ป้องกันฝุ่น PM2.5 เอาจริงเรื่องเผาป่า ผิด ก.ม. ฝ่าฝืนอาจโทษจำคุกและปรับเงิน
ตอนนี้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 หลายจังหวัด มีค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น และหนึ่งในสาเหตุของปัญหาฝุ่นคือการเผาป่า จึงได้มีมาตรการอย่างจริงจังเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยมีกฎหมายขึ้นเกี่ยวกับการเผาป่า หากฝ่าฝืนระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท
สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 หลายจังหวัด มีค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีแนวทางในการรับมือปัญหานี้โดยออกกฎหมายเกี่ยวกับการเผาป่าซึ่งเป็นอีกสาเหตุของฝุ่น PM 2.5
นายอนุทิน เผยว่าเรื่องฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพประชาชนจำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือปัญหาฝุ่นต้นตอมาจากทั้งเรื่องสภาพอากาศที่เย็นลง ความกดอากาศสูงจากทางตอนเหนือของไทย ส่งผลให้อากาศปิด อีกทางหนึ่งเมื่ออากาศแห้ง ก็ทำให้เกิดไฟไหม้ป่าขึ้นได้ และหลายครั้งก็เกิดจากการกระทำของมนุษย์นี่เอง ทั้งในและต่างประเทศในประเทศต้องจัดการ
“เพื่อแก้ปัญหาผมจะเร่งออกหนังสือเวียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้เตรียมแผนรับมือกับสถานการณ์กฎหมาย บรรเทาปัญหาฝุ่น ป้องกันไฟป่า”
การเผาป่า คือ การกระทำที่ผิด ฝ่าฝืนมีโทษ ซึ่งการเผาป่าทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ส่งผลสุขภาพของประชาชน โดยมีกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สาธารณสุข พ.ศ.2535 การเผาทำให้เกิดเหตุรำคาญ เข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท และความผิดตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท
ค่าฝุ่น PM 2.5 ในวันนี้ 21 พฤศจิกายน 2566 โดยภาพรวมปริมาณ PM 2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน จ.นนทบุรี กรุงเทพฯ จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร จ.อุทัยธานี จ.สุพรรณบุรี และ จ. หนองคาย
- ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 4 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 9.8 - 53.4 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 15.2 - 63.0 มคก./ลบ.ม.
- ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 27.7 - 39.3 มคก./ลบ.ม.
- ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 16.6 - 28.2 มคก./ลบ.ม.
- ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 10.7 - 24.4 มคก./ลบ.ม.
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. เกินค่ามาตรฐาน 23 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 20.5 - 57.1 มคก./ลบ.ม.
ทางกรมควบคุมมลพิษแนะนำการดูแลสุขภาพของประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ส่วนผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
