่ประมาณ 18.7 ล้านบาท ส่วนใหญ่รายได้มาจากการออกแบบโครงการ เป็นที่ปรึกษา เป็นกรรมการในหน่วยงานต่างๆ

ตนได้เงินเดือนอธิการบดีประมาณ 1 แสนบาท เงินประจำตำแหน่งอธิการบดีเดือนละกว่า 4 แสนบาท เงินประจำตำแหน่งจึงอยู่ที่ประมาณ 5 – 6 ล้านต่อปี รวมถึงโบนัส เบี้ยประชุม การเพิ่มขึ้นของมูลค่าหุ้นที่ครอบครอง แต่ในขณะเดียวกันตนก็มีหนี้ก้อนมหึมา จากการกู้เงินเพื่อสร้างบ้านจำนวน 35 ล้านบาท

ส่วนบุคคลที่ยื่นเรื่องให้คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ตรวจจสอบ ตนก็ไม่ทราบว่าคือใคร และไม่คิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง รวมถึงในกรณีที่หนึ่งในกรรมาธิการฯ เป็น ส.ส. ของพรรคก้าวไกล ที่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ด้วย ตนก็ไม่ได้รู้สึกกังวลแต่อย่างใด

โดยสุชัชวีร์ได้ทิ้งท้ายว่า ตั้งแต่ประกาศจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีบททดสอบต่างๆ เข้ามามากมาย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขตามอัตภาพ มีหน้าที่การงานที่ดี มีครอบครัวที่อบบอุ่น แต่ที่ต้องเข้ามาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ก็เพราะว่าต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นตนต้องทนให้ได้ เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นใหม่ต่อไป

แหล่งข้อมูล LIVE เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand 04 ก.พ. 65

related