svasdssvasds

แบงก์ลุยลด "ขวดพลาสติก" เปลี่ยนขวดเป็นของใช้ ใช้ขวด rPET 1.3 ล้านขวด

แบงก์ลุยลด "ขวดพลาสติก" เปลี่ยนขวดเป็นของใช้ ใช้ขวด rPET 1.3 ล้านขวด

ธุรกิจแบงก์มีส่วนช่วยรักษ์โลกได้อย่างไร? วันนี้พาส่องพันธกิจแบงก์ลุยลดขวดพลาสติก เปลี่ยนขวดเป็นของใช้ ใช้ขวด rPET 1.3 ล้านขวด

SHORT CUT

  • ธุรกิจแบงก์เปิดเกมรุกพันธกิจรักษ์โลกด้วยการลดขยะขวดพลาสติก รีไซเคิลเป็นของใช้รักษ์โลก

  • SCB เป็นธนาคารแรกของไทยที่ใช้ขวดที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล

  • ทีเอ็มบีธนชาต เปลี่ยนขยะขวดพลาสติกกว่า 1,700,000 ขวด เป็นไอเท็มของใช้ต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์

ธุรกิจแบงก์มีส่วนช่วยรักษ์โลกได้อย่างไร? วันนี้พาส่องพันธกิจแบงก์ลุยลดขวดพลาสติก เปลี่ยนขวดเป็นของใช้ ใช้ขวด rPET 1.3 ล้านขวด

พันธกิจช่วยโลกให้ร้อนน้อยลง นอกจากจะเป็นหน้าที่ขององค์กรที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ที่เดินหน้าช่วยโลกอย่างต่อเนื่อง ภาคธุรกิจก็ต้องเดินหน้าช่วยเรื่องโลกร้อนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะธุรกิจแบงก์ที่หลายแบงก์ในประเทศไทยเปิดเกมรุกกับพันธกิจต่างๆในการรักษ์โลก หนึ่งในนั้น คือ การลดขยะขวดพลาสติก

วันนี้ #สปริงนิวส์ จะพาไปดูว่ามีแบงก์ไหนทำอะไรบ้าง มาเริ่มกันที่ธนาคารไทยพาณิชย์ เดินหน้าความยั่งยืนให้กับสังคมไทย เริ่มจากการดำเนินงานภายในของธนาคารควบคู่ไปกับการมอบความยั่งยืนให้ลูกค้าและคู่ค้า ตามพันธกิจ Net Zero จากการดำเนินงานภายในปี 2030 ประกาศความพร้อมเปลี่ยนขวดน้ำดื่มเพื่อใช้ในกิจกรรมองค์กรเป็นพลาสติกรีไซเคิล 100% หรือขวด rPET จำนวนปีละกว่า 1.3 ล้านขวด

โดยถือว่าเป็นธนาคารแรกของไทยที่ใช้ขวดที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ซึ่งรับการรับรองมาตรฐานคุณภาพความปลอดภัยและความสะอาดจากองค์การอาหารและยา (อย.) มาตรฐานจาก อย.สหรัฐ ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรป (EFSA) โดยความร่วมมือกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่ดำเนินธุรกิจด้วยหลักความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

แบงก์ลุยลด "ขวดพลาสติก" เปลี่ยนขวดเป็นของใช้ ใช้ขวด rPET 1.3 ล้านขวด

ทั้งนี้เตรียมแผนต่อยอดความร่วมมือกับ GC ด้วยการเก็บกลับขวดพลาสติกใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลพลาสติกเป็นขวดบรรจุภัณฑ์ใหม่ คืนชีวิตให้ขยะพลาสติกใช้แล้วกลับมาสร้างคุณค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมสร้างอนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบองค์รวม พร้อมกันนี้ธนาคารไทยพาณิชย์จะตระหนักถึงบทบาทในการเป็นตัวกลางที่จะผลักดันสังคมยั่งยืน ด้วยเป้าหมายเพื่อมุ่งสู่ Net Zero จากแผนการดำเนินงานภายในของธนาคารภายในปี 2030 และจากการให้สินเชื่อและการลงทุนภายในปี 2050 แม้ว่าสถาบันการเงินจะเป็นธุรกิจที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำ

