svasdssvasds

บิ๊กเทคซุ่มเงียบ สูบน้ำใต้ดินใช้พัฒนา AI ! โลกต้องสูญเสียน้ำปริมาณมหาศาล

บิ๊กเทคซุ่มเงียบ สูบน้ำใต้ดินใช้พัฒนา AI ! โลกต้องสูญเสียน้ำปริมาณมหาศาล

"น้ำ" ถือเป็นทรัพยากรสำคัญของโลก หลายอุตสาหกรรมต้องพึ่งพาน้ำ รวมถึงแวดวง AI ที่ล่าสุด บิ๊กเทคถูกรายงานว่า มีการสูบน้ำใต้บาดาลมหาศาลเพื่อนำไปพัฒนา AI ความนิยมตรงนี้ อาจทำให้โลกสูญเสียน้ำราว 6.6 พันล้านลูกบาศก์เมตร

SHORT CUT

  • น้ำใต้บาดาลสุ่มเสี่ยงเจอวิกฤต เมื่อบิ๊กเทคกำลังสูบไปใช้พัฒนา AI 
  • หาก AI ยังเป็นที่นิยมแบบปัจจุบัน ภายในปี 2027 โลกจะสูญเสียน้ำประมาณ 4.2 – 6.6 พันล้านลูกบาศก์เมตร 
  • ในปี 2022 Microsoft มีการบริโภคน้ำเพิ่มขึ้น 34 เปอร์เซ็นต์ Google ใช้น้ำเพิ่ม 22 เปอร์เซ็นต์ ส่วน Meta ใช้น้ำเพิ่ม 3 เปอร์เซ็นต์ 

"น้ำ" ถือเป็นทรัพยากรสำคัญของโลก หลายอุตสาหกรรมต้องพึ่งพาน้ำ รวมถึงแวดวง AI ที่ล่าสุด บิ๊กเทคถูกรายงานว่า มีการสูบน้ำใต้บาดาลมหาศาลเพื่อนำไปพัฒนา AI ความนิยมตรงนี้ อาจทำให้โลกสูญเสียน้ำราว 6.6 พันล้านลูกบาศก์เมตร

ไม่ใช่แค่มนุษย์และสัตว์เท่านั้นต้องใช้น้ำในการมีชีวิตรอด แต่ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอก็จำเป็นต้องใช้น้ำเช่นกัน โดยขณะนี้เอไอ ทำให้เกิดความเป็นกังวลด้านการใช้น้ำ เนื่องจากปัจจุบันหลายบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่กำลังเร่งพัฒนาเอไอ และต้องใช้น้ำจำนวนเพิ่มมากขึ้น

บิ๊กเทคขุดน้ำใต้บาดาลใช้พัฒนา AI

สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์รายงานว่า บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกกำลังก่อให้เกิดความเป็นกังวลครั้งใหม่ เกี่ยวกับการใช้น้ำ

เนื่องจากการเดินหน้าพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือเอไออย่างไม่หยุดยั้ง ก่อให้เกิดความวิตกกังวลด้านสิ่งแวดล้อม เพราะพวกเขาต้องใช้น้ำในการหล่อเย็นศูนย์ข้อมูลเอไอ

โดยทั้ง Microsoft, Google และ Meta มีปริมาณการใช้น้ำเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้ใช้งานบริการออนไลน์ของพวกเขาหลายล้านบัญชี

โลกจะสูญเสียน้ำหลายพันล้านลูกบาศก์เมตร

สถาบันวิชาการต่างๆชี้ว่า ความนิยมในเอไอจะทำให้ปริมาณการสูบน้ำเพิ่มขึ้น โดยจะมีน้ำที่ถูกสูบออกมาจากพื้นดินหรือใต้ดิน ราว 4.2 – 6.6 พันล้านลูกบาศก์เมตรภายในปี 2027 หรือราวครึ่งหนึ่งของปริมาณการบริโภคน้ำของสหราชอาณาจักรในหนึ่งปี

Credit ภาพ REUTERS

ด้านนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเปิดเผยในวารสาร Nature เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นี่คือช่วงเวลาวิกฤตสำหรับการแก้ไขปัญหาการใช้น้ำของโมเดลเอไอ ท่ามกลางวิกฤตการขาดแคลนน้ำ ซึ่งเลวร้ายลงเพราะภัยแล้งและโครงสร้างด้านน้ำประปาที่เก่าอย่างรวดเร็ว

จริงๆ แล้วความเป็นกังวลนี้เพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เริ่มปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้เอไอ โดยโมเดลขนาดใหญ่จำเป็นต้องมีฟาร์มเซิฟเวอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งต้องใช้น้ำเย็นในการหล่อเย็นอุปกรณ์จากความร้อน น้ำบางส่วนจะระเหยไปในกระบวนการหล่อเย็น ขณะที่บางส่วนสามารถกลับมารียูส หรือใช้ได้ใหม่

Credit ภาพ REUTERS

ในปี 2022 Microsoft มีการบริโภคน้ำเพิ่มขึ้น 34 เปอร์เซ็นต์ Google ใช้น้ำเพิ่ม 22 เปอร์เซ็นต์ ส่วน Meta ใช้น้ำเพิ่ม 3 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากพวกเขาต้องใช้งานศูนย์ข้อมูลมากขึ้น

บริษัทเหล่านี้ก็มีเป้าหมายที่จะนำน้ำมากขึ้นกลับเข้าไปในระบบ เช่น น้ำใต้ดิน มากกว่าที่พวกเขาบริโภคไปภายในปี 2030 จึงให้งบประมาณการดำเนินงานเพื่อปรับปรุงปัญหาโครงสร้างพื้นฐานหรือคืนชีพให้แก่ระบบดินชุ่มน้ำ

รายงานยังระบุว่า หนึ่งเดือนก่อนที่ OpenAI จะเสร็จสิ้นการอบรมโมเดล GPT-4 ศูนย์ข้อมูลของพวกเขาที่ตั้งอยู่ในรัฐไอโอว่า บริโภคน้ำราว 6 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนน้ำที่ใช้ในเขตนั้นๆเลยทีเดียว

 

ที่มา: Financial Times

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related