svasdssvasds

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มุ่งสู่ “นวัตกรรมบ้านสีเขียว” รับมือ Climate Change

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มุ่งสู่ “นวัตกรรมบ้านสีเขียว”  รับมือ Climate Change

พามาดู “นวัตกรรมบ้านสีเขียว” ที่สามารถเซฟโลกกู้วิกฤต Climate Change และยังลดใช้พลังงานสูงสุดได้ถึง 18% ต่อ 1 ครัวเรือน โดยแแสนสิริต้นแบบองค์กรสีเขียวตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำเต็มรูปแบบ

ทุกอุตสาหกรรมในภาคธุรกิจหันมาใส่ใจรักษ์โลก พร้อมทั้งได้ออกสินค้า และบริการมาใหม่ๆ เพื่อรองรับลูกค้าสายรักษ์โลกที่มีมากขึ้น อย่างเช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลายแบรนด์ได้เปิดนวัตกรรมบ้านสีเขียว มาเอาใจลูกค้ากัน ล่าสุดแสนสิริได้เปิดตัว Green Living Designed Home นวัตกรรมบ้านสีเขียว ซึ่งมีการประเดิมที่เศรษฐสิริ 11 โครงการใหม่ 1,500 ยูนิต เฉลี่ย 1 ปี ลดการใช้พลังงานได้สูงสุด 18% ต่อ 1 ครัวเรือน

พาดูนวัตกรรมบ้านสีเขียว จากแสนสิริ

โดยนายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริให้ความสำคัญกับการดำเนินธรุกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน และได้ประกาศพันธกิจร่วมกู้วิกฤต Climate Change อาสาเป็นผู้นำในการสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเป็นอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593) พร้อมสร้าง Smart Green-Energy Living Ecosystem การอยู่อาศัยแห่งอนาคตเต็มรูปแบบที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยในอนาคต สู่การพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม จนนำมาสู่นวัตกรรมบ้านสีเขียว

ตัวอย่างบ้านรักษ์โลก

“แสนสิริตระหนักถึงการร่วมรับผิดชอบต่อสังคมในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน การลดการปล่อยของเสีย เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภายใต้พันธกิจแสนสิริ Net-Zero นี้ นวัตกรรมบ้านสีเขียว อีกหนึ่งแผนงานที่สำคัญคือการมุ่งมั่นที่จะส่งมอบทุกโครงการใหม่ของแสนสิริด้วยนวัตกรรมบ้านสีเขียว โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง จนถึงการส่งมอบบ้านพลังงานสะอาด และเป็นที่น่ายินดีว่า ในปีนี้ เราพร้อมส่งมอบบ้านสีเขียวให้กับลูกบ้านในโครงการเศรษฐสิริ 11 โครงการใหม่ ราว 1,500 ยูนิต เพื่อให้ลูกบ้านได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างสมบูรณ์ และที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงาน โดยหนึ่งครัวเรือน สามารถลดการใช้พลังงานได้สูงสุดถึง 18% ต่อปี และได้วางเป้าขยายผลสู่คอนโดมิเนียมแบรนด์เดอะเบสทุกโครงการใหม่ในปี 2567 ที่ส่วนกลางของโครงการจะมีการนำแนวทาง Green Living Designed Home ไปต่อยอดในการดำเนินงาน และตั้งเป้าสู่การลดใช้พลังงานในช่วงแรกให้ได้ราว 6%”

สำหรับแนวคิดนวัตกรรมบ้านสีเขียว (Green Living Designed Home) นี้ ประกอบไปด้วยกลไกในการทำงาน 3 Green Concept เริ่มต้นจาก 1. Green Procurement คือ การเลือกใช้วัสดุ Green Product และเลือกคู่ค้าที่ใส่ใจกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน มีแผนลดการใช้พลังงานและนํ้า ทั้งในการผลิตและการใช้งานระยะยาว ใช้วัสดุในการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการใช้ทรัพยากรและนำกลับมาใช้ใหม่ พร้อมวางเป้าหมายจัดซื้อวัสดุคาร์บอนตํ่า (Low-Carbon) ที่ได้รับการรับรองจากสถาบันที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ แสนสิริได้เลือกใช้วัสดุ Green Product ในการสร้างบ้านไปแล้วกว่า 53%  ตลอดจนผลักดันและสนับสนุนให้พาร์ตเนอร์กว่า 200 ราย ผลิตวัสดุที่รักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ถัดมาคือ 2. Green Construction ที่มีขั้นตอนก่อสร้างเป็นมิตรต่อโลก อาทิ นำวัสดุก่อสร้างชนิดใหม่อย่างไฟเบอร์เฟนส์ (Fiber Fence)

