svasdssvasds

อินเดียทำได้! เพิ่มประชากรเสือโคร่งที่ใกล้สูญพันธุ์ได้สำเร็จ ภายใน 16 ปี

อินเดียทำได้! เพิ่มประชากรเสือโคร่งที่ใกล้สูญพันธุ์ได้สำเร็จ ภายใน 16 ปี

อินเดียเพิ่มประชากรเสือโคร่งได้สำเร็จ หลังเกือบสูญพันธุ์เพราะการเพิ่มขึ้นของประชากร-ขยายตัวของเมือง ทำให้ตอนนี้อินเดียมีเสือโคร่ง 70% ของประชากรเสือโคร่งทั่วโลก

อินเดียประเทศมหาอำนาจด้านประชากรมนุษย์และประชากรเสือ

ครั้งหนึ่งอินเดีย เป็นประเทศมหาอำนาจด้านจำนวนประชากรเสือโคร่งที่มากที่สุดในโลก เนื่องจากมีพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์หลายล้านเอเคอร์ ทำให้มีประชากรเสือโคร่งอาศัยอยู่จำนวนมาก แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปประเทศมหาอำนาจแห่งนี้มีความก้าวหน้ามากขึ้น เติมโตมากขึ้นทั้งความเจริญ เศรษฐกิจ ประชากร วัฒนธรรม และนักท่องเที่ยว แต่ในทางกลับกัน ทั้งหมดนี้แลกมาด้วยประชากรเสือโคร่งที่ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว

เสือโคร่ง Cr. Pixarbay ในช่วงทศวรรษที่ 1940 อินเดียเริ่มขยายอำนาจภายใน ประชากรมนุษย์เพิ่มมากขึ้น นำไปสู่ การขยายพื้นที่ทางการเกษตร การตัดไม้ทำลายป่า และโครงสร้างพื้นฐานในอินเดีย ทำให้พื้นที่ป่าที่เคยกว้างใหญ่เป็นผืนเดียวกัน เริ่มแบ่งส่วนเป็นป่ากระจุกเป็นจุด ๆ ทำให้ที่อยู่อาศัยของเสือเริ่มกระจัดกระจาย

เสือกับคนเริ่มอยู่ด้วยกันไม่ได้

ความท้าทายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี 1971 อินเดียมีประชากร 547 ล้านคน แต่ในปัจจุบันอินเดียมีประชากร 1.4 พันล้านคน ซึ่งกำลังจะแซงหน้าจีน ขึ้นเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก สิ่งที่ตามมาคือ พื้นที่ป่าในอินเดียลดน้อยลง เกิดความขัดแย้งระหว่างคนกับเสือ

เกิดเหตุการณ์หลายครั้งในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เสือโคร่งเข้าโจมตีมนุษย์ในหมู่บ้านและรุกล้ำเข้ามาหาอาหารในบ้านของคน ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ได้มีผู้รุกล้ำแค่เสือ แต่มีช้างป่าที่ใกล้สูญพันธุ์รุกล้ำเข้ามาด้วย จึงบ่งบอกได้ว่า ผู้ได้รับผลกระทบไม่ได้มีเพียงแค่เสือเท่านั้น จากการสูญเสียพื้นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร

การขยายเมืองปละประชากร ส่งผลให้บ้านของเสือถูกรุกล้ำและแคบลง Cr. Pixarbay

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่เพียงแค่เสียพื้นที่ไป เสือยังถูกคุกคามจากกิจกรรมของมนุษย์ด้วย

ในทศวรรษที่ 1980 การขยายตัวของเมืองไร้การควบคุม และเร่งให้เสือโคร่งลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว เสือโคร่งถูกล่าเพื่อการกีฬาและการบริโภค โครงกระดูกและส่วนอื่น ๆ ของมันถูกนำไปใช้ในแพทย์แผนจีน และส่งต่อไปยังผู้ที่ต้องการเครื่องหนังในอีกหลายประเทศ เสือถูกล่าอย่างผิดกฎหมายแบบเละเทะเลยล่ะ

จนมาถึงปี 1972 อินเดียประกาศห้ามล่าเสืออย่างเป็นทางการ แม้พวกมันยังคงเป็นภัยกับชาวบ้าน และมีการให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า การลักลอบล่าสัตว์ถูกกล่าวหาว่าเป็นสาเหตุทำให้เสือโคร่งสูญพันธุ์