 

และธนาคารก็ยังให้ความสำคัญที่จะบูรณาการแนวทางการปฏิบัติงานภายในที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยในปีนี้ได้ริเริ่มลดการใช้พลาสติกภายในองค์กร จากการเปลี่ยนขวดน้ำดื่มที่ใช้สำหรับกิจกรรมต่างๆ ของธนาคาร เป็นขวดน้ำที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล 100% จำนวนปีละกว่า 1.3 ล้านขวด โดยเป็นธนาคารแรกที่ริเริ่มใช้ขวดประเภทดังกล่าว

ด้วยความห่วงใยถึงความสะอาดและความปลอดภัยของลูกค้าและผู้บริโภค ธนาคารจึงได้เลือกใช้ขวดน้ำดื่ม rPET (Recycled Polyethylene Terephthalate) ซึ่งเป็นขวดพลาสติกที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลด้วยเทคโนโลยีการรีไซเคิลพลาสติกมาตรฐานยุโรปที่ทันสมัย โดยโรงงานรีไซเคิลพลาสติกคุณภาพสูง ENVICCO หนึ่งใน GC Group ที่ได้รับรองมาตรฐานคุณภาพความสะอาดและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา (อย.) และมาตรฐานจาก อย.สหรัฐ rPET

นับเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาขยะพลาสติกปิดเส้นทางขยะสู่หลุมฝังกลบ โดยหมุนเวียนพลาสติกใช้แล้วในประเทศไทยให้กลับมาเป็นทรัพยากรสำหรับการขึ้นรูปเป็นขวดน้ำใหม่ สามารถลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

อย่างไรก็ตามขวดน้ำดื่ม “น้ำใจไทยพาณิชย์ rPET” โฉมใหม่ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Sustainable Bloom” ความยั่งยืนที่เบ่งบานสู่อนาคต นำเสนอในลวดลายดอกไม้หลากสีรวม 17 สี อันสื่อถึง 17 เป้าหมายแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งยังเป็นตัวแทนแสดงเจตจำนงของธนาคารที่จะส่งมอบความยั่งยืนให้แก่สังคมและดูแลสิ่งแวดล้อมให้กับโลกใบนี้ ทั้งนี้การใช้ขวด rPET สามารถลดปริมาณขยะฝังกลบและขยะที่ถูกทิ้งลงทะเล ลดมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเป็นรูปธรรม

ขวดน้ำดื่ม “น้ำใจไทยพาณิชย์ rPET” ขนาดบรรจุ 320 มิลลิลิตร จำนวน 1.3 ล้านขวด นับเป็นการรีไซเคิลพลาสติกกลับมาผลิตเป็นขวดบรรจุภัณฑ์ใหม่ได้อย่างไม่รู้จบ แม้จะดูเป็นจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับขวดน้ำในอุตสาหกรรมอื่นๆ แต่การลดปริมาณพลาสติกใหม่จำนวน 1.3 ล้านขวดเทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากต้นไม้ 2,200 ต้นในเวลา 1 ปี และคิดเป็นการปล่อยปริมาณก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าการใช้เม็ดพลาสติกผลิตขวดน้ำแบบเดิมถึง 60%

ตามแผนงานการมุ่งสู่ Net Zero ผ่านการปฏิบัติงานภายในธนาคารไทยพาณิชย์ในปี 2030 นั้น การเปลี่ยนขวดน้ำดื่มเป็นขวด rPET จำนวน 1.3 ล้านขวดต่อปี ในช่วงปี 2024-2030 คิดเป็นปริมาณขวด rPET รวมประมาณ 8 ล้านขวด เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากต้นไม้ได้ถึง 13,500 ต้น สามารถบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของโลกได้ในระยะยาว