ซึ่งมีกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยคาร์บอน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีน้ำหนักเบากว่าเหล็กมากถึง 3 เท่า ขนส่งและตัดได้ง่าย ไม่มีประกายไฟ มีความแข็งแรงทนทานมากกว่า รวมถึงการนำนวัตกรรม Fully Precast ที่เป็นตัวเลือกการสร้างบ้านยุคใหม่ด้วยผนังคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปจากโรงงานผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปของแสนสิริ มาใช้แทนการก่ออิฐมวลเบาฉาบปูนแบบเดิมๆ ทำให้ลดระยะเวลาการก่อสร้างลง 3 เดือน ลดขยะจากการก่อสร้างได้ถึง 15% ช่วยลดฝุ่นและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในไซต์ก่อสร้างลงเป็นจำนวนมาก

 

และ 3. Green Architecture & Design หรือนวัตกรรมการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน สร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย เช่น Cool Living Designed Home นวัตกรรมบ้านเย็นช่วยประหยัดพลังงาน, Zero Waste Design การออกแบบที่คำนึงถึงการลดปริมาณขยะเหลือทิ้งให้มากที่สุด, Universal Design การออกแบบเพื่อให้ทุกคนที่อยู่อาศัยได้ใช้ประโยชน์ รวมทั้งการผสมผสานแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ให้มีอากาศบริสุทธ์ สะอาดปราศจากเชื้อโรค พร้อมส่งมอบบ้านที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และรองรับการอยู่อาศัยของลูกบ้านอย่างดีที่สุด

จากการที่แสนสิริได้คัดสรรนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย ทั้งความปลอดภัย ความสะดวกสบาย ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้กรอบการทำงาน 3 Green Concept ข้างต้น นำมาสู่นวัตกรรมบ้านสีเขียว ที่มีองค์ประกอบต่างๆ ที่สำคัญ อาทิ Roof Ventilation ฝ้าชายคาระบายอากาศไม่ให้เกิดความร้อนสะสมบนหลังคาบ้าน, Green Glass กระจกเขียวตัดแสงช่วยสะท้อนความร้อน, Breeze Panel หน้าต่างที่มีช่องลมระบายอากาศช่วยให้บ้านปลอดโปร่ง

และอากาศถ่ายเทสะดวก, ติดตั้ง Solar Panel บนหลังคาบ้าน ตลอดจน Solar Battery ที่คลับเฮ้าส์สำหรับกักเก็บไฟใช้ในพื้นที่ส่วนกลางโครงการ, Solar Lighting ไฟส่องสว่างให้ถนนในโครงการและพื้นที่ส่วนกลาง, EV Charger สำหรับชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า, Home Appliances ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน, UV Shield Paint สีทาบ้านชนิดพิเศษที่มีความสามารถในการสะท้อนความร้อนจากแสงแดดออกจากตัวบ้าน และปรับอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นสบาย ซึ่งจะสนับสนุนให้ลูกบ้านแสนสิริและคนรุ่นต่อไปได้เติบโตในสังคมที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

สำหรับแผนการดำเนินงานแสนสิริ Net-Zero ในปี 2566 นี้ นวัตกรรมบ้านสีเขียวสะท้อนภาพรวมความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ อาทิ การพัฒนา Low Energy Community Model โดยยกโครงการบุราสิริ กรุงเทพกรีฑา เป็นโครงการต้นแบบ ที่เริ่มพัฒนาบ้านด้วยวัสดุ Green Materials รวมทั้งติดตั้ง Solar Panel ในบ้านทุกหลัง, ติดตั้ง Solar Light บริเวณส่วนกลาง ติดตั้ง EV Charger ที่คลับเฮ้าส์ส่วนกลางและที่บ้าน เพิ่มการปลูกไม้ยืนต้นและไม้พุ่มในพื้นที่ส่วนกลาง พัฒนาโดยทีมที่จัดตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะ หรือ “R&D team for Net-Zero”

นอกจากนี้ ทุกโครงการของแสนสิริต้องใช้พลังงานสะอาด ด้วยแผนติดตั้ง Solar Panel ในส่วนกลางของโครงการใหม่ 100% รวมทั้งติดตั้ง Solar Panel ในบ้านทุกหลังของโครงการใหม่ ไฟในสวนต้องเป็นไฟพลังงานแสงอาทิตย์ 100%  ส่งผลให้ภายในปีนี้ จะมีบ้านที่ติดตั้ง Solar Panel รวม 1,800 หลัง และอีก 1,500 หลังในปีต่อไป รวมถึงส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายติดตั้ง EV Charger ในทุกโครงการใหม่ของแสนสิริในทุกเซ็กเมนท์ในปี 2568 และคาดว่าสิ้นปีนี้ จะมีบ้านที่ติดตั้ง EV Charger ได้ 1,050 หลัง และอีก 750 หลังในปีต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

related