svasdssvasds

วาฬไรต์ หวิดสูญพันธุ์ เหตุถูกเรือขับชน แถมแล่นเกินกว่าที่กำหนดไว้ถึง 3 เท่า

วาฬไรต์ หวิดสูญพันธุ์ เหตุถูกเรือขับชน แถมแล่นเกินกว่าที่กำหนดไว้ถึง 3 เท่า

วาฬไรต์บริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกกว่าหลายชีวิต เสียชีวิตจากถูกเรือแล่นชน แม้ปัจจุบันจะมีกฎการแล่นเรือในโซนแล่นช้า แต่พบว่ามีหลายครั้งที่เรือแล่นเกินความเร็วที่กำหนดถึง 3 เท่า

ปัจจุบัน เป็นที่ทราบกันดีว่า วาฬไรต์ (Right Whale) ถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากภัยคุกคามจากเรือเดินสมุทร และล่าสุด The Guardian รายงานว่า สถานภาพของ ‘วาฬไรต์’ ที่อาศัยอยู่แถบมหาสมุทรแอตแลนติก กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงจากการที่ เรือหลาย ๆ ลำที่แล่นผ่านโซนแล่นช้า (Slow zone) ละเมิดกฎควบคุมความเร็ว

ปัจจุบันนี้ ประชากรของวาฬไรต์เหลืออยู่ราว 340 ตัว ซึ่งสาเหตุที่วาฬสายพันธุ์นี้ เหลือน้อยลงเรื่อย ๆ ทุกปี ก็เพราะชนเข้ากับเรือจนได้รับบาดเจ็บ หรือไม่ก็เสียชีวิต นั่นก็เพราะ วาฬชนิดนี้มักว่ายอยู่บริเวณผิวน้ำ และด้วยร่างกายที่มีสีเข้มของพวกมันที่กลืนไปกับผิวน้ำ ทำให้คนผู้บังคับเรือยากที่จะสังเกตเห็นวาฬได้

 

วาฬไรต์ที่มหาสมุทรแอตแลนติก Cr. NOAA Fisheries

แล้วเรือที่แล่นอยู่บริเวณดังกล่าวมีกฎอะไรควบคุมหรือไม่ เพื่อลดการสูญเสียของประชากรวาฬไรต์ ชวนย้อนดูกฎความเร็วที่ออกโดย องค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (the national oceanic and atmospheric administration หรือ NOAA) ที่ออกเมื่อปี 2551

ข้อบังคับมีอยู่ว่า เรือทุกลำที่มีความยาว 65 ฟุตขึ้นไป ต้องแล่นเรือที่ความเร็ว 10 น็อต หรือราว ๆ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในโซนเฉพาะ หรือโซนพื้นที่มีการจัดการตามฤดูกาลในแถบชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ  โดยจุดประสงค์ของข้อบังคับนี้ก็เพื่อช่วยปกป้องอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับวาฬนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม กฎดังกล่าวก็ยังไม่สามารถควบคุมอะไรได้มากพอ เพราะการละเมิดกฎเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ นับตั้งแต่เรือบรรทุกสินค้าไล่ไปจนถึงเรือยอร์ชสุดหรูหรา ก็ล้วนถูกบันทึกว่าแล่นเรือด้วยความเร็วเกินกว่าที่ NOAA กำหนดถึง 3 เท่า

สถิติที่ได้รับการบันทึกไว้ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2020 ถึงเดือนกรกฎาคม 2022  เกี่ยวกับประเด็นการแล่นเรือในบริเวณโซนแล่นช้าตามบริเวณชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ พบว่า

ในบรรดาเรือที่แล่นผ่านโซนแล่นช้า เรือบรรทุกสินค้าคือผู้ที่ละเมิดกฎดังกล่าวมากที่สุด คิดเป็นครึ่งหนึ่งของเรือเร่งทั้งหมด

“เรือที่แล่นเร็วสามารถฆ่าวาฬไรต์ในแอตแลนติกเหนือได้” กิ๊บ โบรแกน ผอ. การรณรงค์หาเสียงของโอเชียนากล่าว

“โซนแล่นช้า ที่มีการบังคับใช้อย่างดี คือวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการปกป้องวาฬจากภัยคุกคามบนน่านน้ำ”

กิ๊บ โบรแกน เปรียบเทียบให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้นว่าโซนแล่นช้าในทะเล สามารถเปรียบได้กับ ป้ายลดความเร็วบริเวณโรงเรียน ที่มีไว้เพื่อปกป้องเด็ก ๆ จากอุบัติเหตุบนท้องถนน

แต่ครั้นมีกฎที่ควบคุมความเร็วการแล่นเรือแล้ว เหล่าวาฬก็ไม่วายได้รับผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ โดยปกติแล้ว วาฬจะตกลูกและอาศัยอยู่ที่บริเวณน่านน้ำฟลอริดา จอร์เจีย และเซาท์แคโรไลนา

ฉะนั้น การชนเข้ากับเรือ อาจทำให้วาฬได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกจากเรือ หรือถูกเกี่ยวเข้ากับอุปกรณ์ดักปลาต่าง ๆ ที่มนุษย์วางเอาไว้ ร้ายแรงกว่านั้น วาฬอาจถูกถูกใบพัดเรือเฉือนที่บริเวณลำตัว จนทำให้เสียชีวิตได้

นับตั้งแต่ปี 2017 ที่สหรัฐฯ และแคนาดา มีการบันทึกว่าวาฬไรต์ได้รับความความเสียหายจากเรือถึง 18 ครั้ง โดยมีวาฬที่เสียชีวิตทั้งสิ้น 12 ตัว

 

“หากผู้นำสหรัฐฯ และแคนาดา สามารถเพิ่มมาตรการสำหรับการคุ้มครองวาฬไรต์ในแถบแอตแลนติกเหนือจากภัยคุกคามได้ บางทีวาฬไรต์อาจจะยังไม่ถึงคราวที่ต้องสูญพันธุ์”

 

เราคงได้เห็นแล้วว่า การจำกัดความเร็วการแล่นเรือบนน่านน้ำที่ 10 น็อต สามารถช่วยลดสาเหตุที่อาจนำไปสู่ การบาดเจ็บหรือการเสียชีวิตของวาฬได้ อีกทั้งยังช่วยให้ คนบนเรือสามารถสังเกตได้ง่ายขึ้น ว่าขณะนี้มีวาฬว่ายอยู่บริเวณเรือ จะได้มีการระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

 

ที่มา: The Guardian

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

related