มาต่อกันที่ ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ที่ประกาศตัวภายใต้ปรัชญา Make REAL Change หรือ เปลี่ยน… เพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น ตอกย้ำการเป็น “ธนาคารเพื่อความยั่งยืน” มุ่งตามกรอบ B+ESG ผสานธุรกิจและความยั่งยืนเป็นเนื้อเดียวกัน ในการเปลี่ยนขยะขวดพลาสติกกว่า 1,700,000 ขวด เป็นไอเท็มของใช้ต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์ ส่งต่อความสุขให้ลูกค้าและรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าใจคุณและโลก

โดยที่ผ่านมาทีทีบีได้มอบของขวัญพรีเมียมให้ลูกค้าในปีใหม่ 2567 ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด “Empower Thais’ Sustainability” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าขับเคลื่อนความยั่งยืนของประเทศ พร้อมช่วยลดปัญหาขยะและมลพิษจากขวดพลาสติกไปได้เกือบถึง 500,000 ขวด ผ่านการคืนชีพขวดพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ (Recycled Plastic) หรือเพิ่มคุณค่าให้กับสิ่งที่ไม่ได้ใช้ (Upcycling) และยังรวมถึงผลิตภัณฑ์จากกระดาษรีไซเคิล (Recycled Paper) และผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (Reusable) ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ใช้ได้ทุกวัน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มินิมอลแบบคนยุคใหม่และใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว

ทั้งนี้ของขวัญพรีเมียม เช่น กระเป๋าช้อปปิ้งสำหรับใส่ในรถเข็น ผลิตจากขวดพลาสติก 5 ขวด ร่มขนาดพกพา ผลิตจากขวดพลาสติก 8 ขวด ร่มกอล์ฟ ผลิตจากขวดพลาสติก 20 ขวด กระเป๋าหนังรีไซเคิลจากเศษหนังที่ไม่ใช้แล้วมาขึ้นรูปใหม่ และผ้าห่มจากขวดพลาสติก 89 ขวดต่อผืนผลิตด้วยนาโนเทคโนโลยีช่วยลดอาการภูมิแก้ที่เกิดจากไรฝุ่น ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล สำหรับผลิตภัณฑ์ในหมวดนี้จะเป็นสมุดโน้ตรักษ์โลก ด้านปกผลิตจากกระดาษรีไซเคิลที่ไม่ฟอกขาว ทำให้ได้สมุดสีน้ำตาลสวยแบบธรรมชาติ ด้านในเป็นกระดาษถนอมสายตาแบบมีเส้นที่ช่วยให้จดบันทึกได้ง่าย

นอกจากผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลแล้วยังมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ในระยะยาว เพื่อลดการใช้หรือซื้อสินค้าใหม่และสร้างขยะเพิ่ม เช่น กระเป๋ากระดาษสังเคราะห์ น้ำหนักเบา ทนทานต่อการฉีกขาดและกันน้ำ ช่วยลดการใช้ถุงพลาสติก ร่มพับกันแดดหน้ารถยนต์ ทำจากผ้าเคลือบไททาเนียมไดออกไซด์ ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ป้องกันแสงยูวีได้ถึง 98% ช่วยลดอุณหภูมิในรถที่จอดกลางแดดได้มากถึง 60% และกระบอกน้ำแสตนเลส สไตล์มินิมอล ผลิตจากแสตนเลส 304 (Food Grade) เก็บอุณหภูมิร้อนและเย็นได้ 10-12 ชั่วโมง มาพร้อมที่จับกันลื่นและสายสะพายหนัง พกพาง่าย ช่วยลดการใช้ขวดน้ำพลาสติก

ทั้งหมด คือ ตัวอย่างธุรกิจแบงก์ที่ใส่ใจเรื่องของขวดพลาสติกทั้งเปลี่ยนขวดเป็นของใช้ และหันใช้ขวด rPET กว่า 1.3 ล้านขวด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related