ภารกิจเพิ่มประชากรเสือโคร่ง

จากจุดเริ่มต้น ที่อินเดียเคยมีเสือโคร่งแพร่กระจายไปทั่วเอเชีย โดยมีจำนวนสูงถึง 100,000 ตัว ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 จนมาถึงปี 2006 ประชากรเสือโคร่งในอินเดียลดต่ำลงเป็นประวัติการณ์ เหลือเพียง 1,411 ตัวเท่านั้น จนทำให้เสือโคร่งถูกประกาศว่าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในปี 2005

เสือโคร่งเบงกอล Cr. WWF

โครงการเสือโคร่งประสบความสำเร็จ

เพราะเหตุนี้อินเดียจึงพยายามให้ความสำคัญกับเสือโคร่งอีกครั้ง ด้วยการสร้างโครงการเสือโคร่งขึ้น (Project Tiger) ด้วยการทำการย้ายที่อยู่ของผู้คนในหมู่บ้านบางส่วนออกไปพร้อมให้เงินชดเชยค่าย้ายที่อยู่ เพื่อเวนคืนพื้นที่ให้เสือโคร่ง พร้อมกับสร้างทางเดินให้สัตว์ป่าเฉพาะเพื่อเชื่อมโยงที่อยู่อาศัยที่กระจัดกระจายของพวกมัน

รัฐบาลได้ส่งเสริมการอนุรักษ์ด้วยเทคโนโลยี อาทิ โดรน กล้องดักจับ และระบบซอฟแวร์เพื่อติดตามจำนวนประชากร การเคลื่อนไหว และพฤติกรรมของเสือโคร่ง

ความพยายามในการอนุรักษ์ของอินเดียในครั้งนี้ ได้ผลตอบรับที่มีแนวโน้มดีขึ้น เสือโคร่งในอินเดียเริ่มมีประชากรเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจนล่าสุด รายงานจำนวนเสือโคร่งเมื่อปีที่แล้วเผยว่า มีเสือโคร่งในอินเดียแตะ 3,167 ตัวแล้ว

และทำให้อินเดียสามารถพัฒนาเขตอนุรักษ์เสือโคร่ง 53 แห่ง จากเดิมมีเพียง 9 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 75,800 ตร.กม. (ประมาณ 7.5 ล้านเฮกตอร์) ซึ่งนี่คือความหัศจรรรย์สุด ๆ

เสือโคร่งเบงกอล Cr. Pixarbay เพราะความสำเร็จนี้ อินเดียเริ่มแบ่งปันแนวปฏิบัติในการอนุรักษ์เสือโคร่งให้กับประเทศอื่น ๆ ที่กำลังประสบปัญหาประชากรเสือโคร่งลดน้อยลงด้วยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเดลีได้ลงนามในข้อตกลงทวิภาคีในการประชุมเชิงปฏิบัติด้านการอนุรักษ์เสือโคร่ง กับประเทศที่มีเสือโคร่ง อาทิ ไทย กัมพูชา มาเลเซีย บังคลาเทศ และภูฏาน

“เรามีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปีที่เกี่ยวข้องกับเสือ เสือถือเป็นพี่น้องของเราในหลายชนเผ่า อนาคตที่ดีกว่าสำหรับมนุษยชาติจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสิ่งแวดล้อมของเราได้รับการปกป้องและความหลากหลายทางชีวภาพของเรายังคงขยายตัว” นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี กล่าวเมื่อวันอาทิตย์

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ภัยจากมนุษย์จะลดน้อยลง แต่เสือโคร่งทั่วโลกยังคงเสี่ยง ต่อการเผชิญหน้ากับวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่เลวร้าย ตามที่ WWF รายงาน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนรุนแรงทั่วโลกช่วงนี้อาจสร้างปัญหาให้กับเสือโคร่งได้ เช่น ที่อยู่อาศัยที่เปราะบางหรืออาจเกิดภัยพิบัติบางอย่างได้ ดังนั้น จึงต้องเฝ้าระวังกันต่อไป

ที่มาข้อมูล

CNN

related