svasdssvasds

เคราะห์ซ้ำ! เศรษฐกิจไทย โลกร้อนฉุด GDP 44% สูญเงิน 2 แสนล้านUSD

เคราะห์ซ้ำ! เศรษฐกิจไทย โลกร้อนฉุด GDP 44%  สูญเงิน 2 แสนล้านUSD

รู้หรือไม่? โลกร้อนประเทศไทยจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอยู่ที่ประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณ 44% ของจีดีพี ขณะที่ภาคการส่งออกจะกระทบประมาณ 1 แสนล้านดอลลาร์

SHORT CUT

  • ต้องยอมรับว่าปัญหาเรื่องโลกร้อน โลกรวนได้ส่งผลกระทบมายังประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างไทยมากพอสมควร
  • ควันหลังงาน MLF Sustainable Forum 2025 ที่จัดโดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้หัวข้อ โดยในเวทีเสวนาหัวข้อ “วิกฤติโลก ทางออกไทย”  ชี้ โลกร้อนฉุด GDP 44%  สูญเงิน 2 แสนล้านUSD
  • ทั้งนี้คาดว่าทั่วโลกจะมีวงเงินที่จัดสรรมาให้กับ  Global climate finance จะเพิ่มขึ้นอีกมาก โดยคาดว่าในปี 2030 วงเงินส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.4 – 6.3 ล้านล้านดอลลาร์

รู้หรือไม่? โลกร้อนประเทศไทยจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอยู่ที่ประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณ 44% ของจีดีพี ขณะที่ภาคการส่งออกจะกระทบประมาณ 1 แสนล้านดอลลาร์

ปัญหาเรื่องโลกร้อน โลกรวนได้ส่งผลกระทบมายังประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างไทยมากพอสมควร หนึ่งในประเด็นเด็ดจากควันหลังงาน MLF Sustainable Forum 2025 ที่จัดโดย มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้หัวข้อ โดยในเวทีเสวนาหัวข้อ “วิกฤติโลก ทางออกไทย” ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)  เขาฉายภาพว่า ผลกระทบโลกร้อนได้ส่งผลต่อประเทศไทยจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอยู่ที่ประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณ 44% ของจีดีพี ขณะที่ภาคการส่งออกจะกระทบประมาณ 1 แสนล้านดอลลาร์ หรือกระทบประมาณ 45% ของมูลค่าการส่งออก ซึ่งความเสียหายในระดับนี้เป็นมูลค่าที่มหาศาลซึ่งยากที่จะมีการฟื้นฟูเศรษฐกิจขึ้นมาได้

เขาบอกอีกว่า การป้องกันความเสียหายจาก ภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ทำให้มีการพูดถึงเครื่องมือทางการเงินที่จะเข้ามาใช้ในการแก้ปัญหานี้โดยภาคธนาคารทั่วโลกถือว่ามีส่วนสำคัญ โดยได้มีการใช้เครื่องมือทางการเงินเข้ามาให้สินเชื่อเพื่อสนับสนุนให้เกิดการลดการปล่อยคาร์บอน หรือให้สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโลกร้อน

โดยในปี 2023 นั้นทั่วโลก มีการจัดสรรเงินทุนระดับโลกที่จัดสรรเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Global climate finance) ไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (mitigation) หรือการปรับตัวเพื่อรับผลกระทบ (adaptation) ในวงเงินถึงประมาณ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณ 1.7% ของจีดีพีโลก

ทั้งนี้คาดว่าทั่วโลกจะมีวงเงินที่จัดสรรมาให้กับ  Global climate finance จะเพิ่มขึ้นอีกมาก โดยคาดว่าในปี 2030 วงเงินส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.4 – 6.3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2 – 3 เท่า ขณะที่ในปี 2031-2050 จะเพิ่มขึ้นเป็น 7.1 – 9.2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4 – 5 เท่าจากในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามยังคาดว่าเม็ดเงินที่จะถูกใช้ไปในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะเปลี่ยนจากช่วงปี 2023 ที่เงินทุนกว่า 72% ไปลงทุนในส่วนของภาคพลังงาน และการขนส่ง (energy and transportation) ไปสู่การปล่อยสินเชื่อ และลงทุนในส่วนของการลดคาร์บอนจากภาคการผลิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

related